ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 317

การนอนครั้งนี้ เป็นการนอนที่สามารถหลับได้อย่างสนิทใจมาก ๆ

อันที่จริง บางครั้งลู่ม่านเองก็ยังรู้สึกแปลกใจมาก เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าถ้าเทียบกันแล้ว เฉินจื่ออานไม่ใช่คนที่มีความสามารถที่สุด ถึงขั้นพูดได้ว่าเขาเคยเป็นเพียงหนุ่มชาวนาตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ตอนนี้ก็เพิ่งจะเป็นเพียงขุนนางขั้นหกที่ดูแลเรื่องการเกษตรเท่านั้น

แต่เขากลับมีอะไรบางอย่างที่เป็นเหมือนดั่งเวทมนตร์ ขอแค่ลู่ม่านได้อยู่ข้างกายเขา ก็จะรู้สึกผ่อนคลายสบายใจได้เสมอ

เวลาต่อมา เมื่อมาลองคิดดูดี ๆ ก็อาจเป็นเพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ลู่ม่านมาถึงที่นี่ ก็เห็นว่าเฉินจื่ออานพุ่งความสนใจมาที่ตัวเองตลอดก็เป็นไปได้

ในความทรงจำของนาง ที่แล้วมาเฉินจื่ออานไม่เคยปล่อยให้นางถูกรังแกมาก่อนเลย

ดังนั้น นางจึงยอมรับได้อย่างหนักแน่นถึงความรู้สึกปลอดภัยนี้

มีเสียงดังซอก ๆ แซก ๆ แว่วมาจากด้านข้าง ลู่ม่านจึงลืมตาขึ้นมา ก็เห็นว่าเฉินจื่ออานกำลังอยู่ยุ่งกับการแต่งตัว "ข้าหลับไปตั้งนานขนาดนี้แล้ว เสียเวลาไปไม่น้อยเลย....."

“ไม่ต้องรีบหรอก!” ลู่ม่านลุกขึ้นไปช่วยเขาติดกระดุม “ข้าให้เสี่ยวเย่วไปสั่งทำกังหันน้ำที่ว่านั้นในตัวตำบลแล้วล่ะ ยังมีท่อต่อนั่นด้วย รออีกเดี๋ยวเจ้าค่อยไปรับของมาก็ได้แล้ว!”

ลู่ม่านละเอียดรอบคอบอยู่เสมอ เฉินจื่ออานจูบลงบนหน้าผากของลู่ม่านตรง ๆ ไปครั้งหนึ่ง "ถ้าอย่างนั้นข้าไปล่ะนะ"

“ระวังตัวด้วย” ลู่ม่านเอ่ยเตือนอย่างเป็นห่วง

หลังจากส่งเฉินจื่ออานออกไป ในที่สุดลู่ม่านก็นับได้ว่าฟื้นคืนสติกลับมาเล็กน้อย หลังจากกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ลู่ม่านก็ไปดูความเรียบร้อยที่โรงงาน

เป็นเพราะเรื่องที่เฉินจื่ออานช่วยต้นข้าวในหมู่บ้านเอาไว้ ทำให้ตอนนี้ชาวบ้านเมื่อได้เห็นลู่ม่านก็จะให้ความเคารพอย่างจริงใจ ไม่ใช่เพราะนางเป็นภรรยาของซือหนงที่ดูแลการเกษตร แล้วก็ไม่ใช่เพราะนางเป็นเจ้าของโรงงานด้วย

ทั้งหมดล้วนเป็นความรู้สึกชื่นชมจากใจจริง! ความรู้สึกแบบนี้มันดีจริงๆ ตลอดเส้นทางที่ลู่ม่านเดินผ่านมา ได้รับคำขอบคุณจนนางรู้สึกเต็มตื้นเสียจนแน่นท้องไปหมด

สิ่งต่าง ๆ ในโรงงานมีเสถียรภาพดีมาก พอดีกับที่เป็นวันซึ่งต้องจ่ายเงินเดือนประจำแต่ละเดือน เหยาซื่อจึงนำสมุดบัญชีไปให้ลู่ม่าน จากนั้นค่อยคำนวณกำไรสำหรับเดือนนี้

เมื่อเทียบกับการจ่ายเงินปันผลของไตรมาสที่แล้ว เดือนนี้โดยพื้นฐานแล้วเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า

เหยาซื่อก็ใส่ใจดีมาก นางช่วยลู่ม่านแลกเป็นทองเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องมานับทีละเล็กละน้อยอีกทางฝั่งของเฉินเหมยเซียงก็เหมือนกัน เป็นอะไรที่พลิกจากไตรมาสที่แล้วอย่างมาก

แต่เมื่อเทียบกับแยมแล้ว เพิ่มขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก จนเกือบจะเป็นยี่สิบเท่า

สาเหตุหลักมาจากผงเครื่องเทศสิบสามชนิด เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว มีความจำเป็นต้องใช้เป็นเครื่องปรุงในการประกอบอาหารทุกวัน ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันค่อนข้างจะขายดีกว่าก็คงไม่ผิด ลู่ม่านคิดว่าบางทีรอจนถึงปีหน้าเมื่อได้เวลาที่เหมาะสม นางยังสามารถผลิตเครื่องปรุงรสชนิดอื่น ๆ ออกมาได้อีกด้วย

ตัวอย่างเช่น เครื่องปรุงซุปปลาผักดองที่คนในยุคปัจจุบันนิยม เครื่องปลาต้มหม้อไฟ เครื่องปรุงผงหมูแดง เป็นต้น สำหรับลู่ม่านแล้ว นี่ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่อะไร แต่เพราะตอนนี้มีเรื่องที่ต้องจัดการมากเกินไป ลู่ม่านไม่สามารถทำหลายอย่างไปพร้อม ๆ กันได้

ทางฝั่งโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นลู่ม่านไม่ได้ไป เหตุผลหลักก็เพราะจวงลี่จ้งยังไม่ได้ไปชําระ เงินงวดสุดท้าย ดังนั้นลู่ม่านจึงกลับไปเลยโดยตรง

หลังจากเก็บเงินทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ลู่ม่านก็ไปเตรียมอาหารเย็น เมื่อนึกถึงเครื่องปรุงเหล่านั้น ลู่ม่านก็นึกอยากกินปลาขึ้นมาจริง ๆ เสียแล้ว จึงทำปลาต้มหม้อไฟเป็นมื้อเย็นจริง ๆ พอทำเสร็จก็เหลือครึ่งหนึ่งไว้ให้พวกเฉินจื่ออานกลับมากิน

ไม่รู้ว่าทางเฉินจื่ออานเป็นอย่างไรบ้างแล้ว จะจัดการธุระได้อย่างราบรื่นดีหรือไม่?

พอคิดแบบนี้ ลู่ม่านก็ค่อย ๆ ผลอยหลับไป

เมื่อถึงกลางดึกลู่ม่านก็ฝัน ในฝันนั้นนางเห็นว่าพวกเฉินจื่ออานต่างตั้งอกตั้งใจพ่นน้ำปูนขาวในนาข้าวอย่างสุดกำลัง เห็นอยู่กับตาว่ากำลังจะประสบความสำเร็จแล้ว ซวนเหวินลี่ก็พาเจ้าหน้าที่มาถึง แล้วบุกเข้ามาจับกุมเฉินจื่ออานตรง ๆ บอกว่าเขาดึงดั้นทำตามความคิดของตัวเอง ไม่ยอมฟังคำคัดค้านของคนอื่น ทำลายผลประโยชน์ของชาวนา

มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก ลู่ม่านสะดุ้งตื่นขึ้นมา จึงพบว่าที่แท้ตัวเองแค่กำลังฝันไป

นางลุกขึ้นนั่งอย่างเร่งรีบ จุดตะเกียงที่อยู่ข้างเตียง แล้วแนบกายลงกับเตียงด้วยอาการเหม่อลอย

มีเสียงฝีเท้าค่อย ๆ เดินย่ำไปทางสนามหลังบ้าน จากนั้นเสียงของเหอเย่วก็ดังขึ้นมาจากด้านนอกว่า “พี่เสี่ยวม่าน แย่แล้วล่ะ พี่จื่ออานถูกใต้เท้าซวนจับตัวไปแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน