“เฉินจื่อคัง ”ทันใดนั้นเฉินจื่ออานก็ร้องตะโกนขึ้นมา ได้ยินเพียงเสียงปังดังขึ้น เสียงร้องเจ็บปวดของซวนเหวินลี่ก็ตามมา
เหมือนเฉินจื่ออานจะชกซวนเหวินลี่ไปหนึ่งหมัด ไม่เพียงเท่านั้นยังเรียกชื่อจริงเขาออกมาด้วย
“เสี่ยวม่านไปล่วงเกินท่านตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมท่านจึงต้องพูดให้ร้ายนางด้วย”
และแล้ว เฉินจื่ออานก็ยังคงเชื่อใจนาง ลู่ม่านรู้สึกตื้นตันขึ้นมา เจ้าทึ่มคนนี้ มักจะทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจได้อย่างไม่ตั้งใจอยู่เสมอ
ซวนเหวินลี่ถูกชกจนมึน ผ่านไปครู่ใหญ่จึงได้สติกลับมา “เฉินจื่ออาน เจ้าบ้าไปแล้ว”
“เจ้าน่ะซิบ้า ”เฉินจื่ออานพูดเสียงเย็น “ข้ารู้จักเสี่ยวม่านดี นางเกลียดคนชั่วราวกับศัตรู ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นน้องชายของข้า เจ้าคิดว่านางจะปล่อยให้เจ้าเปลี่ยนฐานะของตนเองแล้วโอ้อวดไปทั่วเมืองเช่นนี้หรือ นางใช้บุญคุณตอบแทนความแค้น เจ้ายังจะใส่ร้ายนางเช่นนี้อีกหรือ”
“ข้าไม่ได้ทำ”ซวนเหวินลี่ตะคอก “ข้านับถือท่านเป็นพี่สามของข้า ข้าจึงบอกกับท่าน ครั้งนี้ที่นางร่วมมือกับจวิ้นจู่ในการเปิดโรงงานพระชายาหนิงรู้เรื่องแล้ว หลังจากนี้ พระชายาหนิงจึงพานางไปที่จวน หลี่ยวี่คนนั้น ท่านก็รู้ว่ามันไม่ใช่คนดีอะไร ลู่ม่านเองก็หน้าตาสะสวยไม่เลว……”
“เจ้ายังจะพูดอีกหรือ”เฉินจื่ออานกัดฟันเค้นเสียงออกมา
“ถ้าข้าไม่พูดเรื่องนี้ก็เท่ากับว่าไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ แม้ว่านางจะไม่ได้ถูกหลี่ยวี่ทำอะไรก็จริง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็นับว่าไม่บริสุทธิ์แล้ว อีกอย่าง ข้าได้ยินมาว่าจวงลี่จ้งเป็นคนช่วยนางออกมา ถ้าหากจวงลี่จ้งไม่ได้คิดอะไรกับนาง ทำไมจึงช่วยนางครั้งแล้วครั้งเล่า”
ทันใดนั้นลู่ม่านก็ถูกคำถามของซวนเหวินลี่ทำให้ชะงักไป ที่จวงลี่จ้งช่วยเหลือนางครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ใช่เพราะพวกนางเป็นเพื่อนกันหรอกหรือ
แม้ว่าก่อนหน้านี้ลู่ม่านจะพูดเสมอว่า เขาเป็นพ่อค้าที่เจ้าเล่ห์มาก แต่เป็นเพราะว่าร่วมงานกันมานานแล้ว แม้จะมีความสัมพันธ์ในเชิงผลประโยชน์ เขาก็ควรจะช่วยนางนี่นา ก็ไม่น่าจะมีอะไร
ปรากฏว่า เฉินจื่ออานก็ตอบเช่นนี้เหมือนกัน
อาจเป็นเพราะว่าซวนเหวินลี่โมโหมากเกินไป จึงไม่อยากจะสนใจเฉินจื่ออานอีก ไม่ช้าก็ปิดประตูเดินจากไป
หลังจากซวนเหวินลี่จากไปแล้ว ลู่ม่านจึงใช้สายตาเกลียดชังมองตามเงาหลังของเขาไป เมื่อก่อนนี้ดูไม่ออกจริงๆ ว่าซวนเหวินลี่จะไร้ยางอายเช่นนี้ คิดเพียงแค่ว่าเขาต้องการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนชอบนินทาผู้อื่นลับหลังด้วย
เหอเยว่มองลู่ม่านอย่างเป็นกังวล “พี่เสี่ยวม่าน ท่านเป็นอะไรหรือไม่”
ลู่ม่านส่ายหน้า “ไม่เป็นไร หรือว่าเจ้าก็เชื่อคำพูดเหลวไหลของเขาด้วย”
“ข้าย่อมไม่เชื่อแน่นอน”เหอเยว่พูด
“แค่นั้นก็พอแล้ว”คนบริสุทธิ์ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร ข่าวลือจะหยุดลงเมื่อไปถึงหูของคนฉลาด
“แต่ว่า พี่จื่ออาน ท่านจะไปอธิบายให้เขาเข้าใจหรือไม่”เหอเยว่มองไปยังทิศทางที่เฉินจื่ออานอยู่
ลู่ม่านส่ายหน้า “ช่างเถอะ ข้าไม่อยากให้เขารู้ ว่าข้าได้ยิน……”ที่จริง มีบางเรื่อง ที่ไม่อาจอธิบายได้
ผู้คุมส่งซวนเหวินลี่ไปแล้ว ก็ส่งลู่ม่านกับเหอเยว่ออกไปจากทางประตูหลัง เดิมที อารมณ์ดีมาก แต่ถูกซวนเหวินลี่แทรกเข้ามาอย่างกะทันหัน ลู่ม่านก็ไม่พอใจขึ้นมา
ผู้หญิงเมื่ออารมณ์ไม่ดี ก็อยากจะไปใช้จ่ายซื้อข้าวของ พอดีกับที่ลู่ม่านรู้สึกเหนื่อยใจมาก ที่ต้องไปกลับระหว่างอำเภอกับตัวเมืองอยู่เสมอ จึงอยากจะไปดูบ้านสักหน่อย
ในยุคปัจจุบัน ความฝันของลู่ม่านคือหากมีวันหนึ่งสามารถซื้อบ้านได้ก็จะซื้อ
แต่ในยุคปัจจุบันนั้นทำไม่ได้ แต่ในยุคโบราณนี้เป็นไปได้
เดินดูหนึ่งรอบ สุดท้ายลู่ม่านก็เลือกเรือนสี่ประสานที่อยู่ไม่ไกลจากเรือนของตระกูลมู่หรงมากนัก
ลู่ม่านไม่คิดมาก ตอบออกไปว่า “ทำขั้นตอนทุกอย่างเสร็จแล้วก็ย้ายเข้ามาเลย”
“เช่นนั้น……”นายหน้าลังเลอยู่ชั่วครู่จึงพูดขึ้นว่า “พวกท่านยังต้องการหาคนเฝ้าประตูหรือไม่”
หลังจากที่นายหน้าถามขึ้นแล้ว ผู้เฒ่าที่เฝ้าประตูคนนั้นก็มองลู่ม่านอย่างมีความหวัง ลู่ม่านชะงักไปชั่วครู่ ถามว่า “ท่านผู้เฒ่าเป็นคนเฝ้าประตูของที่นี่มานานแล้วหรือ”
“ทำงานที่นี่มาสิบกว่าปีแล้ว จนคิดว่าที่นี่เป็นบ้านตนเองแล้ว”ผู้เฒ่าคนนั้นพูด พูดจบ เขาก็ดึงลูกชายของตนเองมาและพูดว่า “ลูกชายข้าก็โตมาจากที่นี่ตั้งแต่เล็ก ”
ตงจื่อไม่พูดจา อาจเป็นเพราะเรื่องศักดิ์ศรี หลังจากที่ผู้เฒ่าพูดจบ เขาก็บอกว่า “ฮูหยินรับสมัครคนเมื่อไหร่ ข้ากับท่านพ่อจะรีบย้ายออกไปโดยเร็วที่สุด”
ลู่ม่านรู้สึกประหลาดใจในตัวเขาขึ้นมา “พวกเจ้าจะย้ายไปไหน”
ตงจื่อส่ายหน้า “ไว้ว่ากันทีละก้าวแล้วกัน”
ลู่ม่านกลับมองไปที่ผักกาดขาวในกระบุงที่เขาแบกอยู่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีเงิน กินผักกาดขาวทุกวันแม้แต่คราบน้ำมันก็ไม่เห็น จะไปเช่าบ้านอยู่ได้อย่างไร
“เป็นวิชาวรยุทธบ้างหรือไม่”ลู่ม่านถาม เห็นเขามีพลังวังชาดี เหมือนคนที่มีวรยุทธ
“เป็น”ผู้เฒ่าเอ่ยขึ้น “เมื่อก่อนคุณชายใหญ่ของนายท่านฝึกวรยุทธ ทุกครั้งจะพาตงจื่อไปฝึกด้วย เดิมที นายท่านจะพาพวกเราไปด้วย แต่ข้าอายุมากแล้วไม่อยากจากบ้านเกิดไปไหน ตงจื่อนั้นอยู่ที่นี่ต่อก็เพราะข้า ”
ผู้เฒ่าพูดขึ้น ทันใดนั้นก็คุกเข่าลง ตงจื่อรีบเข้าไปดึงตัวเขา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ยอมลุกขึ้น
“ฮูหยิน ข้าเห็นว่าท่านเป็นคนดีคนหนึ่ง ตงจื่อเป็นเด็กดีมาก ข้าสามารถไปจากที่นี่ได้ แต่ท่านโปรดรับตงจื่อไว้ได้หรือไม่ ปกติแล้วเขาไม่ชอบพูด แต่ว่าทำงานดีมาก ฮูหยิน ได้โปรดรับเขาไว้ด้วยเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...