ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 303

สรุปบท บทที่ 303 สารภาพแล้ว!: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปเนื้อหา บทที่ 303 สารภาพแล้ว! – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บท บทที่ 303 สารภาพแล้ว! ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ไพ่ตายทั้งหมดถูกหงายออกมาจนหมดแล้ว แต่ล้วนใช้ไม่ได้ผล ตาแก่เฉินต้องยอมรับในที่สุดว่าเขาแพ้แล้ว

ก็นั่นสินะ ตอนนี้เฉินหลี่ซื่อมีลูกชายที่แสนดีอย่างเฉินจื่อคังแล้ว ในใจนางย่อมคิดว่า เฉินจื่อคังจะต้องเลี้ยงดูนางในยามแก่ชราแน่ ทำไมนางยังต้องกลัวกับแค่ถูกสามีหย่าอีกล่ะ?

“ดี หลี่ซื่อ เจ้ามันดีมาก!” ตาแก่เฉินพูดทั้งที่กัดฟันกรอด พูดจบก็ไอออกมาอย่างรุนแรง

เฉินหลี่ซื่อไม่สนใจเขา เดินกลับเข้าไปข้างในตรง ๆ พร้อมกับเฉินหลิ่วเอ๋อ

ตอนนี้เอง เฉินจื่ออานค่อยก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพื่อช่วยพยุงตาแก่เฉิน “พ่อ อย่าโกรธเลยนะ”

ตาแก่เฉินโบกมือ หลังจากสงบสติอารมณ์อยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ค่อยลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า "ไปกันเถอะ!"

กลับกัน หยวนซื่อที่ยืนอยู่ข้างหลังกระซิบพูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า "พ่อ ท่านก็รั้งอยู่ที่นี่สักหลาย ๆ วันด้วยเถอะนะ?"

ตาแก่เฉินไม่สนใจคำชวนให้อยู่ต่อของนาง โยนคำสั่งทิ้งไว้เพียงประโยคเดียวว่า “ถ้าจื่อฟู่กลับมาล่ะก็ เจ้าบอกให้มันกลับไปหาข้าสักครั้ง!”

พูดจบ ก็จากไปจริง ๆ

เมื่อเช้าตอนที่ออกมา ตาแก่เฉินยังไม่ได้กินอะไรเลย หลังจากออกมา เฉินจื่ออานเห็นว่าเขาตัวสั่นเทิ้มไปหมด จึงคิดจะพาเขาไปหาหมอ แต่เขาปฏิเสธหัวชนฝาอย่างไรก็ไม่ยอมไป สุดท้ายเป็นลู่ม่านที่เสนอว่าให้พาตาแก่เฉินไปกินอะไรสักหน่อยดีกว่า เขาถึงฝืนรับปากอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

เมื่อเห็นว่าตาแก่เฉินในช่วงหลายวันมานี้ คล้ายว่าเขาจะไม่ค่อยได้กินข้าวครบมื้อสักเท่าไหร่ จึงไม่กล้าสั่งของที่มันหรือเลี่ยนจนเกินไป เฉินจื่ออานสั่งพวกโจ๊กกับน้ำแกงที่ไม่หนักท้อง กับพวกเครื่องเคียงเล็ก ๆ น้อย ๆ สามคนนั่งล้อมวงกินด้วยกันจนหมด

หลังกินข้าวเสร็จ ตาแก่เฉินก็ดีขึ้นมากจริง ๆ

ตอนนี้เองลู่ม่านก็พูดขึ้นว่า "จื่ออาน เจ้าอยู่กับพ่อนะ ข้าจะไปซื้อของหน่อย...."

“เจ้าคนเดียวถือไหวหรือ? ” เฉินจื่ออานถาม

“เจ้าไปกับนางเถอะ!” จู่ ๆ ตาแก่เฉินก็พูดโพล่งขึ้นมา “ข้ารอพวกเจ้าอยู่ในรถก็พอ!”

“แต่ว่า พ่อ.....”

“ไปเถอะ!” ตาแก่เฉินยืนยันหนักแน่น "พ่อไม่เป็นไรหรอก!"

เฉินจื่ออานจึงพยักหน้า ขับรถม้าขึ้นไปที่มุมถนน ก่อนจะจอดไว้ในจุดที่ดูปลอดภัยแห่งหนึ่ง แล้วค่อยไปซื้อของกับลู่ม่าน

อันที่จริง ลู่ม่านอยากจะซื้อพวกของกินเล่นจากอำเภอเฟิงหนาน กับพวกเครื่องเรือนของตกแต่งที่คุณภาพดีหน่อย นำติดตัวไปเมืองหลวง จะได้เอาไปตกแต่งที่บ้านของพวกเขา

เนื่องจากอำเภอเฟิงหนานค่อนข้างมีชื่อเสียงในด้านเครื่องเคลือบ ในตัวอำเภอจึงมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก

ลู่หม่านเลือกของสวย ๆ ได้หลายชิ้นทีเดียว ก่อนจะตามเฉินจื่ออานออกมา ผลคือ เมื่อมาถึงมุมถนนที่จอดรถไว้เมื่อครู่ ก็พบว่าตาแก่เฉินหายตัวไปแล้ว

ตอนแรก ทั้งสองคนคิดว่าเขาคงรอนานเกินไป จึงไปหาที่ปลดทุกข์ที่ไหนสักแห่งแล้ว แต่พอเฉินจื่ออานไปตามหารอบ ๆ หลายแห่ง รวมถึงจุดที่สามารถปลดทุกข์ได้ก็หาไม่พบ นี่จึงทำให้รู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาในที่สุด

“คงไม่ใช่ว่าพ่อจะเกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้นหรอกนะ?”

ลู่ม่านส่ายหน้า "ถ้าให้ข้าเดาล่ะก็ คิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่พ่อจะไปหาซวนเหวินลี่"

เฉินจื่ออานได้ยินก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ซวนเหวินลี่เป็นหนามร้ายที่ทิ่มแทงใจตาแก่เฉินจนเจ็บช้ำไปหมด ตอนนี้ทั้งเฉินจื่อฟู่ เฉินหลิ่วเอ๋อ รวมถึงเฉินหลี่ซื่อต่างก็ติดอยู่ในกับดักของซวนเหวินลี่กันหมดแล้ว

เขาจะทนรับมันได้อย่างไรล่ะ?

หลังจากที่ทั้งสองคนตัดสินเรื่องราวได้คร่าว ๆ แล้ว พวกเขาก็รีบขับรถไปยังที่ทำการอำเภอทันที

หน้าทางเข้าที่ทำการอำเภอ ทุกอย่างเงียบสงัด ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานหันมองหน้าประสานสายตากันแวบหนึ่ง หรือว่าตาแก่เฉินจะไม่ได้มาที่นี่?

ระหว่างที่กำลังคิดอยู่ เฉินจื่อฟู่ก็เดินออกมาจากตรอกแห่งหนึ่งพอดี เฉินจื่ออานพุ่งเข้าไปคว้าตัวเขาเอาไว้ทันที "พ่อล่ะ?"

เดิมเฉินจื่อฟู่ก็ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ก่อนแล้ว พอถูกเฉินจื่ออานคว้าตัว ก็ตกใจจนแทบจะเสียขวัญสูญวิญญาณ ยังดีที่เฉินจื่ออานปิดปากของเขาเอาไว้ได้เร็ว จึงไม่มีเสียงเอะอะโวยวายจนเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมา

เฉินจื่อฟู่ยกมือขึ้นกุมอก พลางหอบหายใจติด ๆ กันหลายเฮือก "พวกเจ้ามากันทำไมรึ?"

ชั่วขณะนั้นเฉินจื่ออานคิดว่า เป็นเพราะเฉินจื่อคังโดนตาแก่เฉินทำอะไรเข้าอีกแล้ว ก็ร้อนรนทำท่าว่าจะพุ่งเข้าไปข้างใน ตาแก่เฉินคว้าตัวเขาไว้แล้วพูดว่า “จื่ออาน อย่าสร้างปัญหา!”

เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว “พ่อ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

"ไม่มีอะไรหรอก! จื่อฟู่ คำพูดที่จื่อคังมันพูดเมื่อครู่เจ้าก็ได้ยินแล้วนี่ พวกเจ้ามาอยู่กันที่นี่ก็ไม่มีทางได้เจอผลลัพธ์ที่ดีอะไรหรอก อย่างไรก็รีบกลับไปที่หมู่บ้านโดยเร็วที่สุดเสียเถอะ!"

เมื่อเฉินจื่อฟู่ได้ยินดังนั้น ก็เริ่มแสดงท่าทีเหลืออดขึ้นมา “พ่อ เรื่องของข้าพ่ออย่ายุ่งจะดีกว่า!”

“ไอ้ลูกเวร! นี่เจ้าคิดจะทำให้ข้าโกรธตายให้ได้ใช่หรือไม่?” ตาแก่เฉินพูดพลางทำท่าว่าจะโกรธขึ้นมาอีกครั้ง เฉินจื่อฟู่รีบกวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างร้อนรน แล้วกระซิบพูดเบา ๆ ว่า “พ่อ เมื่อข้าจัดการเรื่องสภาพทางการเงินของข้าได้แล้ว ข้าจะคิดเรื่องนี้อีกที!”

ตาแก่เฉินคล้ายจะรู้แล้ว ว่าตัวเองคงไม่อาจเกลี้ยกล่อมลูกชายคนนี้ได้ จึงไม่ฝืนดึงดันให้มากเกินไป แค่พยักหน้า แล้วพูดขึ้นอีกครั้งว่า “กลับไปก็ลองกล่อมแม่กับหลิ่วเอ๋อสักหน่อยล่ะ....”

“อื้อ!” เฉินจื่อฟู่ตอบรับ

พูดจบ ตาแก่เฉินก็เดินขึ้นไปที่ริมถนนด้วยตัวเอง

ลู่ม่านรีบคว้าตัวเฉินจื่ออานเข้ามาอย่างรวดเร็ว "จื่ออาน ไปกันเถอะ!"

เฉินจื่ออานค่อยยอมหันกลับมา ก่อนจะตามลู่ม่านกลับไป

ระหว่างทาง ตาแก่เฉินถึงยอมเปิดปากพูด “เขาสารภาพกับข้าแล้ว....”

ลู่ม่านกลับคาดเดาเรื่องราวได้คร่าว ๆ แล้ว เป็นเพราะเฉินหลี่ซื่อกับเฉินหลิ่วเอ๋อ เฉินจื่อฟู่จึงได้เจอจุดอ่อนของเขา ดังนั้น เขาจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปิดบังซ่อนเร้นทั้งสิ้น

บางทีในเวลานี้ ถ้ายอมสารภาพออกไป งัดลูกไม้เลือดข้นกว่าน้ำ อย่างไรคนในครอบครัวย่อมต้องช่วยเหลือกันออกมาใช้ ก็อาจได้รับความช่วยเหลือจากตาแก่เฉิน หรือไม่ ตาแก่เฉินก็อาจใจอ่อนลงบ้างแล้ว?

เฉินจื่ออานมีท่าทีตกตะลึงไปครู่หนึ่งเลยทีเดียว "เขาพูดอะไรรึ?"

ตาแก่เฉินถอนหายใจเฮือก “เขาบอกว่าตอนนั้นที่เขาติดอยู่ในกองไฟ ตัวเขาเองก็คิดไม่ถึงหรอกว่าตัวเองจะรอดมาได้ เขาถูกคนคนหนึ่งแบกออกมา รอจนเขาตื่น ทุกอย่างก็เป็นไปตามบทสรุปที่ทุกคนรู้กันแล้ว....”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน