ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 325

หลังจากที่ซวนเหวินลี่พูดจบ ก็ได้นำตัวคนที่ทำการจับกุมในคืนนั้นออกมา โบยกลางศาลทันที

อ๋องหนิงนั่งอยู่ตรงนั้นตลอด มองดูโดยที่ไม่พูดอะไรเลย จนกระทั่งคนเหล่านั้นถูกโบยจนเกือบจะหมดลมหายใจ อ๋องหนิงจึงเอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นการเข้าใจผิด ครั้งนี้ก็ให้แล้วไปเถอะ แต่ว่าการจับกุมขุนนางของราชสำนักโดยเข้าใจผิด ไม่ใช่เรื่องที่จะจบลงได้แค่การโบยเท่านั้น การงานที่เสียหายไป พวกเขาก็รับผิดชอบไม่ไหว……”

ซวนเหวินลี่สีหน้าซีดลง เห็นที ครั้งนี้อ๋องหนิงเตรียมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแน่

สูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง อ๋องหนิงจึงพูดออกมาว่า “ใต้เท้าพูดถูกต้อง ” จากนั้นเขาก็หันไปมองซือเย่ที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยท่าทีเสแสร้ง “โทษของการกระทำนี้คือ……”

“ประหารตามกฎหมาย”ซือเย่คนนั้นพูดอย่างเฉียบขาด

ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ของศาลาว่าการเหล่านั้นต่างก็ร้องโอดโอยขึ้นมา “ใต้เท้า ข้าถูกใส่ร้าย”

ซวนเหวินลี่ก็รู้สึกใจหายวาบ แล้วมองไปที่อ๋องหนิงอีกครั้ง ไม่มีทีท่าจะยับยั้งเลยแม้แต่น้อย ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว นี่มันเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูนี่เอง

แต่ว่าลิงอย่างเขา จะไม่รับช่วงต่อก็ไม่ได้แล้ว

“เอาตัวออกไป”ซวนเหวินลี่พูด

เจ้าหน้าที่ของศาลที่เมื่อครู่ยังร้องว่าถูกใส่ร้าย มองซวนเหวินลี่อย่างผิดหวัง “ใต้เท้า ท่านต้องช่วยพวกข้านะ ก็ไหนท่านบอกว่า……”

ยังไม่ทันได้พูดจนจบ ซือเย่ที่อยู่ทางด้านหลังก็ร้องตะโกนขึ้นว่า “พูดเหลวไหลอะไรกัน ต่อหน้าอ๋องหนิง เจ้าไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น ยังไม่รีบอุดปากแล้วลากตัวออกไปอีก……”

เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ลงทัณฑ์ ก็ใช้กำลังทุบไปยังคนเหล่านั้นที่กำลังร้องตะโกนว่าถูกใส่ร้ายให้สลบไปทันที

เฉินจื่ออานจะรีบเข้าไปพูดจาขอร้อง แต่จวงลี่จ้งที่อยู่ข้างๆได้รั้งเอาไว้ ส่ายหน้าให้เขา

ขณะที่กำลังนิ่งอึ้ง อ๋องหนิงก็ได้เอ่ยขึ้นว่า “เรื่องราวในครั้งนี้ เป็นเพราะใต้เท้าซวนไม่ได้จัดการแก้ปัญหาให้ดี ฉะนั้นก็ต้องได้รับการลงโทษเช่นเดียวกัน ข้าขอลงโทษใต้เท้าซวนตั้งแต่บัดนี้ ให้ติดตามช่วยเหลือเฉินซือหนงอย่างใกล้ชิดด้วยตนเองพร้อมกับลงมือช่วยชาวนาในอำเภอเฟิงหนานทั้งหมดอย่างเต็มที่”

ตอนที่ซวนเหวินลี่ยังเป็นเฉินจื่อคัง ก็ไม่เคยทำนามาก่อน เขาเกลียดการทำเกษตรกรรมมาก ทุกคนต่างก็รู้ดี ตอนนี้ อ๋องหนิงสั่งการให้เขาไปทำเกษตร เขาไม่น้อมรับคำสั่งไม่ได้ เห็นสีหน้าของเขาก็รู้สึกสะใจมากแล้ว

จากนั้น อ๋องหนิงก็หันไปมองเฉินจื่ออาน “ครั้งนี้ เฉินซือหนงทำงานได้ดีเยี่ยมมาก ตลอดการเดินทางมาจากเมืองหลวง พื้นที่การเกษตรมากมายถูกทำลาย ปีหน้าประชาชนคงต้องทุกข์ยากลำบากเป็นแน่”

อ๋องหนิงรู้สึกเกลียดชังมาก เกษตรกรที่มุงดูอยู่ด้านนอกต่างก็ถูกกระตุ้นให้รู้สึกซาบซึ้งใจ ต่างก็เกิดความรู้สึกดีๆกับอ๋องหนิงขึ้นมา ลู่ม่านมองด้วยสายตาเย็นชา แอบจุ๊ปากและชื่นชมในใจ นักการเมืองตั้งแต่สมัยโบราณจนยุคปัจจุบัน ต่างก็รู้ดี

การรวบรวมจิตใจประชาชนให้เป็นหนึ่งจึงจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการเอาชนะฝ่ายตรงข้าม

“อ๋องหนิงชมกันเกินไปแล้ว ข้าเฉินจื่ออานก็แค่ทำหน้าที่ของตนเองเท่านั้น ”เฉินจื่ออานพูด

อ๋องหนิงพยักหน้าอย่างพอใจมาก แล้วพูดขึ้นว่า “ครั้งนี้หลังจากข้ากลับไปแล้ว จะถวายรายงานให้แก่ฮ่องเต้ตามความจริง ขอให้ทรงประทานรางวัลให้กับเฉินซือหนง ไม่แน่ ปีหน้าพวกเราอาจจะได้ร่วมงานกันที่เมืองหลวงก็เป็นได้”

คำพูดท้ายประโยคของอ๋องหนิงฟังดูแล้วเหมือนพูดเล่น แค่ทุกคนต่างก็รู้ดี ผู้ที่มีตำแหน่งสูงส่งกว่าย่อมไม่พูดจาล้อเล่น ขอเพียงพูดออกจากปากแล้ว แทบจะเป็นจริงทั้งสิ้น

จวงลี่จ้งมองเฉินจื่ออานด้วยสายตาเต็มไปด้วยความยินดีทันที ไหนเลยจะคิดว่าเฉินจื่ออานจะพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน “อ๋องหนิง อนุญาตให้กระหม่อมพูดสักหน่อยได้หรือไม่”

อ๋องหนิงนิ่งอึ้ง จากนั้นก็พยักหน้าตกลง “ว่ามา”

“คืออย่างนี้พ่ะย่ะค่ะ”เฉินจื่ออานสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง “ที่จริงเรื่องการพ่นน้ำปูนขาวในครั้งนี้ และเครื่องนวดข้าวก่อนหน้านี้ ล้วนไม่ใช่สิ่งที่กระหม่อมคิดเอง”

เฉินจื่ออานพูดประโยคนี้ออกไป ทุกคนต่างก็เงียบลงทันที

ลู่ม่านรีบส่ายหน้าให้เขาทันที ส่งสัญญาณให้เขาว่าอย่าพูดอีก เรื่องน้ำปูนขาวยังพอทำเนา แต่เรื่องเครื่องนวดข้าว ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้ทรงมีการมอบตำแหน่งให้แล้ว หากพูดออกไปตอนนี้ จะไม่เป็นการหลอกลวงเบื้องสูงหรอกหรือ”

ปรากฏว่า สีหน้าของอ๋องหนิงเปลี่ยนไปทันที

ลู่ม่านใจเต้นระทึก รีบเดินเข้าไปพูดว่า “ท่านอ๋อง จื่ออานแค่รู้สึกดีใจเกินไป……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน