ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 33

ระหว่างทาง เฉินจื่ออานขอหลักฐานการจ่ายเงินของลู่ม่าน

ลู่ม่านเหมือนจะเดาความคิดของเฉินจื่ออานได้ จึงไม่ได้พูดอะไร ให้เขาไป แม้เฉินจื่ออานจะไม่ขอ นางก็จะไปขออยู่ดี

แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะไม่อยากจะจ่ายเงินเพื่อเฉินจื่ออาน เดิมทีก็เป็นเรื่องที่เฉินจื่ออานไปช่วยเฉินจื่อคัง จึงทำให้มีสภาพเช่นตอนนี้ แต่คนบ้านเฉินไม่มีใครแสดงท่าทีอะไรเลย ช่างน่าปวดใจจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น เฉินจื่ออานยังไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บที่ขาจะทิ้งผลข้างเคียงไว้ในภายหลัง ถ้าหากเขารู้ ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

ตลอดทางไร้เสียงพูดคุย เมื่อถึงบ้านเฉิน ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว

เฉินจื่อฉายเดินออกมาจากด้านในพอดี เห็นเฉินจื่ออานก็รีบเรียกพวกเฉินจื่อฟู่ออกมายกเขาลงมา

“จื่ออาน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

เฉินจื่ออานไม่ได้พูดอะไร แต่มองไปทางเรือนหลักแวบหนึ่ง“จื่อคังเล่า ”

“อยู่ข้างใน”เฉินจื่อฉายพูด “วันนี้บังเอิญมาก สัตว์ที่พวกเราล่าได้ครั้งที่แล้ว เอาไปขายวันนี้พอดี ได้เงินมาหลายพวงเลย จื่อคังก็กลับมาเอาเงินพอดี”

เฉินจื่อฉายพูดถึงสัตว์ที่พวกเฉินจื่ออานล่ามาได้จากป่าเมื่อสองวันก่อน พวกเขาโชคดี ได้กวางชะมดมาหนึ่งตัว คนที่ไม่รู้ แต่เฉินจื่อคังจะไม่รู้ได้อย่างไร ว่ากวางชะมดตัวนั้นเป็นชะมดหอม ฉะนั้นจึงขายได้เงินไม่น้อย

เพียงแต่ ลู่ม่านได้ยินเฉินจื่ออานบอกแล้วว่า นั่นเป็นสัตว์ที่เขาล่าได้

“พาข้าเข้าไป ”เฉินจื่ออานพูด

เฉินจื่อฉายไม่ทันสังเกต กลับเป็นเฉินจื่อฟู่ที่มองออกว่าเฉินจื่ออานไม่พอใจ แต่เขาเป็นพวกที่แต่ไหนแต่ไรก็ชอบให้เกิดเรื่องวุ่นวายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง จึงไม่ได้พูดอะไรออกมา

เพิ่งถึงหน้าประตู ลู่ม่านก็ได้ยินเสียงดีใจของเฉินหลี่ซื่อที่ดังขึ้นในเรือนหลัก “คิดไม่ถึงจริง กวางตัวเล็กๆแค่นั้น จะขายได้ราคาดีขนาดนี้ ”

ตาแก่เฉินก็ยากจะหักห้ามความดีใจเอาไว้ได้ “อย่างไรเสียคนเรียนหนังสือก็คือคนฉลาด ถ้าไม่ใช่เพราะจื่อคังพวกเราก็คงไม่รู้ ว่ากวางตัวนี้คือชะมดหอม”

“ใช่ จื่อคังฉลาด จื่อคังเอ๋ย เงินเหล่านี้เจ้าเอาไปเถอะ ตั้งใจเรียนให้ดี……”

ได้ยินถึงตรงนี้ ลู่ม่านก็ทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว นางเลิกผ้าม่านของโถงหลักขึ้น ร้องบอกว่า “ท่านแม่ จื่ออานกลับมาแล้ว”

เฉินหลี่ซื่อรีบยื่นมือออกไปโกยเอาเงินที่วางอยู่บนโต๊ะลงมาแทบไม่ทัน เอาไปเก็บไว้ในตู้ข้างๆนั้น

“ทำไมพวกเจ้าจึงกลับมาแล้ว”

คาดว่าเฉินจื่อคังก็คงคิดไม่ถึง หน้าเสียไปเล็กน้อย ถูกลู่ม่านจับได้พอดี เขาเบือนหน้าไปอย่างละอาย ลุกขึ้นพูดว่า

“พี่สาม ท่านกลับมาแล้ว……”

เฉินจื่ออานไม่สนใจเขา แล้วหันไปร้องเรียก “ท่านพ่อ ท่านแม่”

ตาแก่เฉินวางปล้องยาสูบลง ลุกขึ้นเข้าไปประคองเฉินจื่ออาน “จื่ออาน รู้สึกอย่างไรบ้าง”

“ดีขึ้นบ้างแล้ว”ผู้อาวุโสของบ้านเฉิน มีแต่ตาแก่เฉินที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นอยู่บ้าง

“ดี ดีดี ”ตาแก่เฉินพยักหน้า แต่ที่จริงพวกเขาต่างก็รู้ดีแก่ใจ ว่าอาการของเฉินจื่ออาน เป็นเรื่องที่พูดยาก

ลู่ม่านรีบเอาเก้าอี้มา ให้เฉินจื่ออานนั่งลง เฉินจื่ออานจึงหันไปทางเฉินจื่อคัง “จื่อคัง เจ้าต้องการเงินสิบพวงจริงหรือ”

คนที่อยู่ในห้องนั้นตั้งแต่แรกต่างก็ตกใจ สบตากัน และรู้แล้วว่า เฉินจื่ออานได้ยินสิ่งที่คุยกันเมื่อครู่แล้ว

เฉินจื่อคังอ้าปากจะพูด แต่ก็พูดไม่ออก กลับเป็นเฉินหลี่ซื่อ ที่เห็นว่าเฉินจื่ออานรู้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไรอีก จึงเอ่ยขึ้นว่า “ใช่แล้ว จื่อคังจะเข้าร่วมสอบช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว เรื่องพบปะสังสรรค์จะยืดเยื้อไม่ได้”

“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องพูด ข้าอยากให้จื่อคังพูด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน