เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินจื่อฉายมาที่บ้านเฉินจื่ออาน
หลังจากที่เฉินจื่ออานเปิดร้านในตำบล ความสนใจทั้งหมดล้วนอยู่ที่นั่น ดังนั้นเมื่อเขามา ลู่ม่านก็รู้แล้วว่าเรื่องอะไร
แต่เขาไม่พูด ลู่ม่านก็ไม่พูดอะไร
เหอเย่วเตรียมอาหารเช้าแล้ว เฉินจื่ออานเรียกเฉินจื่อฉายมาด้วย
เพิ่งนั่งลง หลิวซื่อก็เข้ามาแล้ว เฉินจื่อฉายค่อยอึ้ง แล้วก็พูดขึ้นว่า “ทำไมน้องสะใภ้สองถึงเช้าขนาดนี้?”
หลิวซื่อค่อยหัวเราะ แล้วก็พูดขึ้นว่า “ต่อไปพี่ใหญ่ก็ไม่ต้องเรียกข้าว่าน้องสะใภ้สองแล้ว ข้ากับจื่อฟู่ตกลงหย่ากันแล้ว”
“อ๋า?” เฉินจื่อฉายอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมถึงได้กะทันหันเช่นนี้?”
“ไม่กะทันหัน” เห็นได้ชัดว่าหลิวซื่อไม่อยากพูดถึง ถือถ้วยแล้วก็นั่งลงเลย
ปกติที่บ้านลู่ม่านคนไม่เยอะ ดังนั้นทุกคนจึงนั่งทานข้าวด้วยกัน ไม่แยกชายหญิง และลู่ม่านเองก็ไม่เคยชิน
หลังจากทานข้าวแล้ว หลิวซื่อก็กลับห้องแล้ว
เฉินจื่อฉายค่อยถามถึงเรื่องหลิวซื่อกับเฉินจื่อฟู่ เฉินจื่ออานเล่าให้ฟังอย่างคร่าวๆ เฉินจื่อฉายกัดฟันพูดขึ้นว่า “น้องสองสารเลว ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเลว เกิดเรื่องแบบนี้ ข้ากลับไม่รู้.....”
“พี่ใหญ่ยุ่งแต่งานในร้าน จะไปรู้เรื่องมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร?”
เฉินจื่ออานพูดถึงเรื่องในร้าน เฉินจื่อฉายเงียบลงทันที
เฉินจื่ออานเห็นเฉินจื่อฉายแสดงท่าทีอ้ำๆอึ้งๆ จึงถามขึ้นว่า “พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
เฉินจื่อฉายอ้าปากค้าง สักพักแล้วค่อยพูดขึ้นว่า “จื่ออาน วันนี้ที่พี่ใหญ่มา....ก็เพราะอยากขอยิมเงินไปหมุน”
เฉินจื่ออานอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมหรือ? กิจการที่ร้านไม่ดีหรือ?”
เฉินจื่อฉายพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ดีจริงๆ เริ่มแรกก็ยังดี มีแขกมาทานข้าวอยู่บ้าง ต่อมายิ่งอยู่ก็ยิ่งน้อยลง ครั้งก่อนข้าส่งสือซ่วนกลับมา ก็ไม่มีกำไรอะไรอีกเลย ตอนนี้ พวกเราไม่มีแม้แต่เงินซื้อผัก”
แย่ขนาดนี้......
เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว เขาเคารพเฉินจื่อฉาย เป็นเฉินจื่อฉายประสบปัญหา เขาอยากที่จะช่วยอยู่แล้ว
แต่ลู่ม่านกลับคิดว่าร้านของเฉินจื่อฉาย ปิดร้านเลยจะดีกว่า ที่สำคัญคือ เฉินจื่อฉายไม่มีความคิดสร้างสรรค์ เริ่มแรกลู่ม่านคิดว่าหากพวกเขาทำตามที่ตนเองวางแผน ก็น่าจะพอมีกำลังบ้าง แต่เฉินเถาฮวาอวดฉลาด ไม่อยากที่จะมีส่วนเกี่ยวพันอะไรกับนาง
“พี่ใหญ่ เจ้าอยากยืมเงินเท่าไหร่?” ลู่ม่านถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“นี่.....” เฉินจื่อฉายคิดดูแล้วก็พูดขึ้นว่า “ที่จริงพี่ใหญ่ก็ไม่อยากมาหาเจ้า แต่ตอนนี้เจ้าหนี้มาตามถึงบ้านแล้ว แค่หนี้ก็ค้างตั้งแปดพวง ยังต้องใช้หมุนเวียนอีก....ทั้งหมดสิบพวงได้ไหม?”
ไม่ถือว่าเยอะ แต่ก็ไม่น้อย ลู่ม่านเงียบไปสักพัก แล้วก็พูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่ ที่จริงพี่เคยคิดที่จะทำอย่างอื่นไหม?”
เฉินจื่อฉายพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “เสี่ยวม่าน ที่เจ้าพูดข้าก็เคยคิด แต่เถาฮวา นางไม่ยอมปล่อย....”
ลู่ม่านรู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะเฉินเถาฮวา จึงพูดขึ้นว่า “ยังไงเถาฮวาก็ยังเป็นเด็ก เรื่องมากมายพี่ใหญ่ไม่ควรที่จะเป็นคนพิจารณาตัดสินใจหรือ?”
ที่จริงลู่ม่านยังอยากพูดว่า การให้ท้ายลูกถือเป็นการทำร้ายลูก ไม่ควรที่จะตามใจลูกจนเกินไป
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฉินจื่อฉายก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าโศกเศร้าว่า “แต่เถาฮวา นางต้องทนทุกข์ลำบากขนาดนั้น.....”
ลู่ม่านพูดอะไรไม่ออกขึ้นมาทันที เฉินจื่อฉายเป็นคนสองประเภทที่สุดจริงๆ เมื่อก่อนตอนที่อารมณ์รุนแรง ก็รุนแรงน่ากลัว ตอนนี้กลายเป็นพ่อที่ดีแล้ว ก็ดีจนไม่มีความน่าเกรงขาม
เฉินจื่ออานเข้าใจความหมายที่ลู่ม่านพูด จึงก็พูดกล่อมว่า “พี่ใหญ่ เสี่ยวม่านพูดถูก เรื่องนี้เจ้าควรคิดดูให้ดี เราสามารถให้เงินเจ้าไปก่อนได้ แต่จะสามารถดูแลร้านต่อไปได้ไหม ก็แล้วแต่พวกเจ้าเองแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...