ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 204

เฉินจื่ออานรีบปล่อยตัวลู่ม่านออก ขยับตัวไปทางอื่น

ลู่ม่านก้มลงไปนั่งยองลงตรงตำแหน่งที่มีไหร้าว เห็นด้านล่างมีของเหลวสีดำไหลออกมา และยังมีกลิ่นหอมของซีอิ๊วที่คุ้นเคยด้วย

หรือว่านี่จะเป็น……

ลู่ม่านดีใจ ยื่นมือไปจะจิ้ม เฉินจื่ออานก็รีบจับมือลู่ม่านเอาไว้

“เสี่ยวม่าน อย่าขยับ”

ลู่ม่านตกใจ เฉินจื่ออานมองดูก้อนสีดำๆนั้นอย่างหวาดกลัว “นี่เป็นไหถั่วที่พวกเราใส่ไว้ครั้งก่อนเหรอ? ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นสีดำแล้วล่ะ? มีราขึ้นเหรอ?”

เฉินจื่ออานพูดแล้วก็ดึงลู่ม่านไปไว้ด้านหลังด้วย “ให้ข้าดูก่อน……”

ลู่ม่านรู้สึกอบอุ่นหัวใจ แต่ก็ผลักเขาออกไป “ไม่เป็นไร ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอก”

เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว “จริงเหรอ?”

“ก็จริงน่ะสิ!” ลู่ม่านสูดหายใจเข้า มองไปยังเฉินจื่ออาน “เจ้าลองดมดูสิ รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมละมุนนี่ไหม?”

เฉินจื่ออานเห็นแล้วก็สูดตาม “เหมือนกลิ่นแปลกๆเลย”

“ถ้าเป็นกลิ่นของราจะหอมขนาดนี้ไหม?” ลู่ม่านพูดจบ ก็ตะโกนออกไปด้านนอกว่า “เสี่ยวเย่ว เร็ว! รีบเอาช้อนกับถ้วยสะอาดมา! ต้องเอาที่ไม่มีน้ำติดมาด้วยนะ”

เหอเย่วรีบเข้าไปยื่นช้อนให้ลู่ม่าน “ทำไมเหรอ? พริกมีปัญหาเหรอ?”

“ไม่ใชๆ ซีอิ๊วของเราน่าจะสำเร็จแล้วล่ะ!”

“จริงเหรอ?” ซีอิ๊วเป็นของที่เหอเย่วกับลู่ม่านทำสำเร็จร่วมกันครั้งแรก ดังนั้นเหอเย่วเลยค่อนข้างคาดหวัง

ทั้งสองกลั้นหายใจเอาไว้ ลู่ม่านเปิดฝาไหออก ตักออกมามองซ้ายมองขวา สุดท้าย นางก็ส่ายหน้าพูดว่า “ยังขาดอีกนิดหน่อย……แต่ว่า ก็ถือว่าไม่เลวเลย อย่างน้อย พวกเราก็ได้รู้ว่าวิธีการก่อนหน้านี้ของเราได้ผล!”

แต่ว่า ทำไมไหนี้ถึงร้าวนะ? ถ้าเปลี่ยนไหล่ะก็ ซีอิ๊วนี่ก็คงจะดองไม่สำเร็จแล้วล่ะ แต่ถ้าไม่เปลี่ยนล่ะก็ ซีอิ๊วก็จะดองไม่สำเร็จเหมือนกัน

คิดไปคิดมาแล้ว ก็ตัดสินใจเปลี่ยนไหดีกว่า หลังจากที่ปิดเสร็จแล้ว ทั้งสามก็ออกมาจากชั้นใต้ดิน

เพิ่งออกมาด้านนอก ก็เห็นเหอเย่วพาผู้ใหญ่บ้านเฉินมา

เห็นลู่ม่านกับเฉินจื่ออาน ผู้ใหญ่บ้านเฉินก็รีบพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าสองคนไปทำอะไรกันมา? ข้าตามหาตั้งนานก็หาไม่เจอ?”

เฉินจื่ออานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ช่วงก่อนยุ่งมากเลย วันว่างเลยใช้โอกาสจัดบ้านเสียหน่อย”

ผู้ใหญ่บ้านเฉินดูท่าแล้วจะไม่มีเวลาทักทายพวกเขาแล้ว เข้ามาก็ดื่มน้ำที่เหอเย่วเตรียมให้เขา แล้วดื่มรวดเดียวหมดแล้ว จากนั้นก็ถึงพูดว่า “ไม่ได้การแล้ว”

“ลุงผู้ใหญ่บ้าน เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่านอย่าทำให้พวกเราตกใจสิ!”

ผู้ใหญ่บ้านเฉินก็พูดเสียงเบาว่า “ผู้ว่าการอำเภอถูกจับแล้ว”

“ว่าไงนะ?” ลู่ม่านอุทานเสียงดัง จากนั้นก็สบตากับเฉินจื่ออาน

“บอกว่าคดโกงเงินไปไม่น้อย ตอนนี้ถูกขุนนางสวินฝู่จากเมืองหลวงนำตัวไปแล้วล่ะ!”

เป็นเหมือนกับที่ผู้ดูแลพูดไว้ก่อนหน้านี้เลย ราชสำนักกำลังตามจับขุนนางที่คดโกงเพื่อยึดทรัพย์มาเข้าท้องพระคลัง

เพราะทั้งสองรู้เรื่องนี้ก่อนแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากนัก แต่ผู้ใหญ่บ้านเฉินกลับตกใจอย่างมาก “ทำไมพวกเจ้าสองคนไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตอนนี้กำลังจับคนที่เข้าใกล้กับผู้ว่าการอำเภอนะ เรื่องนี้จะทำยังไงดี?”

เฉินจื่ออานทำหน้าไม่สนใจ “พวกเรากับผู้ว่าการอำเภอไม่ได้สนิทกันสักหน่อย!”

“นั่นน่ะสิ!” ลู่ม่านพูด

“แต่ว่า……” ผู้ใหญ่บ้านเฉินพูดตะกุกตะกัก เหอเย่วที่อยู่ข้างๆเห็นแล้วก็หาข้ออ้างออกไปก่อน ผู้ใหญ่บ้านเฉินก็ถึงพูดออกมา “แต่เรื่องไร่ทดลองก่อนหน้านั้นก็เอามาจากเขา และไม่เพียงเท่านี้ พวกเรายังกินข้าวกับเขาด้วย……”

ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้นี่เอง เฉินจื่ออานไม่กลัวหรอกนะ

“นั่นเป็นงานราชการ พวกเราไม่ได้ส่งของขวัญสักหน่อย!”

ก็ใช่นะ แต่ผู้ใหญ่บ้านก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี “ไม่ได้ ข้ารู้สึกว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ แล้วคุณชายจวงล่ะ? พวกเราไปหาเขากันไหม ดูว่าเขามีวิธีอะไรหรือเปล่า?”

ผู้ใหญ่บ้านเฉินทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเองทั้งนั้น กว่าเขาจะทำหมู่บ้านไป่ฮัวให้ดีได้ คิดว่าจะใช้โอกาสนี้เลื่อนขั้นสักหน่อย แต่กลับมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

“คุณชายจวงอยู่เมืองหย่งอานยังไม่กลับมา” ลู่ม่านพูด “แต่เรื่องนี้ ลุงผู้ใหญ่บ้าน ท่านไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก”

ในที่สุดผู้ใหญ่บ้านเฉินก็วางใจ เขาปลอบใจตัวเองเสร็จแล้ว ก็ถึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

ไม่นานเรื่องที่ผู้ว่าการอำเภอถูกจับเพราะคดโกงก็แพร่กระจายไปทั่วอำเภอเฟิงหนาน ทำให้พวกผู้ชายชาวสวนกลายเป็นนักวิเคราะห์เรื่องการเมืองขึ้นมา

ในสวนในไร่ ก็จะเห็นทุกคนพูดถึงเรื่องนี้กันใหญ่

บอกว่า หลังจากที่ผู้ว่าการอำเภอถูกจับตัวไปแล้ว ในอำเภอก็มีคนมากมายถูกตรวจสอบ และทุกคนที่เข้าร่วมการคดโกงหรือรับสินบน ก็จะถูกจับเข้าคุกทั้งหมด

รอผู้ว่าการอำเภอคนใหม่ที่ราชสำนักส่งมาสอบสวนและตัดสินโทษ

แน่นอนว่า ในนี้ก็มีคนที่ถูกจับเยอะมาก เพราะพวกพลตระเวนอยากเอาหน้ากับผู้ว่าการอำเภอคนใหม่ จึงจับคนมาโดยไม่สนว่าคนผู้นั้นผิดหรือไม่

จึงทำให้คนในอำเภอเฟิงหนานต่างหวาดกลัวกันไปหมด

ไม่รู้ว่าใคร พูดถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้เฉินจื่ออานกับผู้ว่าการอำเภอเคยมีสัมพันธ์กัน ทำให้คนในหมู่บ้าน ที่พอเห็นเฉินจื่ออานแล้วก็จะหลบไปไกลๆทันที

เดิมทีโรงเรียนที่เปิดทำการในเดือนแปด เพราะเรื่องนี้ หลายครอบครัวที่ลงสมัครต่างก็ขอเงินคืนกันหมด บอกว่าตอนนี้หมู่บ้านไป่ฮัวไม่เจริญเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ที่นี่อันตรายมากเกินไป พวกเขาไม่อยากให้ลูกตัวเองต้องมาเสี่ยงอันตราย

ผู้ใหญ่บ้านเฉินก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาขอเงินค่าสมัครคืนอย่างดุเดือด เขาขวางไม่อยู่จริงๆ จึงต้องไปหาเฉินจื่ออาน เพราะยังไงพวกเขาก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงเรียน ต้องมาคุยด้วยกัน

ทั้งสามกำลังคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้นด้านนอกก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น ลู่ม่านเพิ่งลุกขึ้นก็เห็นเหอซานวิ่งออกไปข้างนอกก่อนแล้ว

“นายท่าน แม่นาย ด้านนอกมีคนมาเยอะมาก บอกว่าจะขอเงินคืนกัน”

ผู้ใหญ่บ้านเฉินรู้สึกเสียใจ “ข้าไม่คิดเลยจริงๆ คนพวกนี้จะตามข้ามาด้วย พวกเขาน่าจะตามข้ามา ขอโทษจริงๆนะ……”

ตอนนี้ไม่มีเวลามาฟังผู้ใหญ่บ้านเฉินอธิบายแล้วล่ะ ประตูขวางคนพวกนั้นไว้ไม่ได้แล้ว!

เฉินจื่ออานรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไป “ข้าไปพูดกับพวกเขาเอง”

ลู่ม่านเห็นแล้วก็รีบลุกตามไป

นอกประตู มีคนในหมู่บ้านมากมายล้อมเอาไว้ บางคนแค่มาดู แต่พอเห็นคนโวยวายขึ้นมา พวกเขาก็โวยวายตามบ้าง

สถานการณ์แบบนี้ ที่จริงก็เหมือนกับการแห่ไปถอนเงินจากธนาคารเลย

พอมีคนถอนสำเร็จ คนอื่นๆก็จะพุ่งเข้ามาถอนกัน ถึงแม้จะเป็นธนาคารที่แกร่งแค่ไหน ก็ต้องมีล่มกันอยู่ดี

ฉากวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ น่าจะไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบนะ? ลู่ม่านกวาดตามองรอบๆ สุดท้ายก็จ้องไปยังตรงกลางของหมู่ผู้คนที่ตะโกนเสียงดังที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน