สรุปตอน บทที่ 34 แยกครอบครัว – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
ตอน บทที่ 34 แยกครอบครัว ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เฉินจื่อฉายพาท่านหมอเข้ามา ได้ยินประโยคนี้เข้า ทั้งสองก็ต่างก็สูดลมหายใจเข้าอย่างตกใจพร้อมกัน
ใต้หล้านี้ยังมีแม่เช่นนี้อยู่ด้วย ด่าทอลูกชายตนเองอย่างใจดำที่สุด
มีเพียงเฉินจื่ออาน เขามองไปที่เฉินหลี่ซื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านว่าไงนะ”
“ข้าว่าไงน่ะหรือ ข้าบอกว่าเจ้ากลายเป็นคนพิการแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกรรมสนอง”
เฉินจื่อฉายทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว รีบพูดขึ้นว่า “ท่านหมอมาแล้ว”
เฉินหลี่ซื่อจึงปลีกตัวเข้าไปในห้องกับท่านหมอ
“จื่ออาน ”ลู่ม่านไม่สนใจแขนของตนเอง รีบเดินเข้าไปประคองเขา
เฉินจื่ออานดวงตาแดงก่ำ จ้องมองลู่ม่านเขม็ง“ที่ท่านแม่พูดเป็นเรื่องจริงหรือ ขาข้าพิการแล้วจริงหรือ”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ความจริง พวกเรายังมีทางรักษาได้”ลู่ม่านเอ่ยปลอบใจ เพียงแต่ คำปลอบใจนี้สำหรับเฉินจื่ออานแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อเลยสักนิด
ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยสักนิด
“จื่ออาน……”ลู่ม่านยื่นมือไปถึงเขา
เฉินจื่ออานผลักลู่ม่านออกไปทันที พยายามจะยันตัวลุกขึ้นมา ลู่ม่านตกใจ “อย่าขยับ จื่ออาน ถ้าท่านเคลื่อนไหวตอนนี้ กระดูกอาจจะเคลื่อนได้”
ยังพูดไม่ทันขาดคำ เฉินจื่ออันก็ทิ้งตัวลงไปนั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง
หลังจากนั้น เขาก็ไม่สนใจใคร เข้าสู่ภวังค์ โลกของคนคนเดียว
ท่านหมอออกมาจากห้องด้านใน บอกว่าเฉินจื่อคังแค่บาดเจ็บภายนอก ไม่ได้รับบาดเจ็บถึงสมอง เฉินหลี่ซื่อเอาแต่ไล่ถามท่านหมออยู่ด้านหลังว่า “เลือดเยอะขนาดนั้น จะบาดเจ็บแค่ภายนอกได้อย่างไร ท่านลองไปดูอีกที”
ท่านหมอได้แต่พูดขึ้นอีกครั้งว่า “เป็นบาดแผลเล็กๆเท่านั้นจริงๆ……”
“เช่นนั้นก็ให้ยาที่ดีมากหน่อยแล้วกัน……”
เมื่อเทียบกับเฉินจื่ออานแล้ว เขาทรุดนั่งอยู่ตรงนั้นตลอด แต่ไม่มีใครถามไถ่เลย
ลู่ม่านโมโหมาก ลุกขึ้นทันที ไปหยิบเงินที่เฉินหลี่ซื่อเพิ่งจะซ่อนเอาไว้ออกมา“นี่เป็นสัตว์ที่จื่ออานล่ามาได้ เขายังไม่ทันกลับมาถึงบ้านพวกท่านก็ขายสัตว์ที่เขาล่าได้เสียแล้ว เหมาะสมแล้วหรือ ”
เฉินหลี่ซื่อจ้องมองลู่ม่าน“จื่ออานเป็นลูกชายของข้า ข้าขายสัตว์ที่เขาล่ามาได้แล้วอย่างไร”
“ตอนนี้รู้แล้วหรือว่าเขาเป็นลูกชายท่าน ตอนที่อยู่ร้านยาฉืออาน ท่านเคยคิดหรือไม่ว่าเขาเป็นลูกชายท่าน เขาได้รับบาดเจ็บที่ขาเพราะช่วยจื่อคัง พวกท่านเคยมาดูดำดูดีเขาหรือไม่”
“เจ้า เจ้ามันหญิงบ้านป่าไร้ญาติขาดมิตร เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย”เฉินหลี่ซื่อยิ่งพูดก็ยิ่งไม่น่าฟัง ทันในนั้นเฉินจื่ออานก็ตะคอกเสียงดังขึ้นมา
“พอแล้ว ท่านแม่ ท่านทำเกินไปแล้ว ตกลงข้าเป็นลูกแท้ๆของท่านหรือไม่”
เฉินหลี่ซื่อได้ยินดังนั้น ก็นั่งลงกับพื้นร้องไห้ขึ้นมาทันที “ถ้ารู้ว่าเจ้าจะทำให้ข้าลำบากใจเช่นนี้ ข้าน่าจะบีบคอเจ้าให้ตายตั้งแต่คลอดเจ้าออกมา”
ตาแก่เฉินเดินออกมาจากด้านใน เห็นว่าเรื่องบานปลายใหญ่โตแล้ว รีบเข้ามาผลักเฉินหลี่ซื่อออกไป“ยายแก่จนตอนนี้แล้วยังเห็นว่ามีเรื่องยุ่งไม่มากพอหรืออย่างไร จะทะเลาะกันทำไม ”
เฉินหลี่ซื่อชูคอร้องได้อย่างเสียใจ “พวกเขาเอาเงินไปแล้ว จื่อคังจะทำอย่างไร”
พูดไปพูดมา ก็ยังคงเป็นจื่อคัง เฉินจื่ออานยิ้มขมขื่น กระชากเงินจากมือลู่ม่านโยนไปให้ “ท่านพ่อ แยกครอบครัวเถอะ”
“ว่าไงนะ”ตาแก่เฉินตกตะลึง “เวลาอย่างนี้ จะเอ่ยเรื่องแยกครอบครัวทำไม”
“แยกครอบครัวเถอะ ข้าตัดสินใจแล้ว”เฉินจื่ออานรู้สึกเสียใจจริงๆ เมื่อก่อน เขานั้นทนลำบากเพื่อครอบครัวนี้ แม้ว่าตอนนั้น เขาจะรับรู้ได้ว่า พ่อแม่ลำเอียงมากก็ตาม
แต่ว่า เขายังสามารถปลอบใจตนเองได้ เพราะว่าตนเองยังแข็งแรงดี ฉะนั้นพ่อแม่จึงไม่สนใจเขามากก็เป็นเรื่องปกติ
แต่ครั้งนี้ เขาได้รับบาดเจ็บพร้อมกับเฉินจื่อคัง สิ่งที่ได้รับกลับทำให้รู้สึกปวดใจมาก
ตั้งแต่ลู่ม่านมาถึงหมู่บ้านนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับผู้ใหญ่บ้าน ดูแล้วน่าจะอายุราวๆสี่สิบต้นๆ สวมชุดที่ดูดีกว่าชาวบ้านธรรมดาเล็กน้อย เป็นผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด
เมื่อเดินเข้ามา ก็ถอนหายใจและพูดขึ้นก่อนว่า “พี่เฉิน ช่วงนี้บ้านท่านคึกคักน่าดูเลย”
ตาแก่เฉินได้ยินดังนั้น ก็มองไปทางเฉินหลี่ซื่ออย่างกล่าวโทษแวบหนึ่ง รู้ว่าการกระทำบางอย่างของเฉินหลี่ซื่อ ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาของคนในหมู่บ้านตั้งนานแล้ว
จึงยิ้มอย่างเก้อเขิน เขารีบพูดแก้ตัวว่า “คนในครอบครัวอยู่ร่วมกัน มีเรื่องมากมายที่กระทบกระทั่งกัน ตอนนี้ก็เลย คิดว่าจะแยกครอบครัวกัน”
ผู้ใหญ่บ้านพยักหน้า “เจ้าคิดเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องดี ที่จริง ในหมู่บ้านมีคนมากมาย ต่างก็แยกครอบครัวออกไป เวลามีงาน ค่อยมารวมตัวกัน ก็เป็นครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวกัน”
“พูดถูกต้อง”
เมื่อทักทายกันแล้ว ผู้ใหญ่บ้านก็มองไปยังเฉินจื่อฉาย เฉินจื่อฟู่และเฉินจื่ออานสามพี่น้องที่นั่งอยู่ในบ้าน “ไม่ทราบว่าพวกเจ้าเตรียมจะแยกครอบครัวกันอย่างไร”
“ข้าไม่แยก”เฉินจื่อฟู่พูดออกมาก่อน เขากับหลิวซื่อแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขานั้นมีนิสัยเกียจคร้าน ทำงานแบบขอไปที ตอนแรกที่ส่งเสียเฉินจื่อคังไปเรียนหนังสือ เฉินหลี่ซื่อเคยบอกแล้วว่า
ภายหน้าหากเฉินจื่อคังสอบติดแล้ว คนในครอบครัวต่างก็มีหน้ามีตาไปด้วย ฉะนั้น เขาได้แต่หวังว่าวันนั้นจะมาถึง
เฉินจื่อฉายเป็นลูกชายคนโต ย่อมไม่สามารถแยกครอบครัวออกไปได้
ผู้ใหญ่บ้านมองไปทางเฉินจื่ออาน “จื่ออาน เจ้าต้องการจะแยกออกไปหรือ แต่ว่า ขาของเจ้า……”
เมื่อผู้ใหญ่บ้านคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นก็เกิดความรู้สึกดูถูกสองสามีภรรยาตาแก่เฉินขึ้นมา
เมื่อก่อน เมื่อก่อนเฉินจื่ออาน เป็นคนใช้แรงงานที่มีความสามารถมากที่สุด เมื่อถึงเวลาทำนา ก็จะยุ่งอยู่แต่ในนา เมื่อว่างจากการทำนา ก็ไปล่าสัตว์ในป่า
เงินที่หามาได้ทั้งหมด ล้วนทุ่มไปที่ตัวของเฉินจื่อคัง แต่ว่าตอนนี้ บาดเจ็บที่ขา คนในบ้านเฉินก็ทะเลาะเรื่องแยกครอบครัวทันที
“เรื่องนี้ จื่อคังรู้หรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...