เถาสวินซื่อเริ่มเอาสำลียัดไส้แล้ว ลู่ม่านยืนดูอยู่ตรงนั้นสักพัก ตุ๊กตาผ้าตัวหนึ่งก็ทำเสร็จแล้ว
ลวดลายปักตากับปาก เหมือนจริงอย่างมาก
เหอเย่วเห็นแล้วก็พูดขึ้นมาอย่างเบิกบานใจว่า “นี่น่ารักมากเลย”
ลู่ม่านก็รู้สึกพอใจอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำแบบนี้แหละ ข้าจะเอารูปแบบให้เจ้าหลายอย่าง เจ้าลองทำออกมาดูก่อน เมื่อเปิดร้านจะได้เอามาวางโชว์”
“ได้” เถาสวินซื่อค่อยโล่งอก เดิมยังคิดว่าตนเองจะทำได้ไม่ดีเสียอีก
หลังกลับมาจากบ้านเถา เฉินจื่ออานยังไม่กลับมา ครั้งนี้ลู่ม่านรู้สึกเป็นห่วงแล้ว แต่เมื่อคิดดูอีกที ตอนนี้เฉินจื่ออานเป็นขุนนางแล้ว ยังอยู่ระดับเดียวกันกับซวนเหวินลี่ เขาทำอะไรเฉินจื่ออานไม่ได้
คิดอยู่แบบนี้ แต่ก็ยังใช้ให้เหอเย่วไปเตรียมอาหารมื้อค่ำตามที่เฉินจื่ออานชอบ จากนั้นก็ขังตนเองไว้ในห้อง
ขนสัตว์พวกนั้นถูกจัดการสะอาดเรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีกลิ่นแล้ว
งานฝีมือของลู่ม่านไม่ค่อยดี ไม่กล้าทำขนจิ้งจอกแดงอันนั้น จึงเอาหนังกระต่ายมาทำเป็นแบบอย่าง
จำได้ว่าตอนเด็กในยุคปัจจุบัน นิยมหนูน้อยสีขาวแบบนั้น ห้อยไว้ที่กระเป๋า หรือบนมือถือ
เวลาลูบก็รู้สึกลื่น ผู้หญิงมากมายล้วนชอบมาก
ตัดชิ้นเล็กออกมาหนึ่งชิ้น ลู่ม่านค่อยๆเย็บขึ้นมา เย็บอยู่สักพัก ตัวนางเองก็เริ่มรังเกียจฝีมือของตนเองแล้ว
เวลาเถาสวินซื่อลงมือทำ ฝีมือการเย็บเป็นเหมือนอย่างใช้เครื่องจักร นางทำเองทำไมถึงเหมือนอย่างหมากัด?
แต่ยังดี ขนกระต่ายยาว จึงมองไม่ค่อยเห็นรอบเย็บ
ยุ่งทำอยู่ครึ่งบ่าย ในที่สุดก็เย็บได้หนูน้อยหนึ่งตัว
ลู่ม่านอดไม่ได้ที่จะพูดบ่นในใจว่า โชคดีที่นางไม่อาศัยงานฝีมือหาเลี้ยงชีพ ไม่อย่างนั้นคงอดตายแล้ว
เหอเย่วเห็นว่าลู่ม่านไม่ออกมาเลยตลอดทั้งบ่าย นึกว่านางเป็นห่วงเฉินจื่ออาน กำลังคิดที่จะเข้าไปปลอบ สุดท้ายเมื่อเข้าไปก็เห็นนางกำลังคิดพิจารณาไตร่ตรองสิ่งของสีขาวชิ้นเล็กอย่างหนึ่งอยู่
“นี่คือ?” เหอเย่วมองดูแล้วก็พูดขึ้นมา
“เหอเย่วเจ้ามาพอดี” ลู่ม่านราวกับเห็นดาวแห่งโชค พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ารีบช่วยข้าดูหน่อย ตาจมูกทำยังไง? ทำไมข้าถึงเย็บได้น่าเกลียดขนาดนี้?”
เหอเย่วเอามาดู พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่เสี่ยวม่าน นี่พี่เย็บ......สุนัข?”
ลู่ม่าน “……”
“เจ้าเคยเห็นสุนัขเล็กขนาดนี้ไหม?” ลู่ม่านพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
“เอ่อ......” เหอเย่วพูดไม่ออก
ลู่ม่านค่อยพูดขึ้นว่า “นี่คือหนู”
“อ่อ” สีหน้าเหอเย่วนิ่งเฉย เห็นลู่ม่านหายโมโหบ้างแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “เหมือนจริงๆ แต่รูปลักษณ์ไม่ค่อยสวย”
“ดังนั้นจึงตามเจ้ามาไง เจ้าลองดูสิ”
เหอเย่วพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นพี่เสี่ยวม่านอยากได้แบบไหนหรือ?”
ลู่ม่านจึงเอารูปที่ตนวาดออกมาให้เหอเย่วดู มองดูรูปแล้วเหอเย่วก็อึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ปักจมูก ตาก็พอแล้ว......”
“อืม”
เหอเย่วมองดูลู่ม่านอย่างตกตะลึง แต่สุดท้ายก็ยังรักษาหน้าลู่ม่าน
เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะไม่ถูกบ่น ลู่ม่านจึงไปทำกับข้าวเอง รอเมื่อนางทำไปได้สักพักแล้ว เหอเย่วค่อยออกมา เอาหนูน้อยตัวหนึ่งให้นาง พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่เสี่ยวม่าน เจ้าดูสิ?”
เอาแบบนี้แหละ ลู่ม่านรับเอาหนูตัวนั้นมาอย่างดีใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “น่ารักมากเลย”
“ที่จริง ก็ยังดีแหละ” เหอเย่วพูดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...