ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 272

แต่ทุกคนล้วนมีทางเลือกเป็นของตนเอง สิ่งที่นางควรพูดตาก็พูดแล้ว คนอื่นจะเลือกยังไง ไม่เกี่ยวกับนางแล้ว

เมื่อปล่อยเฉินเถาฮวา ลู่ม่านก็หันเดินกลับไป

เฉินเถาฮวาร้องพูดตะโกนอยู่ข้างหลังว่า “ลู่ม่าน เจ้ารอดูเถอะ เจ้าไม่ให้ข้าได้อยู่สบาย ข้าก็จะไม่ให้เจ้าได้อยู่สบาย”

เด็กสาวอายุสิบกว่าขวบ อารมณ์ก็รุนแรงขนาดนี้แล้วหรือ? ลู่ม่านอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “เหมือนอย่างที่ทำกับบ้านใหญ่กับเฉินหลิ่วเอ๋อแบบนั้นหรือ? ข้าจะรอดู”

เหอเย่วก็มีฝีมือการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่ลู่ม่านกลับเข้าไปแล้ว นางก็ส่งเฉินเถาฮวาออกไป

ตอนที่กลับมา ก็เห็นลู่ม่านนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น นางจึงพูดขึ้นอย่างโทษตัวเองว่า “ล้วนเป็นความผิดของข้าเอง วันนี้ข้าควรที่จะปิดประตู”

“เกี่ยวอะไรกับเจ้า? คนอื่นจะมาโวยวาย ต่อให้เจ้าปิดประตูไว้ นางก็จะคิดหาวิธีโวยวายตอนที่ข้าออกไป จะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ได้เหม่อลอยเพราะเรื่องนี้ ข้าก็แค่คิดถึงเรื่องราวบางอย่างที่เคยผ่านมา”

ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ เหอเย่วก็ยังคงพูดขึ้นมาอย่างไม่วางใจ “พี่เสี่ยวม่าน เราหาคนมาเฝ้าประตูอีกดีไหม? ตอนนี้ที่บ้านไม่มีคนเฝ้าประตูซึ่งไม่สะดวกเลย”

ซึ่งนี่ก็เป็นความจริง ลู่ม่านจึงพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ดี วันหลังตอนที่เราไปในตำบลแล้วค่อยไปดู”

เพราะเรื่องนี้ วันนี้ทั้งวันลู่ม่านจึงไม่ไปไหน อยู่บ้านแล้วก็หวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา คิดถึงตอนที่ตนเองเริ่มสร้างธุรกิจ

ตอนนั้นไม่รู้สึกว่าตนเองน่าสงสาร ตอนนี้หวนคิดดูแล้ว น่าเห็นใจตนเองจริงๆ

ตอนค่ำหลังจากเฉินจื่ออานกลับมา เหอเย่วเล่าเรื่องทั้งหมดให้เฉินจื่ออานฟัง เฉินจื่ออานรีบเข้าห้อง เห็นลู่ม่านนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงริมหน้าต่างคนเดียว ปกติลู่ม่านล้วนหน้าตาสดชื่นแจ่มใส เฉินจื่ออานแทบจะไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้มาก่อน

ในใจรู้สึกเจ็บปวด เขาจึงเดินไปกอดลู่ม่านไว้ แล้วก็พูดขึ้นว่า “เสี่ยวม่าน ขอโทษนะ”

ลู่ม่านค่อยตกใจตื่นมาจากความคิด มองดูเฉินจื่ออานอย่างสงสัย พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมหรือ?”

“เรื่องเถาฮวาข้ารู้เรื่องแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะไปหาพี่ใหญ่ เถาฮวาควรที่จะได้รับการสั่งสอน เหลวไหลอย่างมากจริงๆ”

“ข้าก็คิดว่าเรื่องอะไร” ลู่ม่านยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ได้เป็นอะไรเพราะเรื่องนี้ ข้าแลดูเหมือนคนอ่อนแอขนาดนั้นหรือ? ข้าเพียงแค่คิดถึงตนเองในอดีต เมื่อก่อนตอนที่ข้าออกมาจากบ้านเด็กกำพร้า ก็ออกมาทำธุรกิจด้วยตนเองคนเดียว ตอนที่ยากลำบากที่สุด ข้าไม่มีเพื่อนร่วมงานสักคน สิ่งของทุกอย่างล้วนเป็นข้าขนย้ายคนเดียว ข้าจำได้ว่ามีวันหนึ่งมีสินค้ามาส่ง ข้ามองดูอากาศซึ่งเดิมไม่มีฝนตก ข้าจึงให้คนวางไว้ข้างนอก ทันใดนั้นฝนก็ตกลงมา ข้าจึงรีบขนย้ายเข้าไปข้างใน สิ่งของน้ำหนักกว่าร้อยชั่ง ข้าทั้งลากทั้งดึง.... สุดท้ายเมื่อขนย้ายเสร็จ ข้าก็ค่อยร้องไห้ออกมา.....”

ลู่ม่านพูดไปด้วยหัวเราะไปด้วย แต่เฉินจื่ออานกลับเจ็บปวดใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่แท้ที่บ้านเกิดของพวกเจ้า ผู้หญิงก็ลำบากขนาดนี้หรือ?”

ลู่ม่านไม่คิดแบบนั้น จึงพูดขึ้นว่า “นั่นไม่ใช่ความลำบาก ที่บ้านเกิดของข้า ผู้หญิงกับผู้ชายมีสถานะเท่าเทียมกัน ดูว่าใครมีความสามารถยิ่งกว่า หากผู้ชายมีความสามารถ ก็ออกไปทำงาน ผู้หญิงอยู่บ้านดูแลสามีดูแลลูก หากผู้หญิงมีความสามารถ ก็ผู้หญิงเป็นคนออกไปทำงาน ผู้ชายก็สามารถอยู่ดูแลบ้านกับลูก แน่นอนว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องเลี้ยงลูกไปด้วยแล้วก็ทำงานไปด้วย”

เฉินจื่ออานพูดขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “งั้นถ้าข้าไปที่บ้านเกิดของพวกเจ้า ข้าไม่ต้องอยู่บ้านดูแลภรรยากับลูกหรือ?”

ยังรู้จักจับประเด็นสำคัญได้ด้วย ลู่ม่านอมยิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า “โถ่ ไม่ต้องเศร้าขนาดนั้น ที่จริงจื่ออานเจ้าก็มีความสามารถ เพียงแค่ตอนเป็นเด็กขาดโอกาสไปไม่น้อยแล้วเท่านั้น”

เห็นลู่ม่านมีความสุขขึ้นมาแล้ว เฉินจื่ออานก็ค่อยวางใจ

เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินจื่ออานก็ออกไปแล้ว

ลู่ม่านไม่ได้ใส่ใจ เพราะเฉินจื่ออานเข้าสวนทุกวัน หลังจากทานข้าวเช้าแล้ว ลู่ม่านกำลังเตรียมตัวที่จะไปในตำบล นายหน้าก็มาหาพอดี

“แม่นางลู่ เรื่องที่เจ้าบอกกับข้าเมื่อหลายวันก่อน ข้ามองหาอยู่ตลอด เมื่อวานตอนบ่ายมีข้อมูลบ้านหลังใหม่ วันนี้ข้าจึงรีบมาตั้งแต่เช้า ไม่ทราบว่าวันนี้แม่นางพอมีเวลาไปดูไหม?”

“สะดวก” ลู่ม่านกำลังคิดหนักที่หาพื้นที่ที่เหมาะสมไม่ได้ จึงจะไม่ไปดูได้อย่างไร?

รีบลุกขึ้นเตรียมตัว แล้วก็ไปกับนายหน้าแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน