ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 273

สรุปบท บทที่ 273 เตรียมตัวทำงาน: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

บทที่ 273 เตรียมตัวทำงาน – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 273 เตรียมตัวทำงาน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

พูดถึงเรื่องแต่งงาน เหอเย่วหน้าแดงขึ้นมาทันที

“พี่เสี่ยวม่าน……”

“ไม่ต้องอายหรอก ข้าเห็นเจ้ากับเฉินจูชิงแอบมองกันอยู่ทุกครั้ง ทำไม? ยังไม่ตกลงว่าจะแต่งงานกันเมื่อไหร่หรือ?” ผู้หญิงมักจะชอบพูดเล่นกัน โดยเฉพาะในยุคโบราณ ที่ไม่มีทีวี ไม่มีมือถือ หากไม่หาเรื่องล้อเล่นมาทำให้ชีวิตเพลิดเพลินเสียหน่อย จะอยู่กันอย่างไร?

“ไม่รีบ” เหอเย่วพูดขึ้นว่า “เฉินจูชิงบอกว่า ตอนนี้เขายังไม่มีอะไร ขอให้ข้ารอเขาอีกสองปี เขาน่าจะเตรียมตัวที่จะออกไปสร้างเนื้อสร้างตัว.....”

“อ๋า?” ลู่ม่านขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าทำใจได้หรือ?”

เหอเย่วทำใจไม่ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะในยุคโบราณนี้คนมากมายที่ออกไปสร้างเนื้อสร้างตัวต่างก็ไม่กลับมา ดูเฉินเหมยเซียงก็รู้แล้ว ต้องสูญเสียทั้งภรรยาแล้วก็ทรัพย์สิน

“เขามีความตั้งใจของเขา....” เหอเย่วพูดขึ้น

จู่ๆ ลู่ม่านก็คิดวาบขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจำได้ว่าเฉินจูชิงเคยเรียนหนังสือใช่ไหม?”

“อืม” เหอเย่วถามขึ้นว่า “ทำไมหรือ?”

“ไม่มีอะไร” ลู่ม่านตั้งใจจะดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ทางด้านคนเฝ้าประตูก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ลู่ม่านก็ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลแล้ว พวกเขาสองสามีภรรยาอาศัยอยู่ตรงข้างหน้าบ้านก็เหมาะสมดี

ตอนกลางคืน ตอนที่เฉินจื่ออานกลับมา ก็เห็นลู่ม่านนั่งคิดพิจารณา ไตร่ตรองอยู่ตรงนั้น

เฉินจื่ออานเดินไปก้มมองดูลู่ม่านกำลังวาดรูป แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นมาว่า “เสี่ยวม่าน เจ้าคิดถึงอะไรดีๆ ที่น่าใช้แล้วเตรียมจะทำหรือ?”

ลู่ม่านส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ ข้าเตรียมจะเปิดร้านร้านบูติกในตำบล”

“ไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึง?” เฉินจื่ออานพูดขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “งั้นก็ต้องไปดูบ้านแล้วสิ? ยังมีวัสดุสิ่งของ ให้ข้าช่วยไหม?”

“ข้าจัดเตรียมไว้หมดแล้ว” ลู่ม่านพูดขึ้น แล้วก็เอาของเล่นที่ให้เหอเย่วทำออกมาให้เฉินจื่ออานดู พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าดูสิ สวยไหม?”

เฉินจื่ออานเป็นผู้ชายตรงๆ สิ่งของที่พวกผู้หญิงชอบแบบนี้ เขาไม่ค่อยสนใจ แต่เห็นถึงความงดงาม จึงพูดขึ้นว่า “สวยมาก นี่คือที่หลายวันก่อนพี่หลิวเล่าให้เจ้าฟังหรือ?”

“ใช่” ลู่ม่านพยักหัว

“ในเมื่อของก็มีแล้ว งั้นตอนนี้เจ้ายังจะกังวลอะไรอีก?” เฉินจื่ออานถามขึ้น

ลู่ม่านค่อยถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ากำลังคิดเรื่องตกแต่งร้าน ซึ่งร้านนี้ข้าตั้งใจเดินสายมีระดับ ดังนั้นทางด้านการตกแต่ง ข้าอยากให้รู้สึกได้ถึงความแปลกใหม่ ไม่อยากให้เหมือนร้านอย่างอื่น....แต่ยังมีสิ่งของอีกมากมายที่ข้าหาไม่ได้”

เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “เข้าหมายถึงสิ่งใด?”

“ก็คือ....” ลู่ม่านพยายามครุ่นคิดว่าจะอธิบายถึงกระจกยังไง แล้วก็พูดขึ้นว่า “คล้ายกับแก้วของเรา แต่เป็นแก้วกระจกที่สามารถเอามาใช้ส่องได้ ชัดเจนกว่ากระจกบรอนซ์ของเราอย่างมาก......”

เฉินจื่ออานส่ายหัว แล้วก็พูดขึ้นว่า “เสี่ยวม่าน ไม่มีของแบบนี้......”

คิดไว้อยู่แล้วว่า บนโลกใบนี้ไม่มีกระจก แม้แต่แก้วก็เพิ่งมี ความเรียบและความใสก็น้อยกว่ากระจกรุ่นหลังอย่างมาก และยังมีสิ่งเจือปนอยู่อีกมากมาย

เห็นลู่ม่านไม่พูดอะไรอีก เฉินจื่ออานจึงพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ไม่ใช้สิ่งของพวกนี้ไม่ได้หรือ? ใช้กระจกบรอนซ์ขัดเงา.....ข้ารู้จักช่างมีฝีมือขัดเงากระจกในตำบล กระจกที่ทำออกมานั้นใสมาก”

“เจ้าพูดว่า สามารถขัดเงากระจกได้?” ลู่ม่านรู้เป็นครั้งแรก

มาถึงที่นี่ครึ่งปีแล้ว เริ่มตอนที่เฉินจื่ออานอยู่ที่บ้านใหญ่ พวกเขาก็ไม่มีกระจก ต่อมา หลังจากมีบ้านใหม่จึงซื้อกระจกมา แต่กระจกนั่น ถึงตอนนี้ก็ยังใหม่อยู่ ลู่ม่านยังไม่มีเวลาศึกษาว่า เดิมกระจกขัดเงายังไง

“สามารถขัดเงาได้เป็นยังไง?” ลู่ม่านถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ

“เอ่อ....หลังจากขัดเงาแล้ว ก็จะสว่างใสกว่าของตอนนี้”

เห็นลู่ม่าน ท่านอู๋ก็พูดขึ้นว่า “เจ้าคนแล้งน้ำใจ ไม่มาหาข้าตั้งนาน”

ช่วงนี้ลู่ม่านงานยุ่งอย่างมาก ไม่ได้มาหาท่านอู๋เลย จึงรู้สึกค่อนข้างทำตัวไม่ถูก ในขณะที่ไม่รู้จะพูดอะไร ก็เหลือบมองเห็นชาดอกเก๊กฮวยในแก้วท่านอู๋

สายตาลู่ม่านเป็นประกายขึ้นมาทันที แล้วก็พูดขึ้นว่า “ชาดอกเก๊กฮวยนี้ ดื่มไปพอประมาณแล้วหรือเปล่า?”

“เจ้าจะไปเด็ดอีกหรือ?” ท่านอู๋ถามขึ้นมาอย่างสงสัยว่า “ตอนนี้เจ้ายังมีแก่ใจคิดเรื่องนี้หรือ?”

“ทำไมจะไม่มี?” ลู่ม่านยิ้มหัวเราะอย่างประจบ พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่หากท่านอู๋ช่วยข้าติดต่อแม่นางเซวียนเหนียง ทีมที่มาช่วยข้าสร้างบ้านครั้งนั้นได้ ข้าจะช่วยท่านเก็บดอกเก๊กฮวยให้ท่านพอทานหนึ่งปี”

“รู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่มีน้ำใจ” ท่านอู๋เม้นริมฝีปาก แต่ก็ลุกขึ้นมาอย่างจริงใจพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าพูดเองนะ หนึ่งปี”

“คำไหนคำนั้นแน่นอน” ลู่ม่านหัวเราะ พร้อมพูดขึ้น

มีท่านอู๋ช่วยออกหน้า วันที่สามคนพวกนั้นก็รีบมายังหมู่บ้านไป่ฮัว

ลู่ม่านเอาแบบที่นางต้องการให้ทีมก่อสร้างดู ไม่ช้าพวกเขาก็เข้าใจแล้ว และมีบางอันที่ลู่ม่านยังไม่เข้าใจ พวกเขาก็ช่วยแก้ไขให้

เรื่องงานตกแต่ง ก็เริ่มต้นขึ้นแบบนี้

ลู่ม่านคิดไว้ดีแล้ว ตรงข้ามประตูทางเข้าจะวางกระจกอันใหญ่ไว้ ด้านหน้ากระจกก็ใช้คนทำกรอบไม้ใส่ไว้ จากนั้นตรงด้านข้างที่นูนเข้าไป ลู่ม่านออกแบบ​​คล้ายกับโซฟาจีนสมัยใหม่ที่ทันสมัยวางไว้ ข้างหน้ามีถ้วยชากับน้ำชาทำเป็นมุมพักผ่อน

แน่นอน ความคิดของลู่ม่านไม่ง่ายขนาดนั้น นอกจากของเล่นแล้ว ยังมีสิ่งของอย่างอื่นที่พวกผู้หญิงชอบ

เรื่องพวกนี้กำลังค่อยๆ อยู่ระหว่างพัฒนา

นอกจากนี้แล้ว ก่อนวันเปิดร้านหลายวัน ลู่ม่านยังส่งบัตรเชิญไปด้วย ซึ่งเหอเย่วไม่ค่อยเข้าใจ ลู่ม่านหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า ถึงตอนนั้นเจ้าก็จะรู้เอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน