หลิวซื่อค่อยพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้ข้านอนไม่หลับ ตอนที่ลุกขึ้นมาเห็นเหอเย่วเย็บอะไร.....ของเล่น? บอกว่าเจ้าเป็นคนใช้ให้ทำ? เมื่อก่อนตอนที่ข้าอยู่บ้าน ได้ทำงานเย็บปักพวกนี้บ่อยๆ ไม่รู้ว่าจะ.....”
“พี่หลิวขจ เจ้าเย็บปักเป็นด้วยหรือ?” ลู่ม่านตกใจ เพราะหลิวซื่อที่นางรู้จัก แต่ละวันหลิวซื่ออยู่แต่ในครัว ไม่อย่างนั้นก็ไปทำงานหนักในสวน
นางนึกว่าหลิวซื่อเย็บปักไม่เป็นเสียอีก
“แม่ข้ามีฝีมือในการเย็บปัก นางมีฝีมือดีมาก” เหอฮัวพูดขึ้นมา พร้อมหันวิ่งออกไป ไม่นานก็เอาเสื้อคลุมที่เพิ่งสักตัวหนึ่งออกมา
“น้าสาม เจ้าดูสิ ตัวนี้แม่ของข้าทำให้ข้า....”
หลิวซื่อรับเอามาดู ที่จริงเสื้อตัวนั้นตัวเล็กไปแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เหอฮัวอายุครบหกครบ กว่าจะเก็บเงินได้เงินมาซื้อผ้าสักหน่อย ทุกวันหลังจากทำงานเสร็จกลับมาก็ทำให้เหอฮัวทุกคืน
คิดไม่ถึงว่า เหอฮัวจะเห็นคุณค่ามาตลอดเช่นนี้
“วันหลัง แม่ค่อยทำให้เจ้าอีก”
“เหอฮัวเติบโตแล้ว ต่อไปเหอฮัวช่วยแม่เอง”
ลูกเชื่อฟังว่าง่ายอย่างมาก ทำให้หลิวซื่อที่เศร้าโศกเสียใจ ในที่สุดก็ได้รับความปลอบโยน
“ดี ลูกที่ดีของแม่”
ลู่ม่านถือโอกาสตอนที่สองแม่ลูกคุยกันอย่างรักใคร่ เอาเสื้อตัวเล็กตัวนั้นมาดู บนผ้าขาวซีดที่ผ่านการซักมาบ่อยนั้น ปักลวดลายดอกบัวบาน บนดอกบัวยังมีแมลงปอตัวหนึ่งยืนอยู่บนนั้น
ลู่ม่านคิดถึงบทกวีที่เคยเรียนตอนเด็ก พร้อมพูดขึ้นว่า “ใบบัวเล็ก ๆ เพิ่งโผล่เขาแหลมของมันขึ้นมาจากน้ำ แมลงปอตัวน้อยที่ซุกซนก็ยืนอยู่บนมันแล้ว?”
ลู่ม่านพูดเสร็จ ทั้งสามคนในห้องต่างตกตะลึง
เหอฮัวได้สติขึ้นมาก่อน มองดูลู่ม่านด้วยดวงตาเป็นประกาย พร้อมพูดขึ้นว่า “น้าสาม เจ้าท่องได้ไพเราะมาก น่าฟังยิ่งกว่าตอนที่ลุงสี่ท่องที่บ้านเสียอีก”
ลู่ม่านตะลึง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะไปมีความสามารถอะไร? ข้าเห็นมาจากที่อื่น”
แล้วลู่ม่านก็รีบเปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นมาว่า “เพราะแม่ของเจ้าปักได้ดี ข้าก็เลยคิดขึ้นมาได้ ช่างมีศิลปะจริงๆ....”
ไม่เคยมีใครพูดชมหลิวซื่อมานานมากแล้ว เมื่อถูกชมก็ทำตัวไม่ถูก พร้อมพูดขึ้นว่า “พอดีวันนั้นข้าเห็นดอกบัวในหมู่บ้านบานพอดี เห็นว่าสวยดี”
ที่แท้ ศิลปะนี้ก็มาจากชีวิตจริง
“เสี่ยวม่าน เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้?” ลู่ม่านคิดในใจ สวยและดูดีกว่าที่ข้าทำอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ตอนนี้สุขภาพเจ้ายังไม่ดี ไม่รีบร้อน รอเจ้าหายดีก่อน ข้าให้เหอเย่วไปบอกเจ้า”
“ข้าหายดีแล้ว....” ยังไงหลิวซื่อก็ไม่ยอมพัก เพราะตอนนี้ทั้งสองแม่ลูกไม่มีที่พึ่งแล้ว ที่จริงในใจของนางนั้นคงไม่สบายใจ?
ที่จริงลู่ม่านเข้าใจดีฝฝ แต่ก็พูดขึ้นว่า “ยังไงก็ต้องอยู่เดือน หากต่อไปเกิดป่วยเป็นอะไรขึ้นมาจะเป็นปัญหาใหญ่”
เหอฮัวฟังแล้ว ก็รีบช่วยพูดกล่อม
“แม่ ตอนนี้ข้าก็มีเงินเดือนแล้ว อีกไม่กี่วันของเดือนนี้ค่าก็จะได้เงินเดือนแล้ว แม่ไม่ต้องเป็นห่วง”
หลิวซื่อค่อยพูดขึ้นว่า “งั้นข้าก็จะเสพสุขบุญบารมีของลูกข้าแล้วนะ”
วันรุ่งขึ้น หลังจากเฉินจื่ออานทำงานของตนเองเสร็จแล้ว ก็ไปเลือกพื้นที่ด้านหลัง
สองแม่ลูก ควรที่จะอยู่อย่างสงบเงียบ ห่างจากโรงงานไม่มาก มีคนไปมาเยอะก็ไม่ดี แบบนี้ป่าไผ่ของพวกลู่ม่านจึงไม่ค่อยเหมาะสมแล้ว
ที่สำคัญคือ ทางด้านป่าไผ่ในตอนนี้ เพราะต้องทำกระดิ่งไม้ไผ่ ต้องได้รับการบำรุงรักษา จึงมีคนไปมาทุกวัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...