ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 211

ใส่ร้ายกันเกินไปแล้ว ผู้ใหญ่บ้านเฉินที่ใจเย็นมาตลอด ก็อดไม่ได้ตกใจจนใบหน้าซีดเซียว

“จะพูดกล่าวหากันแบบนี้ไม่ได้นะ ที่นี่พวกเรามีแต่คนแก่ จะมีคนชั่วได้ยังไง!”

“จะมีคนชั่วหรือไม่ จับกลับไปแล้วค่อยว่ากัน” ว่าแล้ว เขาก็โบกมือ “อย่าหยุด จับไปให้หมด……”

“หยุดนะ!” เฉินจื่ออานเบียดออกมาจากหมู่ผู้คน ถึงแม้เขาจะรังเกียจในสิ่งที่หัวหน้าผู้จับหน้าโทษคนนี้ทำ แต่เวลาแบบนี้ เฉินจื่ออานก็ไม่มีทางอื่นเหมือนกัน

เขารีบพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ครั้งก่อนตอนอ๋องหนิงมา พวกเราก็ไปเจอกันแล้ว”

หัวหน้าผู้จับนักโทษคนนั้นได้ยิน ก็เหลือบตามองเฉินจื่ออาน “เหมือนจะเคยเจอนะ”

“ใช่!” เฉินจื่ออานพูดด้วยรอยยิ้ม “คนตระกูลเฉินของเราซื่อสัตย์กันทุกคน ท่านอ๋องหนิงก็รู้ดี พวกเราจะเป็นคนชั่วของราชวงศ์ก่อนที่เหลือรอดได้ยังไง?”

ไม่คิดว่าผู้จับนักโทษคนนั้นจะแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ข้านึกออกแล้ว เจ้าเป็นเฉินจื่ออานใช่ไหม? ก่อนหน้านี้ได้รับคำชมจากผู้ว่าการอำเภอต่างๆนานา แถมยังเอางานการทดลองปลูกพริกให้เจ้าด้วย”

เฉินจื่ออานอึ้ง หัวหน้าผู้จับนักโทษคนนั้นก็พูดต่อว่า “คนอื่นๆไม่ต้องจับ จับแค่คนนี้ก็พอ”

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” เฉินจื่ออานพยายามขัดขืน

ลู่ม่านหวั่นใจ ผู้ใหญ่บ้านเฉินที่อยู่ข้างๆก็ทนต่อไปไม่ไหว “ผู้ว่าการอำเภอคนก่อนแค่มาส่งหนังสือราชการเท่านั้น ไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรอีกเลย!”

“ไม่มีเหรอ?” หัวหน้าผู้จับนักโทษคนนั้นแสยะยิ้มเย็นชา “คนทั้งตุลาการเขารู้กันหมดแล้ว ผู้ว่าการอำเภอชมว่าอาหารที่พวกเจ้าทำอร่อย อีกอย่าง ตระกูลเฉินใช้เวลาแค่ครึ่งปีก็พัฒนาไปไกลขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะได้รับการดูแลจากผู้ว่าการอำเภอ พวกเจ้าจะราบรื่นขนาดนี้เหรอ? ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว พวกเจ้ายังจะแก้ตัวอะไรอีก?”

นี่มันกล่าวหากันซึ่งๆหน้าชัดๆ

ลู่ม่านยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ผู้จับนักโทษคนนั้นก็พูดต่อว่า “ผู้หญิงคนนี้ก็นำตัวไปด้วย พวกเจ้าเป็นพวกเดียวกัน!”

“ไม่เกี่ยวกับภรรยาของข้า!” เฉินจื่ออานรีบพูด “นำตัวข้าไปก็พอแล้ว!”

ไม่คิดว่า ผู้จับนักโทษคนนั้นไม่สนใจเขาเลย สั่งให้คนเข้าไปจับตัวพวกเขาสองคนไว้ ลู่ม่านกลับรู้สึกวางใจ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ขอแค่มีเฉินจื่ออานอยู่ข้างๆ ถึงแม้จะต้องเข้าคุกด้วยกัน นางก็ไม่กลัวหรอก

วินาทีที่จะถูกจับตัวไป อาจารย์โจวก็รีบเดินมา ด้านหลังมีเหอเย่วตามมาด้วย เมื่อกี้หลังจากที่เกิดเรื่อง ลู่ม่านก็รีบใช้ให้เหอเย่วไปตามอาจารย์โจวมา

ถึงแม้อาจารย์โจวไม่ได้เป็นขุนนางแล้ว แต่เขาเป็นถึงนักปราชญ์ คำพูดของเขาก็ยังพอมีน้ำหนักอยู่บ้าง

“ช้าก่อน!” อาจารย์โจวตะโกนเสียงดัง

ผู้จับนักโทษคนนั้นหันกลับไปมอง “เจ้าเป็นใคร? ถ้าบังอาจกระทบต่องานราชการละก็ ข้าจะจับเจ้าไปด้วย!”

อาจารย์โจวลูบเคราช้าๆ “ข้ามีนามสกุลว่าโจว!”

ไม่รู้ว่าพูดจับนักโทษคนนั้นเคยได้ยินชื่ออาจารย์โจวรึเปล่า ลู่ม่านรู้สึกว่าปฏิกิริยาของเขาแปลกมาก เหมือนพยายามไม่สนใจอาจารย์โจว แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าเสียมารยาทกับอาจารย์โจว

“ที่แท้ก็เป็นท่านอาจารย์โจวนี่เอง” ผู้จับนักโทษคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม

“ข้ามาที่นี่แค่อยากพูดคำเดียว ถ้าหากท่านพยายามจะบอกว่าเฉินจื่ออานมีความผิด ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่โบราณว่าไว้ว่า ลงโทษผู้ทำผิดได้แต่อย่าพาลไปถึงครอบครัวเขา แม่นางลู่เป็นผู้หญิงอ่อนแอ นางจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? ขอท่านโปรดปล่อยตัวนางด้วยเถิด”

อาจารย์โจวพูดอยากเกรงใจ สุดท้ายพูดจับนักโทษคนนั้นก็ยอมปล่อย “ในเมื่ออาจารย์โจวพูดเช่นนี้แล้ว งั้นข้าก็จะทำตามที่ท่านบอกแล้วกัน”

เขาหันกลับไปพูด “ปล่อยแม่นางคนนั้นไป!”

ลู่ม่านมองดูเฉินจื่ออานอย่างเป็นกังวล เฉินจื่ออานยิ้มให้กับนาง แล้วพูดว่า “ดูแลตัวเองดีๆนะ”

รอตอนที่ตาแก่เฉินมา เฉินจื่ออานก็ถูกนำตัวไปแล้ว บรรยากาศที่คึกคักในตอนแรกก็ล่มสลายในพริกตา หลังจากที่รู้เรื่องนี้แล้ว ตาแก่เฉินก็แทบเป็นลมหงายหลังลงไป ยังดีที่ผู้ใหญ่บ้านเฉินประคองตัวเขาไว้ทัน

“จื่ออานเพิ่งถูกนำตัวไป ยังไม่มีการตัดสินโทษ ยังพอมีโอกาสอยู่บ้าง ท่านพี่อย่ากังวลไปเลยนะ”

แตแก่เฉินจะไม่กังวลยังไง ลูกชายแต่ละคนของตัวเองเกิดเรื่องกันแทบทุกคน เขาจะไม่กังวลได้ยังไง? แต่ว่ากังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ อ๋อมีเพียงแต่จะเพิ่มภาระให้ผู้อื่น

ตาแก่เฉินส่ายหน้าอย่างเข้มแข็ง “ถ้าไม่เป็นไร ตอนนี้มาคิดหาวิธีช่วยจื่ออานกันเถอะ!”

ผู้ใหญ่บ้านเฉินพูดว่า “ทางด้านจื่ออานยังไม่มีอันตรายอะไรหรอก ได้ยินมาว่า ผู้ว่าอำเภอที่มาใหม่จะเข้ารับตำแหน่งอีกสองวัน ถ้าผู้ว่าอำเภอคนใหม่ตั้งใจตรวจสอบดีๆ จื่ออานอาจจะถูกปล่อยตัวกลับมาก็ได้”

ผู้ใหญ่บ้านเฉินพูดได้มีเหตุผลมาก แต่ในใจลู่ม่านก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี นางไม่กล้าผ่อนคลาย นางรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้น

“ข้าอยากไปทุกที่ตำบลหน่อย” ลู่ม่านพูด

อาจารย์โจวรู้ว่านางเป็นห่วง จึงพยักหน้าพูดว่า “เจ้าไปก็ดีเหมือนกัน ไปหาตาแก่อู๋นั่นดู เขากับตระกูลจวงสนิทกัน ไม่แน่เขาอาจจะมีวิธีก็ได้ ส่วนเรื่องในหมู่บ้าน มีข้าอยู่ เจ้าวางใจได้”

ลู่ม่านพยักหน้าอย่างซาบซึ้งใจ “อาจารย์โจว ข้าไม่รู้ว่าจะขอบคุณท่านยังไงดี”

“งั้นรอเจ้ากลับมาก็ทำอาหารอร่อยๆให้ข้ากินแล้วกัน” อาจารย์โจวพูดด้วยรอยยิ้ม

“ได้เจ้าค่ะ” ลู่ม่านพูดจบ ก็เรียกเหอเย่วไปที่ตำบลด้วยกัน

รถม้าของทั้งสองตามขบวนที่จับตัวเฉินจื่ออานไป ไปจนถึงในตำบล เห็นพวกเขาไปนอนพักอยู่ในโรงเตี๊ยม พวกนางก็ถึงรู้สึกตัวว่าต้องไปร้านยาฉืออาน

ยุคนี้มีกฎห้ามเดินทางยามวิกาล ดังนั้นพอฟ้ามืดแล้วพวกเขาจึงเดินทางต่อไม่ได้

ลู่ม่านเล่าเหตุการณ์ในตอนนี้กับท่านอู๋ ท่านอู๋โกรธมาก “มีอย่างนี้ที่ไหนกัน แค่จัดการผู้ว่าอำเภอที่คดโกงจะมีประโยชน์อะไรกัน? เจ้าพวกเจ้าหน้าที่รัฐกระจอกๆพวกนี้ก็ยังใช้อำนาจข่มเหงชาวบ้านไปทั่วอยู่ดี”

ลู่ม่านรู้สึกเศร้าใจ เป็นห่วงเฉินจื่ออานแต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป

ท่านอู๋เรียกคนจัดห้องให้พวกนางนอน แล้วถึงจะพูดว่า “ข้าไปติดต่อคนในตุลาการที่ข้ารู้จักก่อน รู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินจื่ออานก่อน พอได้ข่าวแล้วข้าจะมาบอกเจ้าทันที พรุ่งนี้เช้าข้าจะตามขบวนที่จับตัวเฉินจื่ออานไปด้วย ข้าจะดูสิว่าคนพวกนั้นคิดจะทำอะไรกันแน่!”

คำพูดของท่านอู๋ ทำให้ความกังวลในใจของลู่ม่านละลายกลายเป็นน้ำตาที่แทบจะเอ่อล้นออกมา

ท่านอู๋ลนลาน “ยัยหนู จะร้องไห้ไม่ได้นะ ถึงแม้ข้าจะอายุมากแล้ว แต่ข้าก็ไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้จริงๆ!”

สมแล้วที่เป็นตาแก่ขี้เล่น ลู่ม่านถูกเขาหยอกจนหัวเราะ

ท่านอู๋รีบไปจัดการ ลู่ม่านล้างหน้าเสร็จแล้วก็นอนบนเตียง แต่ทำยังไงก็นอนไม่หลับ เหอเย่วก็เช่นกัน นอนไม่หลับทั้งคืน

จนกระทั่งฟ้าด้านนอกเริ่มสว่าง ทั้งสองก็รีบลุกจากเตียง ล้างหน้าเสร็จแล้ว ก็ได้ยินคนมาเคาะประตูห้อง “ท่านอู๋บอกว่าไปได้แล้วขอรับ!”

ลู่ม่านรีบออกไป ทั้งสามขึ้นรถม้าอีกครั้ง

เหอเย่วเป็นคนขับรถม้า แต่พอท่านอู๋มาแล้ว เขาว่าจะขับเอง เหอเย่วจึงต้องเข้าไปนั่งในรถม้ากับลู่ม่าน

ขับตามขบวนไป จนถึงตอนเที่ยง ในที่สุดก็ถึงอำเภอเฟิงหนาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน