ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 212

อำเภอเฟิงหนานไม่รู้ว่าเป็นเพราะเปลี่ยนผู้ว่าการอำเภอคนใหม่หรือเปล่า ทั้งอำเภอดูคึกคักขึ้นมา ขนาดพ่อค้าแผงขายเล็กๆยังตะโกนโฆษณาสินค้าอย่างมีพลังเลย

แต่ลู่ม่านไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจพวกพ่อค้า ในใจนางเอาแต่เป็นห่วงเฉินจื่ออาน

มองดูขบวนเข้าไปในตุลาการ ลู่ม่านพวกเขาก็หยุดรถม้า ทั้งสามนั่งอยู่ในโรงน้ำชาเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากหน้าประตูศาลาว่าการมากนัก ท่านอู๋คุยกับลูกค้าในร้าน

ได้ยินจากปากลูกค้าในร้านบอกว่า ตอนนี้คุกในตุลาการมีแต่คนที่ถูกจับมาเพราะเกี่ยวข้องกับคดีคดโกงของผู้ว่าการอำเภอคนก่อน ทั้งหมดต่างก็รอให้ผู้ว่าการอำเภอคนใหม่มาตัดสินโทษ

ดังนั้น ตอนนี้เฉินจื่ออานจึงไม่มีอันตรายอะไร

เหมือนที่พวกเขาคิดไว้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ลู่ม่านได้รับคำตอบที่แน่ใจแล้วก็ค่อยสบายใจหน่อย

หลังจากที่ออกจากโรงน้ำชา ทั้งสามก็ไปพักในโรงเตี๊ยมไม่ไกลมาก หลังจากที่มีที่พักผ่อนแล้ว ที่เหลือก็แค่ต้องรอเวลา

ถ้าเป็นเมื่อก่อน พวกเขายังคิดหาทางไปดูในคุกได้ แต่ตอนนี้กำลังตรวจสอบเรื่องการทุจริตอยู่ ถึงจะมีเงินแค่ไหนก็ไม่กล้าให้เข้าไปง่ายๆหรอก

ถ้าผิดพลาดขึ้นมา ไม่แน่ตอนแรกไม่เป็นไร ก็อาจจะถูกเกี่ยวโยงไปด้วย

พวกเขารออยู่สองวัน ในที่สุดก็ได้ข่าวของผู้ว่าการอำเภอคนใหม่มารับตำแหน่งสักที

ผู้ว่าการอำเภอคนใหม่มาแล้ว ทุกคนต่างก็ดีใจกันมาก และไปต้อนรับกันที่หน้าประตูเมืองกันหมด ลู่ม่านพวกเขาก็ไปเหมือนกัน เห็นรถม้าคันเล็กๆที่ค่อนข้างถ่อมตัว ขับผ่านหมู่ผู้คนตรงไปยังตุลาการช้าๆ

ทุกคนต่างก็พูดกันว่า “ผู้ว่าการอำเภอคนนี้ดูแล้วน่าจะเป็นขุนนางซื่อสัตย์”

“นั่นสิ เจ้าดูรถม้านี่สิ ถ่อมตัวมากเลยนะ”

“หวังว่าอย่าเหมือนเมื่อก่อนก็พอ”

ท่านอู๋กับลู่ม่านสบตากันแล้วยิ้ม “ดูท่าแล้ว น่าจะมีความหวังแล้วล่ะ”

“ขอให้เป็นแบบนั้นนะ!” ลู่ม่านรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“พวกเราไปเจอไหม?” ท่านอู๋พูดจบ ก็เดินตามหมู่ผู้คนไปหน้าประตูศาลาว่าการจริงๆ รถม้าเข้าไปยังประตูหลังแล้ว ทั้งสามถูกผู้จับนักโทษขวางไว้ด้านนอก

ปกติท่านอู๋ถ่อมตัวมาก แต่เพื่อเรื่องนี้ เขากลับยอมละทิ้งชื่อเสียงหน้าตา

ผู้จับนักโทษได้ยินแล้ว ลังเลสักพักแล้วเข้าไปรายงาน ไม่คิดว่า สักพักใหญ่เขาก็เดินออกมาบอกว่า “ผู้ว่าการอำเภอของเราบอกแล้วว่า วันนี้เขาเพิ่งมาถึงที่นี่ ต้องการสำรวจที่นี่ก่อน ไม่เจอใครทั้งนั้น!”

ท่านอู๋แทบกระอักเลือด ไม่ยอมไว้หน้าเขาเลยเหรอ

ลู่ม่านกลับอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง “ดูแบบนี้แล้ว ผู้ว่าการอำเภอคนใหม่คนนี้ไม่ใช่คนถ่อยที่ประจบคนใหญ่คนโต ไปกันเถอะ คงต้องรอวันเปิดศาลอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้แล้วล่ะ!”

ท่านอู๋พยักหน้าแล้วเดินกลับไป

เช้าวันต่อมา พอฟ้าสว่างพวกเขาสามคนก็เดินทางไปยังตุลาการทันที วันนี้เป็นวันแรกที่ผู้ว่าการอำเภอคนใหม่เปิดศาล ทุกคนต่างก็อยากเห็นใบหน้าของผู้ว่าการอำเภอกันหมด

เพราะยังไง สำหรับชาวบ้านที่นี่แล้ว ผู้ว่าการอำเภอเป็นเสมือนพ่อแม่เลยก็ว่าได้

ดังนั้น ตอนที่ทั้งสามเพิ่งถึงด้านนอก ก็ถูกคนโอบล้อมไว้หมด ใช้เวลาและแรงเยอะมากกว่าจะเบียดเข้ามาในหมู่ผู้คนได้ และยืนอยู่ริมสุด

รอถึงเวลาแล้ว พวกพลตระเวนยกของขึ้นมาขึ้นศาล จากนั้นก็เป็นซือเย่*หนุ่ม(*ที่ปรึกษา) เดินหลังตรงเข้ามานั่งข้างๆ

ตามด้วยเสียงเปิดศาล ม่านด้านหลังก็ถูกเปิดออก ชายหนุ่มที่สวมชุดราชการของขุนนางขั้นที่เจ็ด เดินเข้ามาจากด้านล่างช้าๆ

ผู้ว่าการอำเภอเดินออกมา ก็ทำเอาผู้คนฮือฮากันหมด

“ผู้ว่าการอำเภอหน้าตาดีจริงๆ”

“นั่นสิ เหมือนละครที่เคยดูเลย”

ลู่ม่านก็อึ้งเหมือนกัน แต่กลับไม่ใช่เพราะความหล่อของผู้ว่าการอำเภอ แต่เพราะผู้ว่าการอำเภอคนนี้หน้าคุ้นมาก!

เป็นไปได้ยังไงกัน? คนคนนั้น ทำไมหน้าตาเหมือนเฉินจื่อคังเลย?

เหอเย่วไม่เคยเจอเฉินจื่อคัง เห็นแล้วก็ผลักลู่ม่านเบา “พี่เสี่ยวม่าน เป็นอะไรไปเหรอ?”

“ท่านอู๋……” ลู่ม่านกลับเรียกท่านอู๋ที่อยู่ข้างๆ ท่านอู๋ก็อึ้งเหมือนกัน “คนผู้นี้ ทำไมเหมือนกับน้องชายของจื่ออานเลย……”

“ท่านก็ดูออกใช่ไหม?” ลู่ม่านเม้มริมฝีปาก นางไม่ได้มองผิดไป ท่านอู๋เคยเห็นเฉินจื่อคังแค่ไม่กี่ครั้งยังจำได้เลย

เพื่อความแน่ใจ ลู่ม่านรีบหันไปถามผู้หญิงข้างๆ “ใต้เท้าท่านนี้ชื่ออะไรเหรอจ๊ะ?”

ได้ยินดังนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็มองลู่ม่านตั้งแต่หัวจรดเท้า “ดูเจ้าก็ไม่เหมือนหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงาน? และไม่เหมือนผู้หญิงที่มีลูกสาวที่กำลังจะแต่งงาน จะถามไปทำไม?”

ลู่ม่าน “……” หรือว่าการถามชื่อผู้ชายก็คือต้องแต่งงานด้วยเหรอ?

เหอเย่วที่อยู่ข้างๆหัวเราะแล้วพูดว่า “ป้าเข้าใจผิดแล้วล่ะ ฮูหยินของเราแค่อยากถามแทนน้องสาวในบ้านน่ะ!”

ผู้หญิงคนนั้นได้ยินแล้วก็พยักหน้า “อย่างนี้นี่เอง” เงียบสักพัก แล้วนางก็พูดต่อว่า “ชื่อของใต้เท้าท่านนี้ออกมาพร้อมกับหนังสือคำสั่ง ข้ามีญาติที่ทำงานเป็นผู้จับนักโทษในศาลาว่าการ ได้ยินมาว่า ชื่อซวนเหวินลี่!”

ซวนเหวินลี่ ทำไมถึงชื่อซวนเหวินลี่ล่ะ?

ลู่ม่านขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม หรือว่าโลกนี้จะมีคนที่หน้าตาเหมือนกันจริงๆ?

กำลังคิดอยู่นั้น ก็มีคนนำตัวนักโทษขึ้นมา ครั้งนี้คนที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีคดโกงของผู้ว่าการอำเภอคนก่อน จับผิดจับถูกบ้างเยอะเหมือนกัน

เอาออกมาทีก็เจ็ดแปดคน ส่วนใหญ่ก็เป็นนักธุรกิจเศรษฐีและชาวนาในอำเภอ

พอออกมาก็ได้ยินเสียงคร่ำครวญถูกใส่ร้าย

เฉินจื่ออานเป็นคนสุดท้ายที่ถูกนำขึ้นมา อยู่ในคุกหลายคืน เขาก็ยังดูดีอยู่ ตอนที่ลู่ม่านเห็นเขาก็โบกมือให้เขา

เฉินจื่ออานขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เหมือนเป็นห่วงกับการกระทำแบบนี้ของนาง

ลู่ม่านส่ายหน้าบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร

เสียงป๊าบดังขึ้นทั่วศาล เฉินจื่ออานหันไปมองใต้เท้าตรงหน้า จากนั้นเขาก็ตกใจเหมือนกัน

“จื่อคัง……” เฉินจื่ออานเรียกออกมาอย่างไม่รู้ตัว ผู้ว่าการอำเภอได้ยินแล้วก็ก้มลงไปมองเขา ลู่ม่านก็รีบมองไป พยายามสังเกตความผิดปกติของผู้ว่าการอำเภอคนนี้

แต่ไม่มีเลย มองไม่ออกเลย

แต่เขาที่พอได้ยินเฉินจื่ออานพูดแบบนี้ ก็พูดอย่างเข้มงวดว่า “อยู่ในศาลยุติธรรม ใครอนุญาตให้เจ้าพูดจาพร่ำเพรื่อกัน? พวกเจ้าจับตัวมันไปโบยสิบที!”

ยังไม่ทันได้เริ่มสอบสวน ก็จะโบยสิบทีแล้วเหรอ

ลู่ม่านลนลาน ท่านอู๋รีบห้ามนางไว้ “อย่าร้อนใจไป ตอนนี้ร้อนใจไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเขาเป็นเฉินจื่อคังจริง อาจจะกลับมาแก้แค้นก็ได้ พวกเราควรจะระมัดระวังถึงจะถูก อย่าโดนเขาจับตัวไป”

ลู่ม่านกัดฟัน จึงต้องมองดูเฉินจื่ออานถูกโบยซึ่งๆหน้า

มือปราบคนนั้นคงอยากจะเอาหน้ากับผู้ว่าการอำเภอคนใหม่ จึงตีอย่างแรง

พอโบยเสร็จสิบที เฉินจื่ออานก็แทบจะสลบอยู่แล้ว

หลังจากที่โบยเสร็จแล้ว ก็เริ่มทำการสอบสวนอย่างเป็นทางการ มือปราบทุกคนก็เอาหลักฐานของคนที่เคยเกี่ยวข้องกับผู้ว่าการอำเภอคนก่อนออกมา หลังจากที่ซวนเหวินลี่อ่านแล้วก็เริ่มทำการสอบสวนทีละคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน