ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 216

“ข้าไม่ไป!” ลู่ม่านส่ายหน้าอย่างแน่วแน่

“เสี่ยวม่าน เจ้าอย่าทำอะไรบ้าๆนะ!” เฉินจื่ออานพูด

“ข้าไม่ได้ทำอะไรบ้าๆนะ!” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าบอกแล้วไง ความสัมพันธ์ระหว่างเราเท่าเทียมกัน!”

ซวนเหวินลี่กัดฟัน “พวกเจ้ายังช้าอยู่ไย? ยังไม่รีบลงมืออีก?”

ได้ยินดังนั้น ก็มีคนเข้าไปกดตัวลู่ม่านไว้ เพชฌฆาตยกดาบขึ้นเตรียมฟันลงไป

ได้ยินเสียง ‘ฟิ้ว’ ดังขึ้น มีก้อนหินโยนมาแต่ไกล ต่อมาก็มีเสียง ‘เพี้ยง’ ดังขึ้น ดาบในมือของเพชฌฆาตก็ล่วงลงไปบนพื้น

ซวนเหวินลี่อึ้ง เห็นในหมู่ผู้คน จวงลี่จ้งกำลังยกชายเสื้อผ้าไหม เดินมาอย่างเชื่องช้าไม่รีบร้อน

เห็นซวนเหวินลี่ จวงลี่จ้งก็พูดด้วยสีหน้าที่ไม่ตกใจเลยว่า “ใต้เท้าซวน!”

“เจ้าเองเหรอ!” ซวนเหวินลี่เม้มริมฝีปาก “ถึงแม้คุณชายจวงกับอ๋องหนิงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้ เจ้าก็เป็นแค่นักธุรกิจ น่าจะไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับงานราชการของข้านะ?”

“แน่นอนอยู่แล้วว่าข้าไม่มีสิทธิ์ แต่ว่า……ฮ่องเต้น่าจะมีสิทธิ์นะ?”

ซวนเหวินลี่ตกตะลึง จากนั้นเขาก็เห็นด้านหลังของจวงลี่จ้ง มีคนจากพระราชวังถือพระราชโองการสีเหลือง เดินมาทางนี้ช้าๆ

เฉินจื่ออานดีใจ รีบมองไปยังลู่ม่าน

“เสี่ยวม่าน เมื่อกี้เจ้าตั้งใจยื้อเวลาไว้เหรอ?”

ลู่ม่านพยักหน้า “อืม! เมื่อกี้ตอนที่มา ท่านอู๋บอกกับข้าว่า วันนี้คุณชายจวงเอาพระราชโองการจากเมืองหย่งอานมา เหอเย่วก็รอพวกเขาระหว่างทางด้วย!”

แต่ว่า สิ่งที่ลู่ม่านไม่ได้บอกก็คือ ความจริงที่ว่าอยากตายพร้อมกันกับเฉินจื่ออาน คำพูดแบบนี้ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้ ลู่ม่านเชื่อว่าเฉินจื่ออานเข้าใจดี

ซวนเหวินลี่ขมวดคิ้ว พระราชโองการมาถึงตรงหน้าแล้ว

ขันทีที่ประกาศพระราชโองการก็ตะโกนเสียงดัง ซวนเหวินลี่และมือปราบต่างก็คุกเข่าลงพร้อมกัน ผู้คนที่อยู่รอบด้านเห็นแล้วก็รีบคุกเข่าลงทันที

“ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชา! โรงงานของบ้านเฉินแห่งหมู่บ้านไป่ฮัวมีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ สมควรได้รับรางวัล ให้เฉินจื่ออาน รับตำแหน่งที่ซือหนงซื่อ(*กรมเกษตร)ของตำบลเฟิงหนาน และประทานที่ดินให้ยี่สิบไร้ พร้อมกันทองอีกห้าสิบตำลึง”

เฉินจื่ออานตกตะลึง ลู่ม่านคิดว่าจะเหมือนกับที่จวงลี่จ้งบอกว่า อย่างมากก็ให้แค่เงินและที่ดิน ไม่คิดว่าจะมีการอวยยศให้ด้วย ถึงแม้จะไม่ใช่ตำแหน่งใหญ่โตอะไร อย่างมากก็เป็นแค่ขุนนางขั้นที่เก้า แต่หากได้ตำแหน่งนี้ไป ต่อไปเฉินจื่ออานออกไป ก็จะไม่โดนคนอื่นใส่ร้ายได้ง่ายๆแล้ว

“ยังไม่รีบขอบพระคุณอีก?” ขันทีคนนั้นมองเฉินจื่ออานด้วยรอยยิ้ม

เฉินจื่ออานก็ถึงรู้สึกตัว แล้วรีบคำนับขอบคุณ

ขันทีคนนั้นก็ถึงเห็นว่าผู้ที่ได้รับรางวัลในวันนี้กลับกำลังจะโดนประหารอยู่ แบบนี้จะรับพระราชโองการไม่ได้ รีบเข้าไปพยุงเฉินจื่ออานขึ้นมา “เฉินซือหนง ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ล่ะ? รีบลุกขึ้นเร็วเข้า ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ข้าค่อยประกาศใหม่!”

“ไม่ได้!” ซวนเหวินลี่รีบเข้าไปห้าม “เฉินจื่ออานทำผิดกฎหมาย จะต้องถูกประหาร!”

ขันทีคนนั้นได้ยินแล้วก็เบิกตาโพลง “ใต้เท้าหมายความว่า ฝ่าบาทไม่ยุติธรรมเท่ากับท่านงั้นเรอะ?”

ซวนเหวินลี่ตกใจ “ข้าน้อยมิบังอาจ!”

“แค่นี้ก็ได้แล้วนี่? เฉินจื่ออานทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ ฝ่าบาทเขียนพระราชโองการเอง จะมีผิดได้เหรอ? ข้าไม่รบกวนการลงโทษของใต้เท้าซวนแล้ว”

ว่าแล้ว เขาก็พูดว่า “คุณชายเฉิน ไปกันเถอะ!”

เฉินจื่ออานรีบส่ายหน้า “ไม่ขอรับ กงกง เรื่องนี้ข้าถูกใส่ร้าย ข้าหวังว่าใต้เท้าซวนจะตรวจสอบให้ชัดเจน คืนความยุติธรรมให้กับข้า!”

ลู่ม่านพยักหน้า นางก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ตอนนี้ไปแล้ว เดี๋ยวคนอื่นจะคิดไม่ดีอีก

เป็นคนจะต้องไม่ทำเรื่องผิดและเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น!

“ดี!” กงกงคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเฉินสมแล้วที่เป็นคนที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปราน ข้าก็หวังว่าคุณชายเฉินจะล้างมลทินได้ ใต้เท้าซวน? เจ้าคิดว่าไงล่ะ?”

ซวนเหวินลี่พยักหน้า “แน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่านี่เป็นลานประหาร เหมือนจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่นะ ไปพูดกันไปในตุลาการก่อนไหม?”

“ข้าว่าไม่ต้องแล้วล่ะ!” ท่านอู๋พูดด้วยรอยยิ้ม “กฎหมายของเราก็ไม่ได้บอกว่าห้ามไต่สวนบนลานประหารนี่? ใต้เท้าท่านจะออกกฎหมายเพิ่มเหรอ!”

ซวนเหวินลี่ ‘หึ’ อย่างไม่พอใจ ในใจกลับคิดว่า ตาแก่นี่กำลังแก้แค้นที่เขาไม่ไว้หน้าเขาเมื่อกี้แน่เลย

“ได้!” สุดท้ายซวนเหวินลี่ก็ต้องตกลง ลานประหารกลายเป็นลานไต่สวนทันที ดึงดูดสายตาผู้คนมากขึ้นด้วย

หลังจากที่เริ่มอย่างเป็นทางการ ซวนเหวินลี่ก็เอาหลักฐานก่อนหน้านี้ออกมา

คำให้การข้างต้นเป็นแค่คำให้การเพียงฝ่ายเดียวของผู้จับนักโทษ ไม่มีหลักฐานอื่นอีก มีเพียงพยานคนเดียว บอกว่าเห็นเฉินจื่ออานไปกินข้าวกับผู้ว่าการอำเภอ ผู้ว่าการอำเภอให้แปลงที่ดินทดลองกับบ้านเฉิน

แต่ตอนนั้น ผู้ว่าการอำเภอยังเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปกครองในอำเภออยู่ บ้านเฉินเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ผู้ว่าการอำเภอมาแล้ว พวกเขาจะไม่ไปรับก็ไม่ได้

ดังนั้นจึงไม่สามารถตัดสินโทษได้

จวงลี่จ้งพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูท่าแล้ว ใต้เท้าซวนคงจะมองผิดไป”

ซวนเหวินลี่จึงต้องโยนความผิดทั้งหมดไปให้ผู้จับนักโทษที่จับเฉินจื่ออานมา ลากไปโบยห้าสิบที

ผู้จับนักโทษคนนั้นยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็สลบไปก่อนแล้ว

กงกงเห็นแล้วก็รีบปิดจมูกไว้ “สกปรกจริงๆ ช่างเถอะ ในเมื่อเรื่องก็อธิบายชัดเจนแล้ว งั้นก็ปล่อยตัวเฉินจื่ออานเถอะ!”

ว่าแล้ว เขาก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที

ตอนที่ลู่ม่านประคองเฉินจื่ออานออกไป ก็หันไปมองผู้จับนักโทษคนนั้น ตอนที่คนพวกนั้นโบย ก็โบยแต่จุดสำคัญ ดูท่าแล้วคนคนนั้นคงได้ซี้แงแก๋แน่

นี่คิดจะฆ่าปิดปากเหรอ! ลู่ม่านขมวดคิ้ว

หลังจากที่เดินออกจากลานประหาร ทุกคนก็เดินไปที่โรงเตี๊ยม เหอเย่วเก็บข้าวของเสร็จหมดแล้ว กำลังรอพวกเขากลับมา

ลู่ม่านพวกเขาขึ้นรถม้าแล้วจากไปก่อน ส่วนคนอื่นๆก็ตามมาทีหลังช้าๆ

เฉินจื่ออานพวกเขาถึงหมู่บ้านไป่ฮัวตอนใกล้ดึก

ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าประตูหมู่บ้าน มีชาวบ้านกำลังพูดคุยกันอยู่ตรงนั้น พอเห็นรถม้าของบ้านเฉินกลับมา ต่างก็หยุดพูดกันทันที

แต่ว่า พวกเขากลับไม่กระตือรือร้นเหมือนเมื่อก่อนที่เห็นพวกเขาแล้ว แต่ละคนเย็นชากันมาก พวกเขาคงคิดว่าครั้งนี้เฉินจื่ออานไม่รอดแน่

ลู่ม่านไม่ได้สนใจพวกเขา แล้วพาเฉินจื่ออานกลับบ้านทันที

เปิดประตูออก เหอซานเห็นลู่ม่านประคองเฉินจื่ออานลงมา ก็น้ำตาคลอเบ้าทันที

“นายท่าน ดีจังเลย ข้ารู้ว่านายท่านเป็นคนดี จะต้องไม่เป็นไรแน่ๆ”

“ท่านปู่!” เหอเย่วรีบเตือน “รีบมาประคองพี่จื่ออานเข้าไปก่อน” เหอซานค่อนข้างซื่อตรง จะต้องเรียกเฉินจื่ออานว่านายท่านให้ได้ ลู่ม่านจึงต้องตามใจเขา

หลังจากที่พาเฉินจื่ออานไปพักผ่อนแล้ว เหอเย่วก็รีบต้มน้ำ ลู่ม่านก็ช่วยเฉินจื่ออานเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สกปรก

ก็ถึงเห็นว่าบนร่างกายของเฉินจื่ออานมีแต่บาดแผล

เห็นลู่ม่านมีท่าทีเสียใจ เฉินจื่ออานก็ฝืนยิ้มออกมา “ข้าไม่เป็นไร……ข้ายังสบายดีนี่ไง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน