ลู่ม่านเพิ่งมารู้เรื่องนี้ในวันที่สาม หลังจากที่พ่อครัวอู๋คุยกับนางเมื่อวันนั้น เขาก็ไปจากภัตตาคารหลี่หรง ไปจากตำบลชางผิง
หลังจากรู้ข่าวนี้ ลู่ม่านก็แวะไปดูที่บ้านหลังนั้นของพ่อครัวอู๋ เพื่อนบ้านที่อยู่ข้าง ๆ บอกว่าพ่อครัวอู๋ขายบ้านหลังนี้ไปแล้ว บอกว่าเขาจะออกไปท่องทั่วหล้า เขาคิดว่าบางทีในชีวิตที่เหลือจากนี้ อาจจะมีโอกาสทำเรื่องดี ๆ ได้มากขึ้นอีกสักหน่อย
ลู่ม่านยังคงเสียดายอย่างมาก แต่หลังจากที่คิดจนปรุโปร่งแล้ว ก็รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับพ่อครัวอู๋เช่นกัน
เพราะถึงอย่างไร เขาที่มีลักษณะนิสัยไม่ถ่อมตัวแต่ก็ไม่เย่อหยิ่ง ถ้ายังอยู่ที่ภัตตาคารหลี่หรงต่อไป ก็ไม่แน่ว่าอาจจะก่อให้เกิดภัยกับตัวได้สักวัน ในเมื่อเป็นอย่างนี้ คนที่เฉยเมยต่อชื่อเสียงและโชคลาภ การให้เขาออกไปใช้ชีวิตอิสรเสรีอยู่ข้างนอก ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว
ทางด้านของลู่ม่านก็เริ่มยุ่งมากขึ้น เพราะหลังจากงานเลี้ยงตุ๋นน้ำแดงของภัตตาคารเฟิ่งหลายมีชื่อเสียงจนกลายเป็นที่รู้จัก จวงลี่จ้งก็เตรียมผลักดันรายการอาหารตุ๋นน้ำแดงออกไปทั่วประเทศ
ดังนั้นสินค้าทั้งหมดที่เก็บไว้ในบ้านของลู่ม่าน จึงถูกจวงลี่จ้งมาขนออกไปจนหมด เพื่อให้ทันกับที่รับปากไว้ว่าจะส่งสินค้าให้ได้ตามกำหนด ลู่ม่านก็เริ่มหมักซีอิ๊วชุดใหม่อีกครั้ง
เมล็ดถั่วก่อนหน้านี้ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว แต่โชคดีที่ยังมีถั่วชุดที่สองซึ่งปลูกไว้ในที่นาเนื้อที่ราว ๆ ยี่สิบแปลง ให้ลู่ม่านนำมาใช้ได้พอดี
ในที่สุด หลังจากใช้เวลาไปกว่าหนึ่งเดือนเต็ม ๆ ลู่ม่านก็สามารถใส่ถั่วทั้งหมดลงในไหหมักได้สำเร็จ ในเวลานี้เอง เฉินจื่อฉายก็กลับมาจากตัวตำบล
ที่กลับมาพร้อมกับเขาด้วย ก็คือเฉินสือซ่วน
ด้วยความที่ครั้งก่อน เรื่องที่เขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรลู่ม่านได้ ทำให้เฉินจื่อฉายรู้สึกผิดในใจไม่หาย ทันทีที่ได้พบหน้ากันเขาก็รีบกล่าวคำขอโทษเฉินจื่ออาน
"จื่ออานเอ๊ย! พี่ใหญ่ต้องขอโทษเจ้าด้วย เดิมทีเรื่องเมื่อตอนนั้นพี่ใหญ่ควรจะช่วยเจ้าแท้ ๆ!"
เฉินจื่ออานยกยิ้มจาง ๆ “ไม่เป็นไรหรอก พี่ใหญ่อย่าได้เก็บมาใส่ใจเลย” หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า “มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของเถาฮวา พี่ใหญ่ควรต้องให้ความสนใจมากขึ้นอีกหน่อย หลังจากที่เด็กคนนี้เกิดเรื่องเมื่อครั้งก่อน นิสัยก็ค่อนข้างจะรุนแรงขึ้นมาบ้าง พี่ใหญ่ใส่ใจให้มากหน่อยก็ดี”
เฉินจื่อฉายดูมีสีหน้าไม่ค่อยนำพานัก “แม้ว่าเถาฮวาจะมีนิสัยเหมือนแม่ของนาง แต่นิสัยโดยพื้นฐานก็ยังนับว่าซื่อตรงจริงใจอยู่”
เขาพูดมาอย่างนี้แล้ว เฉินจื่ออานในฐานะอาคนหนึ่งยังจะพูดอะไรได้อีก? จำต้องปล่อยเลยตามเลยไม่พูดถึงแล้ว ตอนนี้เอง เฉินจื่อฉายก็พูดถึงจุดประสงค์ที่เขากลับมาในครั้งนี้ให้เฉินจื่ออานฟัง
“ตอนนี้กิจการที่ร้านไม่ค่อยดี สือซ่วนจะอยู่ที่ตำบลก็ไม่สะดวก ดังนั้นพวกเราเลยคิดว่าจะส่งเขากลับมา ข้าทุ่มเทอย่างสุดความสามารถในการดูแลกิจการที่ร้าน ติดที่ว่าโรงเรียนของที่นี่บอกว่ารับคนเต็มแล้ว จื่ออาน เจ้าก็ดู ๆ ให้หน่อยเถอะว่าพอจะจัดการอะไรได้บ้าง"
ก่อนหน้านี้มีหลายคนมาที่นี่ เพื่อหวังจะใช้เส้นสายเดินผ่านทางประตูหลัง ล้วนถูกเฉินจื่ออานปฏิเสธไป ทันทีที่เฉินจื่อฉายเอ่ยปากแบบนี้ นับว่าทำให้เฉินจื่ออานลำบากใจอย่างยิ่ง แต่ใครใช้ให้เฉินจื่อฉายเป็นพี่ใหญ่ของเฉินจื่ออานล่ะ? อีกทั้งเมื่อไหร่ที่เขามีปัญหา ก็มักจะทุ่มเทกายใจช่วยเหลือพี่ใหญ่อย่างเต็มที่เสมอ
เฉินจื่ออานไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร จึงทำได้แค่พูดว่า “ตอนนี้เรื่องที่โรงเรียนล้วนเป็นอาจารย์โจวรับผิดชอบ ว่าตามจริงข้าก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เอาไว้วันหลังข้าจะลองถามเขาดูแล้วกัน”
ขณะที่พูดอยู่ เหอเย่วก็ร้องทักอาจารย์โจวที่อยู่ด้านนอก “ท่านอาจารย์ กลับมาแล้วรึ? วันนี้อยากกินอะไรเจ้าคะ?” ทักษะการทำอาหารของเหอเย่วมีพัฒนาการตามลู่ม่านขึ้นมาไม่น้อย ดังนั้น ช่วงหลังมานี้ อาหารของอาจารย์โจวจึงเป็นหน้าที่ของเหอเย่วไปโดยปริยาย
“ไม่รีบ ๆ ข้ามีเรื่องต้องมาพบจื่ออานน่ะ”
เฉินจื่ออานรีบออกไปทักทายเขาทันที "อาจารย์....."
“จื่ออานเจ้าอยู่บ้านก็ดีแล้ว ข้ามีเรื่องหยุมหยิมที่โรงเรียนอยากจะคุยกับเจ้าอยู่พอดี ”เพิ่งจะพูดจบ เฉินจื่อฉายก็เดินออกมาจากด้านใน “อาจารย์โจว”
“ที่แท้ก็เป็นพี่ชายของจื่ออานนี่เอง!” หลังจากอาจารย์โจวพูดจบ ก็ทำท่าจะพาเฉินจื่ออานไปที่ห้องหนังสือ เฉินจื่อฉายจึงรีบพูดเรื่องที่คุยกันเมื่อครู่ให้อาจารย์โจวฟังซ้ำอีกรอบ
อาจารย์โจวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “นี่เกรงว่าจะไม่ได้แล้ว ที่โรงเรียนรับคนเต็มจำนวนแล้วล่ะ”
เฉินจื่อฉายรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที เฉินจื่ออานพูดอย่างลังเลว่า “เพิ่มอีกคนก็ไม่ได้แล้วรึ?”
อาจารย์โจวขมวดคิ้วมุ่น “จื่ออาน การเพิ่มอีกหนึ่งคนน่ะได้ แต่มันจะยุติธรรมกับเด็กคนอื่น ๆ หรือไม่? จำนวนคนในแต่ละชั้นเรียนกำหนดไว้คงที่แล้ว พละกำลังของอาจารย์ที่จะสอนก็มีเพียงพอสำหรับจำนวนของเด็กเหล่านั้น หากว่าเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งคน เช่นนั้นแล้วอาจารย์ผู้สอนจะทำอย่างไรล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...