ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 314

สรุปบท บทที่ 314 คนงามในชุดฮั่นฝู: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

อ่านสรุป บทที่ 314 คนงามในชุดฮั่นฝู จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บทที่ บทที่ 314 คนงามในชุดฮั่นฝู คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฝูเชิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ลู่ม่านคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า เรื่องครั้งนี้จะไปข้องเกี่ยวกับจวนกั๋วกงด้วย

แต่พอลองคิดอีกครั้งก็มันก็จริงอยู่ ไม่ว่าตระกูลจวงจะร้ายกาจขนาดไหน ก็ยังเป็นเพียงตระกูลพ่อค้าวาณิช จวนอ๋องหนิงย่อมไม่มีทางไว้หน้าพวกเขามากมายอะไรขนาดนั้น

มีเพียงจวนกั๋วกง ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้กึกก้องเกรียงไกรเหมือนดังแต่ก่อน แต่ชื่อเสียงเกียรติยศของพวกเขาก็ยังมีอยู่

“ได้!” มีคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระเป็นหลักการใช้ชีวิตของลู่ม่าน นางจึงตอบตกลงทันที

วันรุ่งขึ้น ลู่ม่านให้เหอเย่วเตรียมของแต่เช้าเพื่อจะนำไปจวนกั๋วกง ฮูหยินกั๋วกงเหมือนจะรู้นานแล้วว่านางจะมา จึงเรียกให้แม่นมมารอที่หน้าประตูตั้งแต่เช้า

ทันทีที่ลู่ม่านมาถึง ก็ถูกพาตัวเข้าไปเลย

ฮูหยินกั๋วกงดูมีท่าทีกระตือรือร้นต่อลู่ม่านขึ้นกว่าครั้งก่อนมาก ทันทีที่นางมาถึงก็จับมือของลู่ม่านแล้วไถ่ถามอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง

“เป็นอย่างไรบ้าง? ร่างกายเป็นอย่างไรแล้วตอนนี้?”

ลู่ม่านตอบทีละคำถาม จากนั้นก็ถามฮูหยินกั๋วกงกลับไปว่า “ดวงตาของท่านเป็นอย่างไรบ้างแล้วเจ้าคะ?”

“ไม่ใช่ว่าก็ยังเหมือนเดิมหรอกหรือ?” ฮูหยินกั๋วกงไม่ได้มีท่าทางท้อแท้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว บนใบหน้าของนางแฝงรอยยิ้มน้อย ๆ "ไม่เป็นไรหรอก แค่ปัญหาเก่าเท่านั้นเอง"

ลู่ม่านเองก็ไม่ใช่หมอ แน่นอนว่าย่อมไม่รู้วิธีรักษาดวงตาของนาง แต่ก็พอจะรู้จักอาหารบางชนิดที่กินแล้วดีต่อสายตา จึงหันไปกระซิบบอกแม่นมที่อยู่ข้าง ๆ

แม่นมรีบจดบันทึกเอาไว้ทันที เพื่อที่วันหลังจะได้เตรียมให้เจ้านายได้

หลังจากพูดเสร็จ ฮูหยินกั๋วกงก็ดึงตัวลู่ม่านไปทันที ลูบคลำสัมผัสมือของลู่ม่านอย่างละเอียด ราวกับว่าลู่ม่านไม่ได้เป็นเพียงแค่แขกเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนญาติที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน ลู่ม่านถูกนางลูบคลำสัมผัสจนรู้สึกประดักประเดิดไปหมดแล้ว จึงพูดว่า

“ฮูหยิน พรุ่งนี้ข้าก็จะกลับไปแล้ว เดิมทีครั้งนี้ตอนเดินทางมาที่นี่ ข้านำผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่นมาด้วย แต่เพราะเกิดเรื่องระหว่างทางนิดหน่อย มันเลยหายไปหมดเลยเจ้าค่ะ”

เห็นได้ชัดว่าฮูหยินกั๋วกงรู้เรื่องนี้แล้ว จึงอดพูดด้วยความไม่พอใจไม่ได้ว่า “ คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าใต้เบื้องบาทองค์ราชาจะมีโจรชั่วช้าหยิ่งผยองเช่นนี้อยู่ด้วย หลังจากที่อาจ้งกลับมาเล่าให้ฟัง สามีของข้าก็รีบไปทูลรายงานเรื่องนี้แล้ว เชื่อว่าพวกโจรเหล่านั้นจะต้องถูกจับได้ในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน”

ลู่ม่านคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจวนกั๋วกงจะถึงกับใส่ใจเรื่องนี้อย่างจริงจังขนาดนี้ จึงรู้สึกปลื้มปิติในความเมตตาครั้งนี้ขึ้นมาทันที “ขอบคุณเจ้าค่ะฮูหยินกั๋วกง!”

"เรื่องเล็กน้อยทั้งนั้น"

หลังจากที่ฮูหยินกั๋วกงพูดจบ นางก็เรียกสาวใช้ที่อยู่ข้างหลัง "เตรียมอาหารขึ้นโต๊ะเถอะ!"

พูดจบ พวกสาวใช้ก็เดินออกไป

อาหารวันนี้อุดมสมบูรณ์มาก ทั้งหมดเป็นอาหารเลิศรสทั้งจากภูเขาและท้องทะเล พูดตามตรง มีชีวิตมาสองชาติแล้วลู่ม่านยังไม่เคยเห็นอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อนเลย ฮูหยินกั๋วกงเป็นคนที่ตามอารมณ์ตัวเองดีมาก คอยสั่งให้แม่นมที่อยู่ข้าง ๆ คีบอาหารให้ลู่ม่านไม่หยุด

อาหารวันนี้อุดมสมบูรณ์มาก ทั้งหมดเป็นอาหารเลิศรสทั้งจากภูเขาและท้องทะเล พูดตามตรง มีชีวิตมาถึงสองชาติ แล้วลู่ม่านยังไม่เคยเห็นอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อนเลย ฮูหยินกั๋วกงเป็นคนที่สบาย ๆ ดีมาก คอยสั่งให้แม่นมที่อยู่ข้าง ๆ คีบอาหารให้ลู่ม่านไม่หยุด

“กินเยอะ ๆ หน่อย คราวที่แล้วที่เจ้ามาไม่ได้เตรียมตัวให้ดีเลย”

ลู่ม่านพยักหน้าขอบคุณ "ฮูหยินเกรงใจเกินไปแล้วเจ้าค่ะ อาหารทุกอย่างอร่อยมาก"

จู่ ๆ ฮูหยินกั๋วกงกลับถอนหายใจด้วยท่าทางปลงตกขึ้นมา “จะมีก็แต่ทุกครั้งที่เจ้ามาเท่านั้น ที่ทำให้ข้ารู้สึกเหมือนได้อยู่กับในครอบครัวได้บ้าง ตั้งแต่ลูกสาวตัวน้อยหายไป สามีข้าและข้า เราสองคนก็กลายเป็นพ่อแม่ที่กำพร้าลูกมานานหลายปีแล้วล่ะ.... "

เมื่อลู่ม่านได้ยินดังนั้น ก็วางอาหารในมือลง “ฮูหยินเจ้าคะ คุณหนูคือ....”

“ตอนที่อายุได้แปดขวบ ก็ถูกบ่าวใจชั่วในจวนพาตัวออกไป จากนั้นก็ไม่เคยได้กลับมาอีกเลย” หลังจากฮูหยินกั๋วกงพูดจบ ก็ทำท่าเหมือนว่าจะหวนนึกถึงอดีตอันเจ็บปวดขึ้นมาได้ ในใจจึงรู้สึกโศกเศร้า

ลู่ม่านร้อนรนจนไม่กล้าถามต่ออีก สาวใช้ที่อยู่ข้างหลังรีบเข้ามาทำท่าจะช่วยพยุงฮูหยินกั๋วกง คิดไม่ถึงว่าไม่ทันระวัง จึงไปชนใส่จานอาหารที่อยู่ข้างหน้าลู่ม่านจนมันพลิกคว่ำลงไปโดยบังเอิญ

น้ำมัน น้ำแกงทั้งหลายที่อยู่ในจานจึงหกรดลงบนตัวของลู่ม่าน ลู่ม่านรีบลุกขึ้นยืน จานใบนั้นจึงร่วงตกลงไปบนพื้นจนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วห้อง

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” ฮูหยินกั๋วกงร้องถามอย่างสับสนงงงัน

“ไม่เป็นไร แค่ไม่ทันระวังไปชนใส่จานตกพื้นเท่านั้นเจ้าค่ะ” ลู่ม่านพูดแบบจงใจข้ามใจความสำคัญไป

“แล้วบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?” ฮูหยินกั๋วกงถามอย่างร้อนรน

แม่นมพยักหน้าแล้วเดินออกไป ไม่นานหลังจากนั้น เหอเย่วก็เดินเข้ามาจากข้างนอก เมื่อเห็นเสื้อผ้าในมือของลู่ม่าน ดวงตาของนางก็เปล่งประกายราวกับดวงดาวที่ส่องแสงวาววับอยู่บนท้องฟ้า "งามเหลือเกินเจ้าค่ะ!"

ลู่ม่าน "...."

“ไม่คิดว่ามันเปิดเผยมากไปหรอกหรือ?” ลู่ม่านถาม

เหอเย่วกลอกตามองบนใส่ลู่ม่าน “พี่เสี่ยวม่าน เสื้อผ้าแบบนี้มีแต่ลูกหลานตระกูลใหญ่โตมีอำนาจเท่านั้นถึงจะใส่ได้นะ ข้าไม่สน พี่รีบใส่มันให้ข้าดูก่อนเร็วเข้า!”

ลู่ม่านเถียงสู้นางไม่ได้ จึงทำได้แค่ต้องเปลี่ยน

“งามเหลือเกินเจ้าค่ะ!” เหอเย่วชมเปาะ “ถ้าพี่จื่ออานอยู่ที่นี่ จะต้องตกตะลึงจนตาค้างแน่ ๆ เลย”

“นี่เจ้าคิดจะล้อเลียนข้ารึ?” ลู่ม่านพูดด้วยอารมณ์ไม่สู้ดี จากนั้นก็สั่งเหอเย่วอีกว่า “เอาเสื้อผ้าของข้าไปซักหน่อย อีกเดี๋ยวข้าจะเปลี่ยนกลับไปใส่ชุดเดิม”

เหอเย่วพยักหน้า ก่อนจะรีบเอาเสื้อผ้าไปทำความสะอาด

ทันทีที่เหอเย่วออกไป แม่นมคนเมื่อครู่ก็เข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้นางไม่ได้มาคนเดียว ยังมีคนในจวนกั๋วกงมาพร้อมกับนางด้วย “แม่นางเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วหรือไม่?”

“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ!” ลู่ม่านพยักหน้า แม่นมคนนั้นก็พยักหน้า แล้วก้าวเท้าขึ้นไปข้างหน้าเพื่อช่วยจัดแขนเสื้อของลู่ม่านให้เรียบร้อย

ฮูหยินกั๋วกงก็เดินเข้ามาถามแม่นมด้วยว่า “เสี่ยวม่านใส่แล้วดูดีหรือไม่?”

“ดูดีมากเลยเจ้าค่ะ!” แม่นมพูดพลางหัวเราะ “ถ้าหากคุณหนูยังอยู่ล่ะก็ คงจะงดงามแบบนี้เหมือนกันแน่เลยเจ้าค่ะ”

ทำไมลู่ม่านฟังแล้วถึงรู้สึกว่ามันน่าอึดอัดใจยังไงชอบกล? แต่นางก็ไม่ได้ถือสาอะไร แล้วเดินออกไปดื่มชากับฮูหยิน

ระหว่างที่กำลังดื่มชา จวงลี่จ้งก็มาพอดี

นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นลู่ม่านสวมชุดฮั่นฝูเหมือนกัน เมื่อมองเพียงแวบแรก ก็เห็นดวงตากลมโตดั่งผลซิ่ง ผิวกายที่เนียนขาวราวหิมะ เขารีบก้มหน้าลงอย่างร้อนรน ยกมือขึ้นกุมหัวใจที่กำลังเต้นกระหน่ำดั่งกลองที่ตีรัวไม่หยุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน