ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 305

สรุปบท บทที่ 305 เจอโจร: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

อ่านสรุป บทที่ 305 เจอโจร จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บทที่ บทที่ 305 เจอโจร คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฝูเชิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หลังจากลู่ม่านมาถึงตัวตำบล ก็พบว่านาข้าวในตำบลก็มีปัญหาหนอนแมลงกัดกินด้วยเหมือนกัน ลู่ม่านคาดเดาว่านี่คงเป็นภัยพิบัติใหญ่ จึงอดหยุดเดินทางก่อนไม่ได้ แล้วไปที่ร้านม่านเซิง เพื่อไหว้วานให้เฉินจูชิงรีบหาโอกาสบอกเล่าสถานการณ์ภายในตำบลให้เฉินจื่ออานรู้

บางที อาจไม่ใช่แค่ที่หมู่บ้านไป่ฮัวเท่านั้นที่จำเป็นต้องพ่นน้ำปูนขาว แต่เป็นทั้งอำเภอเฟิงหนานเลยต่างหากที่ต้องกำจัดหนอนแมลงขนานใหญ่

เฉินจูชิงก็เกิดในครอบครัวชาวนาชาวไร่เหมือนกัน ย่อมรู้ดีว่าภัยพิบัติจากหนอนแมลงที่เป็นศัตรูพืชมันร้ายแรงขนาดไหน จึงไม่กล้าชักช้า รีบไปเตรียมการทันที ตอนที่หันกลับมาค่อยนึกขึ้นได้ จึงถามว่า "แม่นาง พวกเจ้าจะไปไหนกันรึ?"

ลู่ม่านตอบว่า “พวกเราต้องไปเมืองหลวงกันสักครั้ง! พอดีว่าทางนั้นมีธุระสำคัญบางอย่างที่ต้องไปจัดการน่ะ”

“เสี่ยวเย่วก็ไปด้วยรึ?” เฉินจูชิงพูดจบ ก็หันไปมองเสี่ยวเย่วด้วยสายตาทึ่มทื่อ มีท่าทางอาลัยอาวรณ์ยากจะตัดใจ

ลู่ม่านรีบหาโอกาสออกไปข้างนอก ปล่อยให้พวกเขาสองคนได้มีโอกาสร่ำลากัน

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เหอเย่วก็ออกมา แก้มทั้งสองข้างเป็นสีแดงปลั่ง ลู่ม่านพูดหยอกเย้านางว่า "เป็นอะไรไป? จูชิงขอเจ้าแต่งงานแล้วล่ะสิ?"

คิดไม่ถึงว่าเหอเย่วจะพยักหน้ารับจริง ๆ “เขาบอกว่า รอให้ข้ากลับมาครั้งนี้ พวกเราก็จะแต่งงานกันแล้วเจ้าค่ะ”

นี่ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากจริง ๆ ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในที่สุดเจ้าก็สมปรารถนาสักที ถ้าอย่างนั้นพวกเราต้องรีบไปรีบกลับกันหน่อยแล้วล่ะ”

“พี่เสี่ยวม่าน!” เหอเย่วพูดอย่างเขินอาย

อันที่จริงตอนนี้หัวใจของลู่ม่านไม่ได้รู้สึกเป็นสุขอะไรขนาดนั้น เหมือนว่าเฉินจื่ออานจะประสบปัญหาใหญ่ในอาชีพของเขา ในเวลาเช่นนี้ นางสมควรไปอยู่เคียงข้างเขา ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคในเวลาที่ยากลำบากไปพร้อม ๆ กับเขาต่างหากถึงจะถูกต้อง

แต่แล้วในช่วงเวลาแบบนี้ นางก็ดันมีเรื่องอื่นที่สำคัญไม่แพ้กันต้องไปทำ

เมื่อเหอเย่วเห็นว่าลู่ม่านดูหมองหม่นไม่สดชื่น ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “พี่ลู่ พี่ต้องเชื่อใจในตัวพี่จื่ออานสิเจ้าคะ ไม่แน่ว่าบางทีรอจนพวกเรากลับมา พี่จื่ออานอาจจะจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยไปหมดแล้วก็ได้”

ลู่ม่านลองคิด ๆ ดูก็รู้สึกเห็นด้วย เฉินจื่ออานที่ไม่มีนางอยู่ข้าง ๆ อาจสามารถรับผิดชอบเรื่องราวเหล่านี้ได้มากกว่าเดิมก็เป็นไปได้นะ?

หลังจากเก็บเรื่องราวในใจทั้งหลายกลับไปแล้ว ลู่ม่านกับเหอเย่วก็มุ่งตรงไปยังเมืองหลวงด้วยกัน

พวกลู่ม่านเป็นผู้หญิงสองคน ดังนั้นจึงเดินทางกันช้ามาก โดยปกติแล้วพอท้องฟ้าใกล้มืด พวกนางจะเริ่มมองหาศาลาพักม้าทันที จะเดินทางต่อเฉพาะช่วงกลางวันเท่านั้น

หลังจากเดินทางในลักษณะนี้มาสามวัน ค่อยเพิ่งมาถึงเขตชายขอบของเมืองหย่งอาน

หัวใจที่ตึงเครียดมาตลอดเส้นทางของเหอเยว่ ค่อยรู้สึกผ่อนคลายลงมาได้ “เดินทางต่ออีกแค่วันเดียว พวกเราก็จะถึงเมืองหย่งอานกันแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้มาเมืองหย่งอานเลยเจ้าค่ะ!”

เด็กสาวตัวน้อยที่ยังไม่เคยรู้จักโลกที่เจริญรุ่งเรือง ย่อมมีความรู้สึกว่าถูกดึงดูดเข้าไปโดยง่าย

ลู่ม่านหัวเราะพลางพูดหยอกเย้าว่า “เมืองหย่งอานแห่งนี้ไม่เพียงแต่เจริญรุ่งเรืองเท่านั้นนะ แต่ของใช้ในงานแต่งของที่นี่ก็งดงามมากด้วย ไม่สู้ให้ข้าสั่งทำชุดแต่งงานให้เจ้าที่นี่สักชุดดีหรือไม่? พอเจ้ากลับไปก็แต่งงานได้พอดี!”

“พี่เสี่ยวม่าน ถ้ายังพูดอีกข้าจะไม่สนใจพี่แล้วนะ!” เหอเย่วพูดอย่างเขินอาย

หาได้ยากที่อารมณ์ของลู่ม่านจะดีขึ้นแบบนี้ มีหรือจะยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ “ถ้าอย่างนั้นแปลว่าเจ้าไม่อยากได้ข้าวของสินสอดในงานแต่งรึ? ไม่เอาสินสอดไม่น่าจะดีหรอกนะ ถ้าเกิดเฉินจูชิงไม่เห็นคุณค่าของเจ้าขึ้นมา แบบนั้นข้าเองก็ไม่ยอมหรอกนะ!”

เหอเย่วบังคับรถให้หยุดลง ก่อนจะยกมือขึ้นกุมสองแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเองแล้วพูดว่า “ไม่คุยกับพี่แล้ว ข้าเห็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ตรงนั้น ข้าจะไปตักน้ำมาเสียหน่อย”

พูดจบ นางก็คว้าเหยือกใส่น้ำแล้ววิ่งออกไปทันที

ลู่ม่านส่ายหน้าอย่างจนใจ แม่สาวน้อยยุคโบราณคนนี้จะขี้อายเกินไปแล้วนะ อันที่จริงพวกนางจำเป็นต้องไปตักน้ำเสียที่ไหนล่ะ? ในรถของพวกเขายังมีน้ำอยู่อีกตั้งเยอะแยะ

พอพูดถึงน้ำ ลู่ม่านก็รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาบ้างนิดหน่อยแล้ว

ลู่ม่านหยิบน้ำในรถออกมา ดื่มเข้าไปอึกหนึ่ง

เพิ่งจะกลืนลงไป ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลังรถม้า ลู่ม่านคิดว่าคงเป็นเหอเย่วกลับมาแล้ว ชั่วขณะที่กำลังจะพูด พลันมีเสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง จากนั้นก็สัมผัสได้ว่ามีของที่เหมือนมีดดาบมาจ่อเข้าที่แผ่นหลังของนาง

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นพวกอาชญากรที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลู่ม่านรู้สึกเย็นสันหลังวาบ

คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ ลูกพี่คนนั้นจะพูดขึ้นมาว่า “เอ้อโก่วจือ แกไม่เห็นรึ? ว่าบนรถคันนี้มีผู้หญิงคนนี้แค่คนเดียวน่ะ!”

เอ้อโก่วจือพยักหน้าทันที "ลูกพี่ เป็นลูกพี่ที่ฉลาด .... "

พูดยังไม่ทันสิ้นเสียง จู่ ๆ ที่ด้านหลังก็มีเงาดำสายหนึ่งพุ่งเข้ามา กระแทกใส่มีดดาบเล่มนั้นจนสะบัดออกไปตรง ๆ “พี่เสี่ยวม่าน รีบหนีไป!”

หัวใจของลู่ม่านผวาเฮือก เหอเย่วกลับมาแล้ว

แม้ว่าเหอเย่วจะพอเป็นวรยุทธ์แบบแมวสามขาอยู่บ้าง * ( เป็นคำอุปมา เปรียบกับคนที่ฝีมือไม่ดีหรือไม่ชำนาญ เปรียบเหมือนกับแมวที่มีแค่ 3 ขา พอถึงเวลาจริง ๆ ก็ไม่สามารถจับหนูได้) แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับโจรมากมายขนาดนี้ ต่อให้ใจสู้แค่ไหนก็ไร้กำลัง ลู่ม่านเพิ่งจะวิ่งไปได้แค่ไม่กี่ก้าว เหอเย่วก็ถูกจับตัวได้เสียแล้ว

ไวเท่าความคิด ลู่ม่านหันหน้าพุ่งกลับไป ตรงดิ่งไปข้างหลังของลูกพี่กลุ่มโจรที่ตอนนี้ยังคงยืนชมเรื่องสนุกอยู่ ชักมีดดาบที่เหน็บอยู่ข้างหลังลูกพี่นั่นออกมา จ่อเข้าที่ลำคอของลูกพี่หัวหน้ากองโจร “พวกเจ้าปล่อยเสี่ยวเย่วเดี๋ยวนี้!”

“ลูกพี่!” คนที่ชื่อว่าเอ้อโก่วจือร้องตะโกนเสียงดังลั่น

คนอื่นที่เหลือต่างก็มองลู่ม่านอย่างเคร่งเครียด “นังผู้หญิงบ้า ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องลูกพี่ของพวกเราล่ะก็ พวกเราจะฆ่าเจ้าให้ตายเลยคอยดู!”

ลู่ม่านในเวลานี้ ไม่มีเวลาสนใจแล้วว่าใครจะฆ่าหรือไม่ฆ่านางให้ตาย เหอเย่วต้องการจะช่วยชีวิตนาง แน่นอนว่านางจะต้องพาเหอเย่วไปด้วยกันให้ได้

นางยื่นมีดไปข้างหน้าอีกระดับ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าปล่อยเสี่ยวเย่ว ข้าถึงจะปล่อยลูกพี่ของพวกเจ้า พวกข้าวของกับเงินทองที่พวกเจ้าเอาไปเมื่อครู่ ข้าล้วนไม่เอาคืนก็ได้! ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าจะใช้ดาบเดียวปลิดชีวิตลูกพี่ของพวกเจ้าเดี๋ยวนี้เลย!”

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า กลับมีท่าทีไม่ตื่นตระหนกแม้ตกอยู่ในอันตรายแม้แต่น้อย พูดด้วยเสียงต่ำ ๆ ว่า "ข้ากลับอยากรู้เสียแล้วสิ ว่าเจ้าจะปลิดชีวิตข้าอย่างไร!"

“พูดจาเหลวไหลให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ!” ลู่ม่านกัดฟันพลางยื่นมีดดาบไปข้างหน้าอีกหนึ่งนิ้ว

“ได้!” เอ้อโก่วจือรีบพูดอย่างร้อนรน “เจ้าอย่าขยับมืออีก ระวังจะทำลูกพี่ของพวกเราบาดเจ็บ!” พูดจบ เขาก็ผลักเหอเย่วไปข้างหน้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน