ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 26

สรุปบท บทที่ 26 พอจัดพิธีศพแล้ว: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

บทที่ 26 พอจัดพิธีศพแล้ว – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 26 พอจัดพิธีศพแล้ว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หลิวซื่อใช้ความเป็นแม่ที่มีอยู่ปกป้องเหอฮัวเอาไว้ แต่ความกลัวที่มีต่อเฉินหลี่ซื่อยังคงฝังลึกอยู่ในใจ จะแข็งกร้าวขึ้นมาทันใด ก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่

ลู่ม่านรีบเดินเข้าไป ดึงมือของหลิวซื่อไปดู“พี่สะใภ้รอง แผลไม่ธรรมดาเลย ต้องให้ท่านหมอมาดูแล้วกระมัง ”

เหอฮัวจึงได้สติกลับมา เช็ดน้ำตา หมุนตัววิ่งออกไป

เฉินหลี่ซื่อร้องเรียกอยู่หลายครั้ง เหอฮัวไม่สนใจนางเลยสักนิด

เฉินหลี่ซื่อจึงมองไปทางหลิวซื่อ“ก็แค่ผิวถลอกเล็กน้อย จะตามหมอทำไม”

ลู่ม่านอยากจะฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของยายแก่จริงๆ แต่ถ้าหากตบนางในตอนนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดมาก ถึงตอนนั้น นางร้องไห้โวยวายแล้วฆ่าตัวตายขึ้นมา กลับเป็นตนเองที่เป็นฝ่ายผิด

เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยกฝ่ามือของหลิวซื่อขึ้นมา วางไว้ตรงหน้านาง “ท่านแม่บอกว่าแค่ผิวถลอก เช่นนั้นข้าจะให้พวกเพื่อนบ้านมาช่วยดู ว่าแค่ผิวถลอกใช่หรือไม่”

เดิมที เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของหลิวซื่อเมื่อครู่ ได้ดึงดูดสายตาของเพื่อนบ้านมามุงดูไม่น้อยแล้ว

ตอนนี้ พอลู่ม่านพูดออกมา ก็มีคนตั้งคำถามทันที“ เมียของจื่ออาน เมื่อครู่บ้านเจ้าเกิดอะไรขึ้น”

ลู่ม่านหันไปมองเฉินหลี่ซื่อแวบหนึ่ง “แม่ข้าจะใช้ที่คีบถ่านที่ถูกเผาจนร้อนสั่งสอนเหอฮัว พี่สะใภ้รองใช้มือจับไว้ จึงถูกลวกจนบาดเจ็บ”

เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป ทุกคนต่างก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่

เด็กในชนบท ถ้าไม่เชื่อฟังจะถูกตีสั่งสอนก็เป็นเรื่องปกติ ในสถานการณ์ปกติ ใช้ไม้แส้ตีก็พอแล้ว ไหนเลยจะมีคนใจอำมหิตขนาดนี้ ถึงกับใช้ที่คีบถ่านร้อนๆมาใช้สั่งสอนเด็ก

เฉินหลี่ซื่อยังคงปากแข็ง “ที่คีบถ่านไม่ร้อน ก็แค่ผิวถลอกเท่านั้น”

“ท่านย่า ขอร้องล่ะ มือของแม่ข้า ถูกลวกจนเป็นเช่นนี้ วันหน้าจะทำงานได้อย่างไร”

ในบ้านนี้ ถ้าหากแม่ของนางไม่สามารถทำงานได้ วันหน้าเป็นไปได้ว่าคงอยู่ไม่ได้แล้ว

เฉินหลี่ซื่อเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่ รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที ยื่นขาออกไปถีบเหอฮัว“นางเด็กไม่รักดี อย่าพูดจาเหลวไหล ทำให้ชื่อเสียงของบ้านเฉินเสียหาย”

ลู่ม่านฉวยโอกาสเรียกท่านหมอเอาไว้ “ท่านช่วยข้าดูพี่สะใภ้รองหน่อยได้หรือไม่”

หมอจางเป็นหมอที่อยู่ในหมู่บ้าน ปกติแล้วคนในชนบทไม่สบายก็จะไปหาเขาเพื่อรักษา เขามองมือของหลิวซื่อ ก็ตกใจจนสูดลมหายใจเข้า

“ทำไมจึงได้สาหัสเช่นนี้”

ตอนนี้เอง ที่เฉินหลี่ซื่อบอกว่าเป็นแค่แผลถลอกภายนอก ถูกยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่ ถูกฉีกหน้าจนเสียหายหมดแล้ว

“ยายแก่ ตีเด็กเช่นนี้ได้อย่างไร”

“ใช่แล้ว เฉินหลี่ซื่อคนนี้ช่างอำมหิตเกินไปแล้ว”

“คิดไม่ถึงจริงๆ บ้านเฉินยังอยากจะส่งเสียลูกให้เป็นซิ่วไฉอีก”

ทันใดนั้นข้างนอกก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น เฉินหลี่ซื่อหน้าด้านไม่กลัวอะไรทั้งนั้น โวยวายขึ้นมาทันที “เกี่ยวอะไรกับพวกเจ้า เจ้าพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน”

ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ประท้วงการกระทำของนางมากขึ้น

ฉับพลันก็มีคนพูดขึ้นว่า “เฉินหลี่ซื่ออำมหิตขนาดนี้ ไม่สู้ไปเรียกผู้ใหญ่บ้านมาดูสักหน่อยดีกว่า”

“บ้านเฉินทำร้ายลูกสะใภ้เช่นนี้ วันหน้าเห็นทีเฉินจื่อคังคงต้องอยู่เป็นโสดแล้วกระมัง”

ตอนนี้เองเฉินหลี่ซื่อรู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ นางกลัวผู้ใหญ่บ้านจะมา ยิ่งกลัวว่าลูกชายของตนเองจื่อคังจะเป็นโสดตลอดชีวิต

แต่ว่า นางเป็นพวกหัวแข็งมาแต่ไหนแต่ไร ให้นางขอโทษก็เป็นไปไม่ได้ ในขณะที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีนั้น ตาแก่เฉินก็เดินมาจากข้างนอก

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”เขามองทุกคนอย่างสงสัย

คนดีที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ยายเฒ่าของบ้านเจ้า ตีหลานสาว ทำให้หลิวซื่อถูกไฟลวกจนบาดเจ็บ”

เฉินหลี่ซื่อก็รู้จักยำเกรงอยู่บ้าง เอ่ยถามอย่างไม่ค่อยจะยินดีนัก “เท่าไหร่”

หมอจางมองแวบหนึ่ง ค่าย่าบวกกับค่าตรวจรักษา “ให้ข้าแปดสิบเหวินก็พอ”

“ว่าไงนะ ”เฉินหลี่ซื่อเบิกตาโตทันที “นี่มันยาเทพหรืออย่างไร แพงยิ่งกว่าข้าวสารเสียอีก”

สีหน้าของหมอจางคล้ำลงทันที “พี่สาว ถ้าหากท่านไม่ตีลูกสะใภ้จนมีสภาพเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินจำนวนนี้เลย”

ลู่ม่านมองไปทางหมอจางแวบหนึ่ง อยากจะกดถูกใจให้เขาจริงๆ คำพูดนี้ตอกกลับได้ดี ดีมากๆ

ไม่ง่ายเลยกว่าตาแก่เฉินจะทำให้สถานการณ์สงบลง ถูกก่อกวนเช่นนี้ แทบจะกลับไปสู่สถานการณ์ก่อนหน้านี้ เขาจ้องมองเฉินหลี่ซื่ออย่างแค้นใจ

“เจ้าจะเอาออกมาหรือไม่ ไม่เอาออกมาก็ไสหัวไป”

คนในบ้านมารดาของเฉินหลี่ซื่อได้ป่วยตายไปหมดแล้วเมื่อหลายปีก่อน มีเพียงลูกพี่ลูกน้องไม่กี่คนที่แทบไม่สนใจนางเลย ถ้าหากนางต้องระเห็จออกไปจริงๆ แม้แต่บ้านมารดาก็ไม่มีให้กลับ

ทันใดนั้นก็กัดฟันขึ้นมา ควักเอาถุงเงินออกมาจากอก นับได้แปดสิบเหวินแล้วส่งให้หมอจาง

เช่นนี้เอง ยังไม่วายพูดอย่างแค้นใจว่า “พอจะจัดพิธีศพได้แล้ว”

หมอจางแทบจะถูกนางทำให้โมโหจนยิ้มเยาะออกมา

แต่ว่า งานของเขาเรียบร้อยแล้ว และไม่อยากจะพูดแล้ว จึงได้แต่หยิบของของตัวเองและจากไป

ตาแก่เฉินจึงเรียกเหอฮัวเข้ามา “รีบประคองแม่เจ้าเข้าไป ข้าวเช้ากินหรือยัง เจ้าจัดการให้นางด้วย”ท่าทีราวกับพ่อสามีที่แสนจะมีเมตตา

ถ้าหาก เฉินหลี่ซื่อไม่ทำหน้าบึ้งเช่นนั้นละก็ ไม่แน่คนอื่นอาจจะเชื่อก็ได้

เหอฮัวย่อมต้องรู้สึกสงสารแม่ตัวเอง จึงพยักหน้ารับ ลู่ม่านก็ยื่นมือไปช่วยประคอง พาหลิวซื่อเข้าไปข้างใน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน