ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 320

เดิมทีลู่ม่านที่กำลังอยู่ในช่วงอารมณ์หม่นหมอง ถูกคำพูดจิกกัดประโยคนี้หยอกเย้าจนรู้สึกผ่อนคลายลงไปได้ไม่น้อย "ไม่เป็นไร ถือเสียว่าคนเลวมาช่วยพวกเราทดสอบผลิตภัณฑ์ก็แล้วกัน!"

พ่อของมู่หรงเซี่ยเป็นผู้บัญชาการทหารของอำเภอเฟิงหนาน ดังนั้นพวกนางก็ต้องอาศัยอยู่ในเฟิงหนานเช่นกัน เมื่อเทียบกับซวนเหวินลี่ที่มียศเพียงน้อยนิด ตระกูลมู่หรงนี้ย่อมมีอำนาจบารมีมากกว่าจนเทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว

ลู่ม่านแจ้งชื่อไปในนาม ร้านม่านเซิง แล้วรออยู่ข้างนอกกับเหอเย่ว

ผลคือ หลังจากที่มู่หรงเซี่ยได้ยินว่าเป็นคนของ ร้านม่านเซิง นางก็รีบสั่งให้คนออกมา เชื้อเชิญพวกนางเข้าไปข้างในทันที

ทันทีที่เดินเข้าประตูมา ก็เห็นบรรยากาศที่สื่อถึงผู้คนที่ฝึกฝนการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์อย่างเหนื่อยยากลำบากไปทั่วทุกหนแห่ง แม้กระทั่งในสวนก็ยังไม่ค่อยเหมือนบ้านคนอื่นที่ปลูกดอกไม้ ต้นไม้ที่สวยงามอะไรเหล่านั้น ทุกที่ล้วนเห็นแต่อาวุธและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทหารจนแน่นขนัด

หัวใจของลู่ม่านถึงกับเต้นผิดจังหวะ ยังคิดอยู่ว่าความคิดของตัวเองคงจะเป็นหมันแน่แล้ว ต่อมา เมื่อไปถึงสวนหลังบ้าน ถึงได้เห็นว่ามีสวนดอกไม้เล็ก ๆ อยู่แห่งหนึ่ง

ในยามนี้ยังพอมีผีเสื้อตัวเล็ก ๆ บินอยู่ข้างใน สิ่งนี้เองที่ทำให้ลู่ม่านรู้สึกโล่งใจไปได้มากทีเดียว

ลู่ม่านกับเหอเย่วถูกเชิญไปที่ศาลาชมดอกไม้ที่อยู่ในสวนหลังบ้าน เพิ่งจะนั่งลงก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “พวกเจ้ายังกล้ามากันอีกรึ?”

นี่คือเสียงของมู่หรงเซี่ย ในความดื้อรั้นนั้นแฝงความแข็งกร้าวด้วยเล็กน้อย ลู่ม่านได้ยินครั้งเดียวก็ฟังออกทันที

ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองมากนัก ลู่ม่านยังคงไม่ถึงกับอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ก็ไม่เย่อหยิ่งทะนงตน แค่ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “คุณหนูมู่หรง”

“ครั้งก่อนตอนที่อยู่ในร้านม่านเซิง พวกเจ้าทำกับข้าแบบนั้น อย่าคิดนะว่าพวกเจ้าเป็นเพื่อนของจวิ้นจู่แล้ว ข้าจะกลัวพวกเจ้าน่ะ!”

“ข้าย่อมไม่กล้าแน่นอน!” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม มังกรที่แข็งแกร่งก็ยังไม่อาจข่มงูในท้องถิ่นได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้จวิ้นจู่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ต่อให้นางอยู่ แต่พ่อของมู่หรงเซี่ยเป็นผู้บัญชาการทหารของอำเภอเฟิงหนาน มู่หรงเซี่ยคนนี้ก็คงไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอะไรอยู่แล้ว

เพราะถึงอย่างไรสุดท้ายแล้ว มันก็เป็นแค่เรื่องขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเด็กสาวตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ต่อให้อ๋องหนิงมาเอง เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

ท่าทางของลู่ม่าน ทำให้มู่หรงเซี่ยไม่สามารถหาจุดที่ใช้ระเบิดอารมณ์ได้ไปชั่วขณะ จึงแค่นเสียงในลำคอเสียงหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามว่า "พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?"

ลู่ม่านลุกขึ้นพร้อมรอยยิ้มละไม “แน่นอนว่าข้ามาเพื่อชดเชยความผิด! ครั้งก่อนเด็กสาวที่ทำงานในร้านละเลยคุณหนูมู่หรง ข้าได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณหนูอยู่บ้าน จึงแวะมาเยี่ยมเยียน”

คำพูดเหล่านี้ฟังแล้วเป็นอะไรที่ค่อนข้างเหมาะสม อารมณ์ของมู่หรงเซี่ยจึงนับได้ว่าดีขึ้นบ้าง

แต่เมื่อยู่ต่อหน้าลู่ม่าน นางก็ยังจงใจทำท่าทางไม่ปลื้มนักระหว่างที่พูดว่า “สิ่งที่เรียกว่าผลิตภัณฑ์สั่งทำ จะมีอะไรที่วิเศษไปกว่าผงไข่มุกบรรณาการอีก? ของอะไรที่คนอื่นมี เจ้าคิดว่ามันจะต้องตาข้าได้อย่างนั้นรึ?”

ลู่ม่านรู้ดี ว่านางจะต้องพูดแบบนี้แน่ จึงหัวเราะแล้วพูดต่ออีกว่า

“คุณหนูพูดได้ถูกต้องแล้ว ดังนั้น พอดีว่าทางข้าเพิ่งจะมีสินค้าบางอย่างที่ใครก็ยังไม่เคยมี เพิ่งจะทำขึ้นมาใหม่ ๆ จึงได้เอาออกมาให้คุณหนูลองชมดูสักหน่อย”

ดวงตาของมู่หรงเซี่ยเป็นประกายสว่างวาบ นางรู้ว่าของทุกอย่างใน ร้านม่านเซิงล้วนเป็นของดีทั้งนั้น ยิ่งตอนนี้มาบอกว่าไม่มีใครที่เคยมีมาก่อน ในที่สุดนางก็พอจะนับได้ว่ามีโอกาสกู้หน้าตัวเองต่อหน้าพวกยายแก่ขี้อวดในเมืองพวกนั้นได้สักที

"เอามาดูหน่อยก็ได้"

มู่หรงเซี่ยยังคงจงใจแสร้งพูดในทำนองว่าไม่ถึงกับเฉยชา แต่ก็ไม่กระตือรือร้นนัก

เหอเย่วรีบก้าวเท้าขึ้นมาข้างหน้าเพื่อจะหยิบของให้ ลู่ม่านทำสัญญาณว่าไม่ให้นางเคลื่อนไหว ตัวนางเป็นฝ่ายหยิบมันขึ้นมาเอง จากนั้นก็เดินเข้าไปหามู่หรงเซี่ยอย่างช้า ๆ แล้วเปิดผ้าที่ผนึกอยู่ออกตรงหน้าของมู่หรงเซี่ย โดยจงใจให้ใกล้จมูกนางที่สุด

กลิ่นหอมประหลาดกลิ่นหนึ่งกรุ่นกระจายออกมาจากขวด กลิ่นหอมนั้นแผ่ขยายออกมาเป็นชั้น ๆ ราวกับเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์นับร้อยชนิด

สีหน้าของมู่หรงเซี่ยแสดงอาการว่าประทับใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังสะกดกลั้นเอาไว้ได้ “ก็แค่ขวดเครื่องหอมขวดหนึ่งเท่านั้นเองนี่”

ลู่ม่านส่ายหน้า จากนั้นก็เหลือบตามองไปทางเหอเย่วอีกครั้ง ค่อยพูดขึ้นว่า “เมื่อครู่นี้ตอนที่ข้าเพิ่งจะเข้ามา เห็นว่าที่ศาลาด้านหน้ามีสวนดอกไม้เล็ก ๆ อยู่ ไม่สู้พวกเราลองออกไปดูผลลัพธ์ที่นั่นกันดีหรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน