ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 31

“เมียจื่ออาน ข้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน เพราะเหตุนี้ ข้าจึงกลับมาหาผู้ใหญ่บ้าน”พูดจบแล้ว หวังเอ้อร์หนิวก็หมุนตัววิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน

เฉินหลี่ซื่อลุกยืนไม่ได้แล้ว ร่างกายนางเหมือนของเหลวที่อ่อนปวกเปียกจนแทบจะไหลลงไปกองอยู่ตรงนั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะเฉินหลิ่วเอ๋อที่ประคองอย่างสุดแรง นางคงนั่งลงไปบนดินโคลนแล้ว

เห็นหวังเอ้อร์หนิววิ่งไปแล้ว นางเดินโซเซไปตรงหน้าตาแก่เฉิน มือไม้สั่นถามด้วยเสียงสะอื้นไห้ว่า “ตาแก่ จื่อคังจะเป็นอย่างไรบ้าง”

ลู่ม่านใบหน้าขรึมลง นางมองเฉินหลี่ซื่อด้วยสายตาเย็นชา

พอดีกับที่ตาแก่เฉินจับแววตานี้ได้ จึงตะคอกออกมาทันที“ต้องช่วยทั้งจื่ออานและจื่อคังขึ้นมาให้ได้ ประเดี๋ยวข้าจะตามไปด้วย ”

“ไม่ต้อง ท่านพ่อ ข้าตามไปก็พอ”ลู่ม่านพูดขึ้นมาทันที

นางเกรงว่าถ้าตาแก่เฉินไป หากเกิดเรื่องขึ้นคงต้องช่วยเฉินจื่อคังไว้ก่อนแน่ ถึงตอนนั้น แม้ว่าเฉินจื่ออานที่ยังพอมีทางช่วย ก็คงต้องรอต่อไป

“ข้าไปดีกว่า”ตาแก่เฉินยังคงยืนยัน ลู่ม่านเดาว่าความคิดของเขาน่าจะเหมือนกับของตนเอง เพราะว่า เฉินจื่อคังเป็นลูกรักของเขา

แต่นางลู่ม่านไม่ใช่คนอย่างพวกตาแก่เฉินที่ลำเอียงจนหาความยุติธรรมไม่เจอ

ขณะกำลังใช้ความคิด หวังเอ้อร์หนิวก็ได้พาคนกลุ่มหนึ่งกลับมาแล้ว

ลู่ม่านรีบเดินเข้าไปพูดว่า “พี่หวัง ข้าจะไปกับพวกท่าน ”

เพราะว่าช่วงเช้าลู่ม่านไปตลาด เกรงว่าจะเดินไม่สะดวก เพราะฉะนั้นวันนี้จึงสวมเสื้อผ้าที่ดูสบายๆ ช่วงบนเป็นเสื้อที่ผูกเอว ช่วงล่างเป็นกางเกง เมื่อเคลื่อนไหว ค่อนข้างสะดวก

หวังเอ้อร์หนิวจึงพยักหน้า กำลังจะพูดจา ทันใดนั้นเฉินหลี่ซื่อก็พูดด้วยเสียงแหลมว่า “เป็นหญิงอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน จะออกไปวิ่งพล่านทำไม อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”

ลู่ม่านแทบจะถูกความคิดประหลาดของเฉินหลี่ซื่อทำเอาโมโหแทบตาย ยุคก่อนราชวงศ์ถังไม่ได้เข้มงวดกับการผูกมัดของหญิงสาวขนาดนั้น มีการเปิดกว้างเหมือนกับในยุคประวัติศาสตร์ราชวงศ์ถัง หญิงสาวก็เป็นขุนนางได้

ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าก็มีหญิงสาวที่ร่างกายกำยำอยู่หลายคน สามีของพวกนาง ก็กำลังค้นหาคนอยู่ในป่า ฉะนั้นพวกนางจึงตามไปด้วย

ความคิดที่แสนจะไร้เหตุผลของเฉินหลี่ซื่อ ทุกคนต่างก็รับรู้ ต่างก็เผยสีหน้าดูถูกออกมา

ตาแก่เฉินทำหน้าไม่ถูก ตะคอกออกไปว่า “อย่าไปฟังยายเฒ่าพูดเหลวไหล แต่ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ทางบนเขาอาจไม่สะดวก……”

“พอแล้ว”หวังเอ้อร์หนิวมองแผ่นหลังที่โค้งงอของตาแก่เฉิน ก็ส่ายหน้า “ตาแก่เฉิน ท่านแก่แล้วอยู่รอที่บ้านเถอะ ข้าว่าให้เมียจื่ออานไปดีที่สุดแล้ว”

พูดจบแล้ว ไม่รอให้พวกเขาตอบรับ ลู่ม่านก็เดินตามไป วิ่งไปทางประตูหมู่บ้าน

เพิ่งจะออกจากหมู่บ้าน ฝนก็ตกหนักขึ้น เช่นนี้ ยิ่งเป็นการเพิ่มความยากของกลุ่มคนที่จะไปช่วยเหลือ หัวใจของลู่ม่านก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น

หญิงสาวร่างกายกำยำที่เดินอยู่ข้างหน้าลู่ม่านเห็นดังนั้น ก็หันกลับไปพูดว่า “เมียจื่ออาน อย่ากังวล ไม่เป็นไรแน่”

หญิงสาวสีหน้าแดงรื้น โครงร่างใหญ่ ท่าทีแข็งแกร่งมาก ทำให้ลู่ม่านเกิดความรู้สึกดีขึ้นมาทันที

ลู่ม่านจำได้แล้วว่าหญิงคนนี้ก็คือเมียของหวังเอ้อร์หนิว เหยาซื่อ เหยาเซิ่งหนาน

“ขอบคุณพี่เหยา ”ลู่ม่านทำใจให้สบาย เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

ไม่ช้า พวกเขาก็เดินทางไปถึงจุดที่เฉินจื่ออานกับเฉินจื่อคังตงลงไป ข้างบนยังมีคนสองคนยืนรอพวกเขาอยู่ตรงนั้น

ส่วนคนที่เหลือ ได้ลงไปด้านล่างของภูเขาจากเนินด้านข้างแล้ว

เป็นเพราะในป่าถูกใบไม้ของต้นไม้บดบังเอาไว้ ฝนจึงเบาบางลงบ้าง พวกเขาจุดคบเพลิงขึ้นมา แบ่งกันไป

เหยาซื่อเห็นว่าลู่ม่านจะวิ่งลงไป ก็รีบดึงนางเอาไว้ “เมียจื่ออาน ข้ารู้ว่าเจ้าร้อนใจ แต่ว่า ยิ่งเป็นเวลาเช่นนี้ เจ้ายิ่งไม่สามารถเคลื่อนไหวเองคนเดียว ถ้าหาก พวกเราหาจื่ออานเจอแล้ว แต่หาเจ้าไม่เจอจะทำอย่างไร ”

ลู่ม่านรู้ตัวว่าใจร้อนเกินไป ก็รีบพูดขอบคุณ เหยาซื่อค่อยๆพานางเดินลงไปยังด้านล่างของภูเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน