ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 318

ซวนเหวินลี่ไม่เชื่อ ซือเย่ที่อยู่ข้าง ๆ เอนตัวเข้ามาพยักหน้าให้ก่อนจะกระซิบว่า "ใต้เท้า สิ่งที่เขาพูดมาเป็นความจริงขอรับ จวงลี่จ้งเมื่อสามปีก่อนเข้าสอบเคอจวี่ ได้ตำแหน่งบัณฑิตซิ่วไฉ..... "

ถึงกับเป็นซิ่วไฉอีกด้วย ซวนเหวินลี่ที่ฝันว่าตัวเองจะได้เป็นซิ่วไฉบ้าง ก็ยิ่งโกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมาให้ได้แล้ว

ลู่ม่านนึกอยากกดไลค์ให้จวงลี่จ้งจริง ๆ ในแง่ของการแสร้งทำเป็นเข้มแข็งไม่กลัวใคร เขานับว่าเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าเลยเชียวล่ะ

โบยไม่ได้ ซวนเหวินลี่จึงทำได้แค่ต้องเริ่มไต่ถามตามคดีอีกครั้ง ลู่ม่านเปิดหัวข้ออย่างตรงเข้าประเด็นทันที “ดึกดื่นค่อนคืนใต้เท้าซวนมาจับคนไป ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเสนาบดีกรมคลังและการเกษตรอยู่ด้วย...”

“โอ้?” ซวนเหวินลี่แกล้งทำเป็นโง่ “ทำไมข้าถึงไม่รู้มาก่อนเลยล่ะ?”

ลู่ม่านรู้อยู่แล้วว่า ต่อให้ซวนเหวินลี่จะขวัญกล้าบังอาจขนาดไหน เขาก็ไม่กล้าบุกจับเฉินจื่ออาน โดยตรงแน่ เพราะถึงอย่างไร ตำแหน่งขุนนางอย่างเป็นทางการของเฉินจื่ออานก็สูงกว่าซวนเหวินลี่มาก ที่แท้เขาก็คิดจะใช้ลูกไม้แกล้งทำเป็นเป็นโง่ เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว

พูดจบ เขาก็เหลือบมองซือเย่ที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางจอมปลอมอย่างยิ่ง ซือเย่พูดขึ้นว่า “เมื่อคืนนี้ มีการจับกุมคนจำนวนหนึ่งจริง ๆ ขอรับ ล้วนเป็นพวกดื้อรั้นที่ไม่ฟังคำสั่งเบื้องบนก่อความวุ่นวาย ตั้งใจจะทำลายการเก็บเกี่ยวพืชผลในปีนี้....”

ลู่ม่านถูกทำให้โกรธจนหัวเราะเลยทีเดียว ตั้งใจทำลายการเก็บเกี่ยวพืชผล?

แต่ก็ยังกลั้นใจทนเอาไว้ได้ “ ใต้เท้า นั่นไม่ใช่เจตนาทำลายการเก็บเกี่ยว แต่เป็นเพราะท่านซือหนงคิดวิธีการเพื่อช่วยเหลือและกอบกู้นาข้าวในอำเภอนี้ต่างหาก!”

ซวนเหวินลี่เลิกคิ้วขึ้นสูง "เจ้าจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่า ในนั้นมีท่านซือหนงอยู่จริง? " เขายังคงแกล้งทำเป็นโง่

“จริงหรือไม่ ขอแค่ใต้เท้าไปเปิดประตูคุกดู แค่ได้เห็นก็รู้แล้ว”

คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่ลู่ม่านพูดจบ ซวนเหวินลี่ก็ส่ายหน้าทันที “นี่เกรงว่าจะไม่ได้ พอดีว่าช่วงนี้ตรงกับวันที่ที่ทำการอำเภอของเราต้องตรวจสอบสถานการณ์ในเรือนจำของแต่ละเดือน ยึดตามระเบียบข้อบังคับ ห้ามเข้าไปในเรือนจำหรือทำการสอบปากคำผู้ต้องขังเด็ดขาด หากแม่นางลู่มีข้อโต้แย้งใด ๆ อีกห้าวันหลังจากนี้ค่อยกลับมาใหม่แล้วกัน!"

อีกห้าวันค่อยกลับมา? ลู่ม่านกัดฟันกรอด หันไปมองจวงลี่จ้งที่อยู่ข้าง ๆ "มีกฎแบบนี้อยู่จริงรึ?"

จวงลี่จ้งพยักหน้า แต่ลู่ม่านก็ยังคงไม่วางใจอยู่ดี ห้าวันมันสามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงได้มากเกินไป ข้างนอกยังมีพื้นที่เพาะปลูกอีกมากที่ยังไม่ได้รับการจัดการ ถ้าการเก็บเกี่ยวในอำเภอนี้ย่ำแย่ คนแรกที่จะลำบากก็คือเฉินจื่ออานซึ่งเป็นซือหนงผู้ดูแลในด้านการเกษตร

ต่อให้พิสูจน์ได้ว่า นายอำเภอปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ แต่ระยะเวลาห้าวันในเรือนจำ ก็เป็นการยากที่จะบอกได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในนั้น

ถ้าซวนเหวินลี่คิดจะฆ่าปิดปากเขา มันมีลูกไม้หลากหลายวิธีมากที่เขาจะหยิบมาใช้ได้ ลู่ม่านรู้สึกไม่วางใจ

“แม่นางลู่ ออกไปก่อนค่อยว่ากัน” จวงลี่จ้งกระซิบเสียงเบา

ลู่ม่านไม่อยากออกไป แต่มังกรที่แข็งแกร่งก็ไม่อาจเอาชนะงูในท้องถิ่นได้ เมื่อได้เห็นท่าทางของจวงลี่จ้ง ก็ดูเหมือนว่าเขาจะมีวิธีการบางอย่างอยู่ จึงยอมตามเขาออกไป

หลังจากออกไปแล้ว จวงลี่จ้งก็พูดว่า “เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะคิดหาวิธีติดต่อกับทางเมืองหลวง ในเวลานี้ เด็กรับใช้ของข้าคงกำลังเร่งนำคำสั่งของอ๋องหนิงมาที่นี่แล้ว ไม่ว่าอย่างไร เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด”

ที่แท้จวงลี่จ้งก็กำลังคิดเรื่องนี้อยู่นี่เอง ลู่ม่านพยักหน้า หลังจากแยกกับจวงลี่จ้ง เดิมทีนางคิดจะกลับไปเลย แต่บังเอิญเห็นใบหน้าอันคุ้นเคยดวงหนึ่งเข้าพอดี ลู่ม่านจึงหยุดคิด ก่อนจะเดินตามไป

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก็พบว่า ไม่เพียงแต่ผู้หญิงคนนั้นเท่านั้น แต่ยังมีหยวนซื่อกับพวกเฉินหลี่ซื่อด้วย เฉินหลิ่วเอ๋อก็เดินตามอยู่ด้านหลังเช่นกัน ผู้หญิงทั้งสี่คนพาสาวใช้กลุ่มหนึ่งเดินหน้าไปตามท้องถนนอย่างช้า ๆ

เฉินหลี่ซื่อเปลี่ยนท่าทางจากที่เย่อหยิ่งอวดดีเวลาอยู่ที่บ้าน เป็นยิ้มตายิบหยีอยู่ตลอดเวลา แลดูเมตตาอารีอย่างไม่น่าเชื่อ

ตอนนั้นเองลู่ม่านถึงเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คู่หมั้นของเฉินจื่อคังที่นางได้เจอเมื่อตอนอยู่ที่ร้านม่านเซิงในตำบลชางผิงก่อนหน้านี้หรอกรึ? เหมือนว่าจะชื่อมู่หรงเซี่ย?

ระหว่างที่กำลังคิด ๆ อยู่ หยวนซื่อก็พูดขึ้นว่า

“คุณหนูมู่หรง หลายวันมานี้ดูสีหน้าผิวพรรณของท่านดีขึ้นมาก ได้ใช้ครีมบำรุงผิวขวดก่อนหน้านั้นแล้วหรือ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่หรงเซี่ยก็ยกยิ้มน้อย ๆ ไปให้หยวนซื่อ แล้วพูดว่า “ครีมบำรุงผิวขวดนั้นของเจ้าใช้ดีมาก ท่านแม่ของข้าก็ยังรู้สึกเลยว่าใช้ดีเหมือนกัน.....”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน