ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 294

สรุปบท บทที่ 294 โทษหลอกลวงเบื้องสูง: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

บทที่ 294 โทษหลอกลวงเบื้องสูง – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 294 โทษหลอกลวงเบื้องสูง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ต้องยอมรับเลย สามารถทำอะไรตามใจชอบได้ เช่นนี้ ลู่ม่านสะใจมากจริงๆ!

ใบหน้าของหยวนเหนียงกลั้นอารมณ์จนบิดเบี้ยว แต่พอนางคิดถึงประโยชน์ที่ได้จากครีมตัว เธอก็ควบคุมอารมณ์โกรธไว้ “แล้วจะมีอีกครั้งเมื่อไหร่”

“ข้าก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน” หลังจากลู่ม่านพูดจบ นางก็ยกชาขึ้นมาจิบ ทำเหมือนส่งแขกออกไป

พอเห็นว่าเหอเย่วเดินมาทางนี้ หยวนเหนียงก็พูดขึ้นมาทันที “งั้นกระปุกสุดท้ายนี้ให้ข้าได้ไหม”

ลู่ม่านยกยิ้ม แล้วมองไปที่เหอเย่ว “ในเมื่อหยวนเหนียงต้องการซื้อ ก็ให้นางเถอะ”

เหอเย่วเข้าใจทันที “เจ้าค่ะ”

ที่จริงพวกนางยังเหลืออีกเยอะมาก จะเหลือกระปุกเดียวได้อย่างไร แต่ลู่ม่านไม่ถูกชะตากับหยวนซื่อ จึงจงใจพูดแบบนี้

หลังจากที่ทั้งสองคนออกไป ลู่ม่านก็หยิบบัตรเชิญที่หยวนเหนียงมาให้ขึ้นมา

เป็นบัตรเชิญที่ลวดลายสวยงามมาก ดูเหมือนว่าเฉินจื่อฟู่จะรักภรรยาใหม่ของเขามากจริงๆ ทำให้ยิ่งเน้นย้ำถึงความโหดเหี้ยมของเขาที่มีต่อหลิวซื่อ

ผู้ชายสารเลว ยังจะกล้ามาแสดงตัวตนอีก!

ลู่ม่านโยนบัตรเชิญทิ้งลงถังขยะ แล้วลุกเดินออกไป

พอออกมาข้างนอก จึงเห็นว่าเฉินจื่ออานกลับมาแล้ว พอลู่ม่านเห็นว่าเขาก็กำลังเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องที่หยวนซื่อมาที่บ้านในวันนี้ แต่เฉินจื่ออานกลับยิ้มหน้าบานเข้ามาหา

ลู่ม่านรู้สึกประหลาดใจ “จื่ออาน มีข่าวดีอะไรถึงได้ดีใจเช่นนี้?”

เฉินจื่ออานพยักหน้า แล้วพูดว่า “ข้าได้รับข่าวจากในวัง บอกว่ากำลังจะส่งคนมาเก็บพริกชุดแรกจากทุ่งนาทดลองของเรา”

ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง หลายเดือนมานี้เฉินจื่ออานได้อุทิศตัวเอง และทุ่มเทให้กับเรื่องนี้ไว้มาก ตอนนี้ถึงเวลาเห็นผลลัพธ์แล้ว แน่นอนว่าเขาจะต้องดีใจมากอยู่แล้ว

ลู่ม่านก็ดีใจมากเช่นกัน “แล้วคนในวังจะมาเมื่อไหร่ ข้าจะได้เตรีมการไว้”

“ข้ากำลังจะคุยกับเจ้าเรื่องนี้พอดี!” ทั้งคู่เดินคุยกัน แล้วเดินกลับไปที่ห้องหนังสืออีกครั้ง

“พริกสุกรอบแรก คนที่ส่งมาจากวังจะต้องทำการเก็บเองแน่นอน ดังนั้นพวกเราไม่ต้องหาคนงานมาช่วย แค่ต้องทำงานด้านการสนับสนุน เดี๋ยวข้าจะเตรียมน้ำชาดับกระหาย ด้านอาหารการกินก็จะจัดเตรียมอาหารรสชาติที่ไม่เผ็ดและสภาพดูดีไว้ให้”

“เช่นนี้ก็น่าจะดีมากแล้ว!” เฉินจื่ออานพยักหน้า

“ตอนนี้พริกเป็นอย่างไรบ้าง” ลู่ม่านเอ่ยถาม

“ดีมากเลยล่ะ!” เฉินจื่ออานพูดยิ้มๆ “หลายวันมานี้ข้าเห็นพวกมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว น่าจะไม่มีปัญหา ดูดีกว่าที่เราเคยปลูกไว้ก่อนหน้านี้ซะอีก”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว!” ลู่ม่านหัวเราะออกมา “จริงสิ เจ้าอย่าลืมไปบอกท่านลุงผู้ใหญ่บ้านไว้ด้วยนะ?”

“แน่นอน!” เฉินจื่ออานพยักหน้า

ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่ เหอเย่วก็เดินกลับมาพร้อมกับถุงเงิน

“พี่เสี่ยวม่าน ข้าส่งหยวนซื่อออกไปแล้ว!”

“อืม!” ลู่ม่านตอบ “เจ้าเอาเงินนั่นไปเก็บเถอะ!”

เฉินจื่ออานงุนงง “หยวนซื่อ นางมาที่นี่ทำไม?”

ลู่ม่านเล่าที่หยวนซื่อมาที่นี่ให้เฉินจื่ออานฟัง และเฉินจื่ออานไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการของลู่ม่าน เขาไม่พอใจในสิ่งที่เฉินจื่อฟู่ทำมาตลอด และแน่นอนว่าเขาไม่มีทางไปงานแต่งงานที่ว่าด้วย

หลังจากนั้น ทั้งสองก็แยกกันไปจัดการงานของตนเอง

ลู่ม่านนิ่งคิดอยู่สักพักแล้วเรียกเหอเย่วมาหาอีกครั้ง “หลายวันนี้ เจ้ากับยายอิงทำความสะอาดเรือนส่วนหน้าให้สะอาด ของใช้ที่ต้องเตรียมไว้ในห้องรับแขกก็เตรียมให้พร้อม”

เหอเย่วตอบกลับ ลู่ม่านนั่งพัก ก่อนจะลุกขึ้นยืน นึกถึงเครื่องดื่มและอาหารมากมายในยุคปัจจุบัน หลังจากคิดเรื่องนี้ นางก็ร่างรายการออกมา รอเหอเย่วงานไม่ยุ่งแล้ว ค่อยเรียกนางไปที่ตำบลด้วยกัน

อากาศเริ่มร้อนแล้ว ซุปถั่วเขียวจะขาดไม่ได้ เพราะมันสามารถช่วยดับร้อนได้ ลู่ม่านอยากจะทำไอศกรีม ดังนั้นนางจึงอยากไปที่ตำบลเพื่อหาซื้อก้อนน้ำแข็ง

แต่คิดไม่ถึงว่า นางเพิ่งมาถึงหน้าประตู นางก็เห็นตาเการออยู่ที่ประตูอย่างร้อนรน “นายหญิง ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว”

“มีอะไรหรือ?” หลู่หม่านถามด้วยความสงสัย

“นายท่านกลับมาแล้ว บอกแต่ว่ามีบางเรื่องสำคัญ ต้องการความช่วยเหลือจากนายหญิง”

“เกิดอะไรขึ้น?” ลู่ม่านถามอย่างสงสัย

“นายท่านไม่ได้บอกไว้ แต่ท่าทางเขารีบร้อนมาก คงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก” ตาเกาพูด

ลู่ม่านขมวดคิ้ว แล้วยื่นของในมือให้เหอเย่ว ก่อนจะรีบเดินไปที่สวนพริกไทย แล้วเห็นเฉินจื่ออานท่าทางร้อนใจมาจากระยะไกล ลู่ม่านก็รีบวิ่งไปหาอย่างรวดเร็ว

“จื่ออาน...”

“เสี่ยวม่าน ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว ตรงหน้าก็จะถึงช่วงเก็บเกี่ยวแล้ว ทำไมพริกถึงเป็นแบบนี้?”

หลังจากที่เฉินจื่ออานพูดจบ ลู่ม่านก็เดินไปดูต้นพริก จากนั้นก็พบว่ามีรอยแมลงกัดปรากฏขึ้นบนต้นเป็นจำนวนมากในชั่วข้ามคืน และใบของพริกก็ถูกแมลงกัดกิน บนตัวพริกก็มีจุดดำจำนวนมาก

“เป็นโรคระบาด!” ลู่ม่านพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“อะไรนะ โรคระบาด?” เฉินจืออานตกใจ

ลู่ม่านรีบส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่ใช่โรคระบาดที่เรามักจะพูดกัน ข้าหมายความว่านี่คือโรคระบาดของพริก!”

“แต่หลายวันก่อนก็ยังปกติดีนี่นา ทำไมจู่ๆ ถึงเกิดโรคระบาดได้ล่ะ?” เฉินจื่ออานยังคงกังวลใจ “พรุ่งนี้คนจากในวังก็จะมาถึงแล้ว ข้าจะทำอย่างไรดี?”

ลู่ม่านเองก็เริ่มร้อนใจเช่นกัน เดิมที ถ้าปลูกไม่สำเร็จ แล้วรายงานขึ้นไปก็คงไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่ตอนนี้ประสบความสำเร็จแล้ว และยังรายงานให้เบื้องบนได้รับรู้แล้ว กลับมาเกิดปัญหาเช่นนี้

เกรงว่าจะหนีความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูงไม่ได้แล้ว...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน