ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 29

เฉินหลี่ซื่อรับเงินไป พูดด้วยสายตาเย็นชา “ความหวังอะไร ที่บ้านไม่มีให้เจ้ากินให้เจ้าสวมใส่หรืออย่างไร”

เหอฮัวมองผู้คนที่อยู่รอบๆ พูดเสียงกังวานว่า “ท่านย่า ขอเพียงวันหลังท่านไม่ทารุณแม้ข้าอีก เงินที่ข้าหาได้หลังจากนี้จะให้ท่านทั้งหมด”

ขวับ

เหอฮัวพูดประโยคนี้ออกไป คนรอบข้างทั้งหมดต่างก็มองไปทางเฉินหลี่ซื่อด้วยสายตาดูถูก อารมณ์ประมาณว่ายายเฒ่าคนนี้ ไม่เพียงแต่จะมีใบหน้าดุดัน อยู่ที่บ้านยังทารุณกรรมลูกสะใภ้ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นคือมีคนรู้จักเฉินหลี่ซื่อว่าเป็นคนจากบ้านเฉินแห่งหมู่บ้านไป่ฮัว อดไม่ได้ที่จะพูดเยาะเย้ยว่า “ได้ยินมาว่าบ้านเฉินยังมีลูกชายคนเล็กและหลายชายอีกหนึ่งคนที่ยังไม่แต่งงาน วันหน้าหากลูกสาวของพวกเจ้าจะหมั้นหมาย ต้องดูให้ดีนะ”

“นั่นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว”

เฉินหลี่ซื่อรู้สึกอายจนโมโหขึ้นมาทันที เงื้อมือขึ้นจะตบ แต่เฉินหลิ่วเอ๋อยังพอมีสติอยู่บ้าง จึงดึงเฉินหลี่ซื่อเอาไว้

“ท่านแม่ ช่างเถอะ คนตั้งมากมายดูอยู่ พวกเราไปกันเถอะ”

พูดจบแล้ว ท่ามกลางคนมากมาย ทั้งสองคนรีบเดินจากไปทันที

ลู่ม่านจึงมองไปทางเหอฮัว“คำพูดทั้งหมดเมื่อครู่นี้ เจ้าคิดได้อย่างไร”

เหอฮัวส่ายหน้า “ข้าพูดจากใจจริง”

ลู่ม่านหัวเราะขึ้นมาทันที ก็จริง เด็กตัวแค่นี้ ไหนเลยจะรู้จักใช้กลยุทธ์ถอนฟืนใต้กระทะ แต่ว่า มาจากใจจริงก็ยิ่งดี ครั้งนี้พอจะทำให้เฉินหลี่ซื่อได้รับผลกรรมบ้างแล้ว

อารมณ์ดี ลู่ม่านจึงพูดขึ้นว่า “อยากกินอะไร น้าจะพาเจ้าไปกิน”

“ไม่กินดีกว่า ”เหอฮัวส่ายหน้า “ของในเมืองแพงมาก”

รู้ความจนทำให้รู้สึกสงสาร

“ไม่เป็นไร ”ลู่ม่านดึงนางเอาไว้ “น้าเลี้ยงเอง”

ไหนๆก็ไหนๆ นางเองก็ยังไม่เคยกินของในเมืองนี้ ช่วงนี้ดื่มโจ๊กที่บ้านทุกวัน ดื่มจนเห็นน้ำก็รู้สึกกลัวแล้ว

เดินไปไม่กี่ก้าว ก็มีร้านอาหารร้านหนึ่ง ลู่ม่านจึงดึงเหอฮัวเข้าไปข้างใน

วันหน้าหากนางจะทำซีอิ๊วละก็ บางทีก็ควรจะสอบถามสถานการณ์ในตอนนี้

ในร้านอาหารมีเสียงจอแจของผู้คนมากมาย มีเสียงของเสี่ยวเอ้อที่คอยต้อนรับแขกดังไปทั่ว ดูคึกคักมาก เหมือนที่ลู่ม่านเคยดูในสารคดีเกี่ยวกับราชวงศ์ถังอันยิ่งใหญ่

จึงจองห้องรับรองส่วนตัว ทั้งสองเดินเข้าไปนั่งลง

“แม่นาง จะรับอะไรดี”เสี่ยวเอ้อถามอย่างเกรงใจ

“มีอะไรบ้าง” ลู่ม่านก็เอ่ยถามอย่างเกียจคร้าน จากการวิเคราะห์ของนาง ที่นี่มีการใช้จ่ายสูงมาก แม้จะกินอาหารในร้านอาหารที่ใหญ่โตเช่นนี้ ก็คงใช้แค่เงินร้อยกว่าเหวินเท่านั้น

ฉะนั้น นางพกเงินไว้กับตัวหนึ่งพวง นางมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง

เสี่ยวเอ้อได้ยินดังนั้น ก็ร่ายชื่ออาหารออกมาทีละรายการ นางถามถึงอาหารหลายอย่างในยุคนี้ที่จำเป็นต้องเพิ่มซีอิ๊วแล้วจึงจะอร่อย คาดไม่ถึงว่าต้องจ่ายเงินหลายสิบเหวินต่อจานทีเดียว

เห็นนางตกใจ เสี่ยวเอ้อก็รีบอธิบายว่า “เป็นเพราะว่า อาหารเหล่านี้ล้วนเพิ่มซีอิ๊ว ฉะนั้นราคาจึงค่อนข้างสูง”

ลู่ม่านพยักหน้า“แล้วถ้าหากมีซีอิ๊วชนิดหนึ่ง ที่ค่อนข้างถูก แล้วยังสามารถทำอาหารที่รสชาติเหมือนกันหรือแม้กระทั่งทำให้อร่อยกว่าได้ พวกเจ้าจะซื้อหรือไม่”

เสี่ยวเอ้อหัวเราะขึ้นมาทันที “แม่นางกำลังล้อเล่นแน่เลย ภัตตาคารเฟิ่งหลายของเราเป็นร้านสาขาที่ขุนนางชั้นสูงในเมืองหลวงเป็นคนเปิดกิจการ มีของดีอะไรบ้าง ที่เหล่าขุนนางชั้นสูงไม่เคยเห็น”

“ต้องมีแน่”ลู่ม่านเอ่ยพึมพำคำหนึ่ง สั่งเนื้อผัดไปสองสามจาน ผัดผักหนึ่งจาน อยากจะสั่งน้ำแกงปลาจี้ ปรากฏว่าเสี่ยวเอ้อบอกว่าพวกเขามีแค่เนื้อปลาดิบแล่บาง

ลู่ม่านคิดว่าเป็นชิ้นเนื้อปลา จึงสั่งจานนี้ไป

ถึงเวลาอาหารขึ้นโต๊ะ เพิ่งจะรู้ว่าเป็นเนื้อปลาดิบแล่บางเป็นแผ่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน