บทที่ 31 ได้รับบาดเจ็บ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 31 ได้รับบาดเจ็บ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“เมียจื่ออาน ข้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน เพราะเหตุนี้ ข้าจึงกลับมาหาผู้ใหญ่บ้าน”พูดจบแล้ว หวังเอ้อร์หนิวก็หมุนตัววิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน
เฉินหลี่ซื่อลุกยืนไม่ได้แล้ว ร่างกายนางเหมือนของเหลวที่อ่อนปวกเปียกจนแทบจะไหลลงไปกองอยู่ตรงนั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะเฉินหลิ่วเอ๋อที่ประคองอย่างสุดแรง นางคงนั่งลงไปบนดินโคลนแล้ว
เห็นหวังเอ้อร์หนิววิ่งไปแล้ว นางเดินโซเซไปตรงหน้าตาแก่เฉิน มือไม้สั่นถามด้วยเสียงสะอื้นไห้ว่า “ตาแก่ จื่อคังจะเป็นอย่างไรบ้าง”
ลู่ม่านใบหน้าขรึมลง นางมองเฉินหลี่ซื่อด้วยสายตาเย็นชา
พอดีกับที่ตาแก่เฉินจับแววตานี้ได้ จึงตะคอกออกมาทันที“ต้องช่วยทั้งจื่ออานและจื่อคังขึ้นมาให้ได้ ประเดี๋ยวข้าจะตามไปด้วย ”
“ไม่ต้อง ท่านพ่อ ข้าตามไปก็พอ”ลู่ม่านพูดขึ้นมาทันที
นางเกรงว่าถ้าตาแก่เฉินไป หากเกิดเรื่องขึ้นคงต้องช่วยเฉินจื่อคังไว้ก่อนแน่ ถึงตอนนั้น แม้ว่าเฉินจื่ออานที่ยังพอมีทางช่วย ก็คงต้องรอต่อไป
“ข้าไปดีกว่า”ตาแก่เฉินยังคงยืนยัน ลู่ม่านเดาว่าความคิดของเขาน่าจะเหมือนกับของตนเอง เพราะว่า เฉินจื่อคังเป็นลูกรักของเขา
แต่นางลู่ม่านไม่ใช่คนอย่างพวกตาแก่เฉินที่ลำเอียงจนหาความยุติธรรมไม่เจอ
ขณะกำลังใช้ความคิด หวังเอ้อร์หนิวก็ได้พาคนกลุ่มหนึ่งกลับมาแล้ว
ลู่ม่านรีบเดินเข้าไปพูดว่า “พี่หวัง ข้าจะไปกับพวกท่าน ”
เพราะว่าช่วงเช้าลู่ม่านไปตลาด เกรงว่าจะเดินไม่สะดวก เพราะฉะนั้นวันนี้จึงสวมเสื้อผ้าที่ดูสบายๆ ช่วงบนเป็นเสื้อที่ผูกเอว ช่วงล่างเป็นกางเกง เมื่อเคลื่อนไหว ค่อนข้างสะดวก
หวังเอ้อร์หนิวจึงพยักหน้า กำลังจะพูดจา ทันใดนั้นเฉินหลี่ซื่อก็พูดด้วยเสียงแหลมว่า “เป็นหญิงอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน จะออกไปวิ่งพล่านทำไม อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”
ลู่ม่านแทบจะถูกความคิดประหลาดของเฉินหลี่ซื่อทำเอาโมโหแทบตาย ยุคก่อนราชวงศ์ถังไม่ได้เข้มงวดกับการผูกมัดของหญิงสาวขนาดนั้น มีการเปิดกว้างเหมือนกับในยุคประวัติศาสตร์ราชวงศ์ถัง หญิงสาวก็เป็นขุนนางได้
ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าก็มีหญิงสาวที่ร่างกายกำยำอยู่หลายคน สามีของพวกนาง ก็กำลังค้นหาคนอยู่ในป่า ฉะนั้นพวกนางจึงตามไปด้วย
ความคิดที่แสนจะไร้เหตุผลของเฉินหลี่ซื่อ ทุกคนต่างก็รับรู้ ต่างก็เผยสีหน้าดูถูกออกมา
ตาแก่เฉินทำหน้าไม่ถูก ตะคอกออกไปว่า “อย่าไปฟังยายเฒ่าพูดเหลวไหล แต่ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ทางบนเขาอาจไม่สะดวก……”
“พอแล้ว”หวังเอ้อร์หนิวมองแผ่นหลังที่โค้งงอของตาแก่เฉิน ก็ส่ายหน้า “ตาแก่เฉิน ท่านแก่แล้วอยู่รอที่บ้านเถอะ ข้าว่าให้เมียจื่ออานไปดีที่สุดแล้ว”
พูดจบแล้ว ไม่รอให้พวกเขาตอบรับ ลู่ม่านก็เดินตามไป วิ่งไปทางประตูหมู่บ้าน
เพิ่งจะออกจากหมู่บ้าน ฝนก็ตกหนักขึ้น เช่นนี้ ยิ่งเป็นการเพิ่มความยากของกลุ่มคนที่จะไปช่วยเหลือ หัวใจของลู่ม่านก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น
หญิงสาวร่างกายกำยำที่เดินอยู่ข้างหน้าลู่ม่านเห็นดังนั้น ก็หันกลับไปพูดว่า “เมียจื่ออาน อย่ากังวล ไม่เป็นไรแน่”
หญิงสาวสีหน้าแดงรื้น โครงร่างใหญ่ ท่าทีแข็งแกร่งมาก ทำให้ลู่ม่านเกิดความรู้สึกดีขึ้นมาทันที
ลู่ม่านจำได้แล้วว่าหญิงคนนี้ก็คือเมียของหวังเอ้อร์หนิว เหยาซื่อ เหยาเซิ่งหนาน
“ขอบคุณพี่เหยา ”ลู่ม่านทำใจให้สบาย เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
ไม่ช้า พวกเขาก็เดินทางไปถึงจุดที่เฉินจื่ออานกับเฉินจื่อคังตงลงไป ข้างบนยังมีคนสองคนยืนรอพวกเขาอยู่ตรงนั้น
ส่วนคนที่เหลือ ได้ลงไปด้านล่างของภูเขาจากเนินด้านข้างแล้ว
เป็นเพราะในป่าถูกใบไม้ของต้นไม้บดบังเอาไว้ ฝนจึงเบาบางลงบ้าง พวกเขาจุดคบเพลิงขึ้นมา แบ่งกันไป
เหยาซื่อเห็นว่าลู่ม่านจะวิ่งลงไป ก็รีบดึงนางเอาไว้ “เมียจื่ออาน ข้ารู้ว่าเจ้าร้อนใจ แต่ว่า ยิ่งเป็นเวลาเช่นนี้ เจ้ายิ่งไม่สามารถเคลื่อนไหวเองคนเดียว ถ้าหาก พวกเราหาจื่ออานเจอแล้ว แต่หาเจ้าไม่เจอจะทำอย่างไร ”
ลู่ม่านรู้ตัวว่าใจร้อนเกินไป ก็รีบพูดขอบคุณ เหยาซื่อค่อยๆพานางเดินลงไปยังด้านล่างของภูเขา
หัวใจของลู่ม่านขมวดแน่นอีกครั้ง รีบพูดปลอบว่า“เจ้าดูแลพี่ชายเจ้าให้ดี ข้าจะรีบไปตามคนมาช่วย ”
เสียงของเหยาซื่อดังมาก ไม่ช้าพวกผู้ชายเหล่านั้นที่ได้ยินเสียงก็กลับมา ทุกคนหย่อนเชือกลงและดึงพวกเขาสองคนขึ้นมาตามลำดับ
เมื่อเชือกมาถึงพื้น ลู่ม่านก็เห็นว่าร่างของเฉินจื่ออานมีเลือดเปรอะเต็มไปหมด หัวใจนางหนักอึ้งทันที เหมือนตกลงไปในหลุมน้ำแข็งเย็นเยือก
ไม่ทันให้คิดมาก รีบหาเปลไม้ ยกเฉินจื่ออานกลับไป
ตลอดทาง สายตาของลู่ม่านไม่เคยห่างจากร่างของเฉินจื่ออานเลย ในใจของนาง เป็นครั้งแรกที่เกิดความรู้สึกตื่นตระหนก
พบว่าตอนที่ตัวเองทะลุมิติเวลามา นางก็ไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกอย่างนี้มาก่อน เฉินจื่ออานเป็นคนในโลกนี้ เป็นญาติคนเดียวของนาง……
ไม่ได้กลับบ้าน พวกลู่ม่านตรงไปยังเมืองทันที
เวลานี้ เป็นช่วงกลางดึกแล้ว
เหยาซื่อมีความกังวลเล็กน้อย “ดึกขนาดนี้แล้ว ยังมีร้านยาร้านไหนที่ยังเปิดอยู่บ้าง”
“ร้านยาฉืออาน”ลู่ม่านพูดคำนั้นออกมา โดยที่แทบจะไม่ลังเลเลย
หวังเอ้อร์หนิวไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ร้านยาฉืออานเป็นร้านยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ คนในหมู่บ้านนี้ มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยไปหาหมอที่นั่น จะทำการรักษากลางดึกได้หรือ
แต่ความคิดก็ส่วนความคิด ในเมื่อลู่ม่านบอกแล้ว อย่างไรเสียทุกคนก็ต้องพาเฉินจื่ออานกับเฉินจื่อคังไปที่นั่น
ลู่ม่านเดินนำหน้าไปเคาะเรียกที่ประตู ผู้ช่วยหมอที่อยู่ข้างในเป็นคนเปิดประตูพอเห็นว่าเป็นลู่ม่าน ก็นิ่งอึ้งทันที “แม่นาง ทำไมจึงเป็นท่าน”
“สามีข้าได้รับบาดเจ็บ ขอถามหน่อยว่าเวลานี้ มีท่านหมอที่สามารถทำการตรวจรักษาหรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...