ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 309

สรุปบท บทที่ 309 ดื่มชานม: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปตอน บทที่ 309 ดื่มชานม – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

ตอน บทที่ 309 ดื่มชานม ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ทุกครั้งที่มา หลี่หว่านถิงไม่เคยมามือเปล่า และครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น

เพิ่งจะลงจากรถ ของขวัญก็เข้าประตูมาเรียบร้อยแล้ว

เป็นฉากกันลมแบบปักสองด้าน ลู่ม่านทั้งผลักทั้งดันก็ไม่ขยับ ทำได้แค่ต้องพูดเย้าไปว่า “ครั้งก่อนที่คุณชายจวงให้ของขวัญขึ้นบ้านใหม่พวกเรา ก็ให้ฉากกันลมแบบปักสองด้านเหมือนกันพวกเจ้าสองปรึกษากันมาแล้วสินะ?”

ดวงตาของหลี่หว่านถิงเป็นประกายขึ้นมาทันที "พี่อาจ้งให้ของขวัญเหมือนกันกับที่ข้าให้จริง ๆ น่ะหรือ?"

ลู่ม่านเลิกคิ้วขึ้น “หรือว่าพวกเจ้าไม่ได้ปรึกษากัน?”

“ปรึกษากันอะไรล่ะ!” หลี่หว่านถิงพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ตั้งแต่กลับมาจากหมู่บ้านไป่ฮัว ข้าก็ไม่เคยได้เจอเขาเลยสักครั้ง ทุกครั้งก็เอาแต่พูดว่ายุ่งมากตลอดเลย!”

ชิ! คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าจวงลี่จ้งจะไร้หัวจิตหัวใจแบบนี้

เถียนหวังซื่อยกชามารับแขก พอลู่ม่านเห็นว่าเป็นชาเขียว จากนั้นก็เห็นสีหน้าขมปี๋ของหลี่หว่านถิง ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “พอดีว่าไม่มีธุระอะไรต้องทำ ไม่สู้ข้าทำชานมให้เจ้าดื่มดีหรือไม่?”

หลี่หว่านถิงได้ยินดวงตาพลันเป็นประกายวาบ "ข้าก็ว่าแล้วเชียว ว่าเมื่อครั้งก่อนที่มาบ้านพี่ ตอนก่อนจะกลับ ข้าก็รู้สึกอยู่ตลอดเลยว่าเหมือนมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ยังไม่ได้ทำ ที่แท้ก็เพราะพี่ยังไม่ได้ทำชานมให้ข้าดื่มนี่เอง!"

ลู่ม่าน "...." ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้เอง อันที่จริงนางก็ลืมไปแล้วล่ะ

“ถ้าอย่างนั้นก็ทำเถอะ วันนี้ข้าจะทำเยอะหน่อย ให้พวกเจ้าทุกคนได้ดื่มด้วยเลย” ลู่ม่านพูดจบ ก็ลุกขึ้นเดินตรงไปที่ห้องครัว

เถียนหวังซื่อรีบตามไปช่วย ลู่ม่านจึงให้นางออกไปซื้อนมกลับมาสักหน่อย อันที่จริงการทำชานมนั้นง่ายมาก แค่ต้มสักหน่อยก็จะได้รสชาติที่ไม่ต่างกับที่เคยดื่มข้างนอกมากนัก

ไม่นานเถียนหวังซื่อก็กลับมา ลู่ม่านเทนมใส่ในหม้อแล้วต้มให้เดือด จากนั้นค่อยเติมน้ำตาลทรายขาวกับชาเขียวลงไปต้มด้วยกัน

ต้มจนรสชาติของชาเขียวออกมาทั้งหมด ก็ถือว่าเสร็จแล้ว

จากนั้นก็นำชุดน้ำชาที่ลู่ม่านซื้อมาก่อนหน้านี้ออกมา แล้วใส่ชานมลงไป ลู่ม่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เอานมส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้ต้ม มาเพิ่มลูกเล่นด้วยการวาดเป็นลายรูปหัวใจบนชานม

ตอนที่หลี่หว่านถิงได้เห็น ดวงตาก็เป็นประกายสว่างวาบ “หอมเหลือเกิน!” หลี่หว่านถิงพูดจบ ก็หยิบช้อนขึ้นมาคนให้เข้ากัน แล้วยกขึ้นจิบไปคำหนึ่ง

“อร่อย! พี่ลู่ พี่รีบบอกข้ามาเร็วเข้าว่าเจ้านี่มันทำอย่างไร? ข้าจะกลับไปทำให้แม่ดื่ม!”

แม้ว่าลู่ม่านจะไม่ได้มีความประทับใจที่ดีต่อพระชายาเฒ่าหนิง แต่นี่ก็ถือเป็นความตั้งใจดีของหลี่หว่านถิง ลู่ม่านจึงบอกวิธีทำให้

หลี่หว่านถิงรีบสั่งสาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ จดวิธีทำลงไปทันที จากนั้นค่อยก้มหน้าก้มตาดื่มชา

จากนั้นก็หันไปกระซิบกับเถียนหวังซื่อว่า “ยังมีเหลืออยู่ในครัว อีกเดี๋ยวเอาไปให้เสี่ยวหู่ดื่มสักหน่อยสิ!”

เถียนหวังซื่ออยากจะพูดว่าไม่ต้องก็ได้ แต่คิดขึ้นมาได้ว่าปกติแล้วลูกชายของตนชอบกินของหวานที่สุด ชานมที่ต้มออกมาจากชาเมื่อครู่นั้นเขาน่าจะชอบแน่ สุดท้ายจึงอดใจไว้แล้วพยักหน้ารับ “เช่นนั้นต้องขอบคุณฮูหยินแล้วเจ้าค่ะ”

ระหว่างที่พูด ที่นอกบ้านก็มีคนมาเยือน

เถียนหวังซื่อรีบไปเปิดประตู คราวนี้คนที่มาคือจวงลี่จ้ง เขาก็นำของขวัญมาด้วยเช่นกัน เด็กรับใช้ที่อยู่ข้างหลังนำเครื่องเทศชั้นดีมาให้

หลี่หว่านถิงกำลังดื่มชาอยู่ที่ห้องโถงด้านหลัง ดังนั้นจวงลี่จ้งจึงไม่ทันสังเกตเห็น เข้าประตูมาได้ก็พูดว่า “ข้าได้ยินเด็กรับใช้พูดว่า เมื่อสองสามวันก่อนแม่นางลู่สอนพวกเขาอย่างเหน็ดเหนื่อย พอดีว่าเครื่องเทศของปีนี้ออกสู่ตลาดแล้ว ของเหล่านี้ล้วนช่วยทำให้จิตใจสงบคลายความเหนื่อยล้า เลยเอามาให้เจ้าลองใช้ดู"

ลู่ม่านส่ายหน้า กำลังคิดจะบอกว่าไม่ต้องหรอก หลี่หว่านถิงก็เดินออกมาจากด้านหลังแล้วเรียบร้อย "พี่อาจ้ง เมื่อเช้าพี่ไม่ได้บอกว่าวันนี้ยุ่งมากหรอกรึ?"

นี่.……

จู่ ๆ ลู่ม่านก็เกิดความรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เรื่องของพวกเขาสองคน ทำไมดูเหมือนว่าตัวเองได้เข้าไปพัวพันด้วยอีกแล้วล่ะเนี่ย?

ในทางกลับกัน จวงลี่จ้งก็พูดด้วยท่าทางไม่ยี่หระว่า "พอดีว่าทำธุระเสร็จแล้วน่ะ...."

รูปแบบก็ดีมาก ลู่ม่านแค่เดินดูรอบเดียว ก็พอจะมีแบบแปลนเบื้องต้นในใจแล้ว

พอดีว่าที่ด้านหลังของนางมีห้องหนังสือเล็ก ๆ อยู่ห้องหนึ่ง ลู่ม่านจึงเดินตรงเข้าไปวาดภาพในนั้น หลี่หว่านถิงยืนมองอยู่ข้าง ๆ “พี่ลู่ พี่ช่างร้ายกาจเหลือเกิน นี่ถ้าหากว่าพี่อยู่ในเมืองหลวงล่ะก็ จะต้องโด่งดังมีชื่อเสียงในระดับเดียวกับแม่นางเซวียนเหนียงแน่ ๆ เลย”

ลู่ม่านถ่อมตัว "ข้ามีหรือจะกล้า เมืองหลวงมีหญิงสาวผู้มากความสามารถอยู่มากมาย ข้าไม่กล้าเอาตัวเองมาเปรียบเทียบหรอก"

"อะไรกันล่ะ! นั่นมันก็แค่ข่าวลือที่คนอื่นกุขึ้นมาทั้งนั้นนั่นล่ะ จะมีคนมากความสามารถจริง ๆ สักกี่คนกัน?"

หลี่หว่านถิงพ่นลมออกจมูกในทำนองเย้ยหยันต่อเรื่องพวกนั้น ขณะที่กำลังพูด ภาพวาดแบบร่างของลู่ม่านก็วาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลี่หว่านถิงชี้ไปที่ภาพวาด ก่อนจะถามนั่นถามนี่ด้วยความสงสัยไม่หยุด

ลู่ม่านวาดภาพโดยยึดตามความเคยชินสมัยที่อยู่ในยุคปัจจุบัน ดังนั้นจึงต้องอธิบายข้อมูลคร่าว ๆ ให้หลี่หว่านถิงฟัง หลี่หว่านถิงพูดว่า "จะเหมือนกับที่ตำบลชางผิง ที่มีกระจกทองแดงขนาดใหญ่สินะ!"

“แน่นอนอยู่แล้ว!” ลู่ม่านหัวเราะพลางพูดว่า “เจ้ามีช่างมาด้วยหรือไม่? ข้าจะขอคุยกับเขาหน่อย”

หลี่หว่านถิงได้เตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยนานแล้ว เมื่อได้ยินลู่ม่านบอกว่าต้องการพบช่าง ก็หันหลังกลับไปถามสาวใช้ที่อยู่ข้างหลังทันที “ช่างล่ะ?”

เสี่ยวหมิ่นรีบพาชายร่างอ้วนคนหนึ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว หลังจากชายร่างอ้วนฟังคำพูดของลู่ม่านไปรอบหนึ่ง ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทันที “ฮูหยินท่านนี้ การตกแต่งลักษณะนี้ ข้ายังไม่เคยทำมาก่อนเลยนะขอรับ!”

“ไม่เคยทำมาก่อนก็ถูกต้องแล้วล่ะ!” หลี่หว่านถิงหัวเราะแล้วพูดว่า “ความคิดอันลึกล้ำของพี่ลู่มีหรือที่พวกเจ้าจะเข้าใจ? ยึดตามคำพูดของพี่ลู่ทำไปตามนั้นเลย!”

ช่างคนนั้นไม่กล้าพูดอะไร จึงรีบไปเตรียมตัวทำงานทันที

หลังจากเตรียมการทุกเรื่องเรียบร้อยดีแล้ว หลี่หว่านถิงก็ยังรู้สึกไม่วางใจ “พี่ลู่ พี่คงไม่ใช่ว่าจะกลับไปเดี๋ยวนี้แล้วหรอกนะ? ถ้าเกิดว่าที่นี่มีอะไรที่ไม่เข้าใจ พวกเราจะทำอย่างไรกันล่ะ?”

อันที่จริงในใจของลู่ม่านก็รู้สึกร้อนรนมาก มาที่นี่ได้เกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว ไม่รู้ว่าเฉินจื่ออานที่อยู่ทางบ้านโน้นจะเป็นยังไงบ้าง?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน