สรุปเนื้อหา บทที่ 28 ขอเงิน – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
บท บทที่ 28 ขอเงิน ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ทันใดนั้น เขาก็ตบโต๊ะ “เหอฮัวไปก็พอแล้ว หลิ่วเอ๋อถ้าเจ้าอยากไปก็ไปพร้อมกับแม่ของเข้า”
เฉินหลิ่วเอ๋อจึงกลอกตา เบือนหน้าไปทางอื่น ไม่ว่าอย่างไร เงินนั่นก็เป็นของนาง ขายดอกเก๊กฮวยแล้วยังไงก็ต้องเอาเงินมามอบให้ นางไม่สนใจ
แต่เมื่อตาแก่เฉินเห็นว่าสายตาของเหอฮัวมีแววคมกริบขึ้นมา ทั้งๆที่หลิวซื่อเป็นคนนิสัยอ่อนแอเช่นนั้น ทำไมเด็กคนนี้จึงแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
คิดถึงตรงนี้ สายตาของเขาก็มองไปที่ร่างของลู่ม่านที่กำลังคีบกับข้าวให้กับเหอฮัว ช่วงนี้ เด็กคนนี้เอาแต่ติดตามลู่ม่าน หรือว่าเป็นนาง
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบลู่ม่าน
ลู่ม่านไม่สนใจว่าตาแก่เฉินจะชอบหรือไม่ชอบนาง สำหรับนางแล้ว สามารถหาเงินเพื่อความสุขของตัวเอง และไว้เป็นทุนรอนในการใช้ชีวิตภายหน้าเป็นเรื่องที่ดีใจที่สุดแล้ว
ฉะนั้น วันรุ่งขึ้นนางก็ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่
เก็บของเรียบร้อยกำลังเปิดประตู เหอฮัวก็ยืนรออยู่นอกประตูแล้ว วันนี้นางเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แม้ว่าจะมีรอยปะรอยเย็บ แต่ก็สะอาดและดูเรียบร้อยกว่าชุดเก่า
ที่จริง เหอฮัวก็แค่ผอมเกินไป เมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นๆในบ้านเฉินถือว่านางหน้าตาดีที่สุดแล้ว
นางแทบจะรวบรวมจุดเด่นของ เฉินจื่อฟู่กับหลิวซื่อเอาไว้จนหมด ตากลมโต ปากเล็กน่ารัก จมูกสูงโด่ง ถ้าหากอ้วนขึ้นอีกนิด และดูแลให้ขาวขึ้นอีกสักหน่อย เช่นนั้นคงเป็นสาวงามที่หาตัวจับได้ยากทีเดียว
เมื่อเห็นลู่ม่าน นางก็ร้องเรียกเสียงหวานว่า “น้าสาม”
“เด็กดี ตื่นตั้งแต่เช้าเชียว”ลู่ม่านพูดยิ้มๆ
“ข้าไม่เคยไปตลาดมาก่อน ”นางพูดอย่างเป็นธรรมดามาก แต่ลู่ม่านฟังแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เด็กอายุเจ็ดแปดขวบแล้ว แม้แต่ตลาดก็ไม่เคยได้ไป
หลิวซื่อตามออกมาจากทางด้านหลัง ในมือถือเสื้อตัวนอกที่ถูกปะชุนเต็มไปหมด ได้ยินคำพูดนี้ก็ชะงักไป แม้ว่ามือของนางตอนนี้ยังหายไม่สนิท แต่ก็ไม่เจ็บแล้ว นอกจากไม่แตะต้องน้ำ ไม่ยกของหนัก อย่างอื่นล้วนทำได้
เช็ดความชื้นที่หางตา นางก้าวเข้าไปพูดว่า “เหอฮัว ใส่ซะ เดี๋ยวจะหนาว”
เหอฮัวรับไปใส่ พูดว่า “ท่านแม่ ท่านกลับไปพักเถอะ ข้ากับน้าสามจะรีบกลับมา ถ้าข้าหาเงินได้แล้ว ข้าก็จะสามารถปกป้องท่านได้”
“โธ่”หลิวซื่อพยักหน้า ดวงตาร้อนผ่าวขึ้นมา
ลู่ม่านนึกถึงโรคแม่พระครั้งก่อนของนาง ยังคงรู้สึกรำคาญนางอยู่บ้าง ได้แต่พูดเสียงเรียบว่า “ถ้าเช่นนั้นพวกเราขอตัวก่อน”แล้วแบกกระบุงขึ้นหลัง พาเหอฮัวเดินออกไป
ครั้งนี้มีของมากกว่าครั้งก่อน แม้เหอฮัวจะช่วยแบ่งเบาภาระได้อยู่บ้าง แต่ว่า ลู่ม่านก็ยังคงเหนื่อยมาก และเดินช้าลงมากอีกด้วย
ผ่านไปครึ่งวัน ทั้งสองเพิ่งจะถึงในเมือง
ลู่ม่านกระหายน้ำจนแทบจะพ่นไฟได้แล้ว พอดีกับที่เดินผ่านร้านน้ำชา หนึ่งเหวินได้น้ำชาสองถ้วยใหญ่
ลู่ม่านจึงซื้อสองถ้วยมาดื่มกับเหอฮัว แล้วก็สั่งขนมจานเล็กๆมาหนึ่งที่ กินจนอิ่มแล้ว จึงเดินไปทางร้านยาฉืออาน
ในร้านยาฉืออาน ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงแล้ว ในร้านไม่มีเสียงวุ่นวายเหมือนครั้งที่แล้ว
ท่านอู๋กำลังถือถ้วยชาไว้ถ้วยหนึ่งนั่งพิงอยู่กับเก้าอี้ที่อยู่ด้านนอกลิ้มรสน้ำชา เห็นนางเดินมาแต่ไกล เขาก็พูดยิ้มๆว่า “แม่นางในที่สุดเจ้าก็มา ดอกเก๊กฮวยที่เจ้าเอามาครั้งที่แล้วไม่พอขายเลย ขายหมดไปตั้งนานแล้ว”
ตอนที่พูดประโยคนี้ ลู่ม่านได้กลิ่นอายคุ้นเคยจากอากาศ นางมองไปที่กาน้ำชาของท่านอู๋แวบหนึ่ง แล้วก็ยิ้มออกมา
“ท่านอู๋ ไหนว่าไม่พอ ท่านยังดื่มอยู่เลยนี่นา”
ท่านอู๋หัวเราะออกมาทันที “แม่นางตาไวจริงๆ ”
“แล้วท่านว่าดีหรือไม่”
กล่าวลาท่านอู๋กับเจ้าของร้านแล้ว ลู่ม่านก็พานางออกมา
เพิ่งจะถึงหน้าประตู ก็เห็นเฉินหลี่ซื่อกับเฉินหลิ่วเอ๋อรออยู่ตรงนั้นแล้ว
ลู่ม่านขมวดคิ้ว ก็เห็นว่าเฉินหลิ่วเอ๋อประคองเฉินหลี่ซื่อเดินตรงเข้ามาหา “ขายของได้แล้ว เงินล่ะ”
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจหายไปทันที แม้จะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเงินนี้ต้องส่งมอบเข้ากองกลาง แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่นางหาเงินได้เอง
ลู่ม่านเห็นดังนั้น ตบที่บ่าของนางเบาๆ หันไปทางเฉินหลี่ซื่อ“เหอฮัวลำบากหามาได้ ท่านแม่ต้องเหลือให้นางบ้าง ให้นางได้ซื้อของของตัวเองหน่อย”
“ซื้อของอะไรกัน ”เฉินหลี่ซื่อตะคอกเสียงดุ “เป็นเด็กเป็นเล็ก มีอะไรที่สมควรซื้อ”
ลู่ม่านอับจนคำพูด นางไม่อยากจะทะเลาะกับนางกลางถนนจึงได้เอ่ยร้องขอเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่า เฉินหลี่ซื่อจะเป็นคนที่ให้หน้าแล้วไม่เอาหน้าจริงๆ
“ท่านแม่ ท่านพูดเช่นนี้ไม่ถูก เหอฮัวอยู่ในบ้าน กินหมั่นโถวแค่ครึ่งลูกทุกมื้อ ทำงานทุกวัน ทำมากกว่าผู้ใหญ่คนหนึ่งเสียอีก ไม่ง่ายเลยกว่าจะหาเงินได้เอง ทำไมท่านจะแบ่งให้นางบ้างไม่ได้”
“ไม่แยกครอบครัวนั่นก็คือของส่วนกลาง ทำไมต้องแบ่งให้นางด้วย”เฉินหลี่ซื่อตอนนี้ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน คิดว่าคงไม่มีใครรู้จักนาง พูดเสียงดังขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจใคร
รอบข้างมีคนตำหนิ นางก็ไม่ลังเลที่จะเถียงกลับไปว่า “เกี่ยวอะไรกับพวกเจ้า”
“พี่สะใภ้สาม ถ้าท่านสงสารนาง ท่านก็ให้นางสิ ท่านขายได้มากกว่ามิใช่หรือ”นี่คือเสียงของเฉินหลิ่วเอ๋อ
ลู่ม่านมองสองแม่ลูกอย่างดูถูก กำลังจะตอบโต้ เหอฮัวยื่นมือออกมาดึงมือของลู่ม่านเอาไว้ “น้าสาม ช่างเถอะ”
เด็กตัวน้อยกำถุงเงินในมืออยู่ชั่วครู่แล้วยื่นออกไป “ท่านย่า ให้ท่าน แต่ข้ามีความหวังอย่างหนึ่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...