“ไม่รู้”เฉินหลี่ซื่อตอบอย่างรวดเร็ว “จื่อคังไม่สบาย ยังนอนสลบอยู่ จื่ออานอยากจะแยกครอบครัวเอง”
ผู้ใหญ่บ้านขมวดคิ้ว มีผู้ชายอยู่เต็มห้อง เฉินหลี่ซื่อกลับพูดแทรกขึ้นอย่างไม่รู้กาลเทศะ ช่างไร้มารยาทสิ้นดี
แต่ว่า ติดที่นางอายุมาก เขาได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ข้างใน มองไปทางเฉินจื่ออาน “จื่ออาน เจ้าว่าอย่างไร”
จื่ออานเป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถ เขาชื่นชมจื่ออานมาตลอด เพราะฉะนั้น จึงพยายามพิจารณาแทนเขาให้มากหน่อย
เฉินจื่ออานพยักหน้า “เป็นข้าเองที่ต้องการแยกครอบครัวออกไป”
“แต่ว่าหลังจากนี้เจ้า……”
“ไม่เป็นไร”เฉินจื่ออานพูดอย่างเฉียบขาด
“เช่นนั้นก็ได้ ในเมื่อต่างก็ยินดีกันทั้งสองฝ่าย เช่นนั้นพวกเราเริ่มกันโดยเร็วเถอะ”
ทุกคนต่างก็อยู่ในเรือนหลัก ไม่จำเป็นต้องย้ายสถานที่ เพียงแต่หลิวซื่อกับจ้าวซื่อที่ได้ยินข่าวก็รีบเข้ามา หลิวซื่อนั้นเป็นห่วงพวกลู่ม่านอยู่บ้าง แต่จ้าวซื่อนั้นย่อมมาเพราะอยากรู้อยากเห็น
ตาแก่เฉินเอาโฉนดที่นาออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่คนสกุลเฉินสะสมมาหลายชั่วคน
มีนาที่อุดมสมบูรณ์ทั้งหมดหกหมู่ นาที่ใช้ได้ปานกลางสิบหมู่ ยังมีนาที่ตนเองบุกเบิกเป็นนาที่ไม่ค่อยดีนักจำนวนสี่หมู่ รวมทั้งสิ้นเป็นยี่สิบหมู่ ในบ้านมีสี่พี่น้อง ยังมีสองสามีภรรยาตาแก่เฉิน แบ่งกันเป็นห้าส่วน
ที่สุดแล้วตาแก่เฉินก็ยังคงเป็นห่วงชื่อเสียง บอกว่า นาที่อุดมสมบูรณ์มอบให้พวกเขาหนึ่งหมู่ นาที่ใช้ได้ปานกลางให้สองหมู่ นาที่ไม่ค่อยดีนักให้หนึ่งหมู่ ลู่ม่านฟังแล้ว ยังถือว่าเป็นธรรม
แต่เพิ่งจะพูดจบ เฉินหลี่ซื่อก็ปะทุขึ้นมาทันที
“นาที่อุดมสมบูรณ์เดิมทีก็มีแค่หกหมู่ พวกเขาสองคนจะสามารถทำนามากมายขนาดนั้นได้อย่างไร แบ่งไปเช่นนี้ ภายหน้าคนแก่และเด็กในบ้านเราจะเอาอะไรกิน”
ผู้ใหญ่บ้านอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา“พี่สะใภ้ การแยกครอบครัวเดิมทีก็ทำกันเช่นนี้……”
“ข้าไม่เห็นด้วย ”เฉินหลี่ซื่อพูดอย่างเฉียบขาด “หลิ่วเอ๋อของข้าไม่มีอะไรเลย……”
คำพูดนี้ยิ่งทำให้รู้สึกโมโห เฉินหลิ่วเอ๋อเป็นหญิงที่ต้องแต่งงานออกเรือน ตามธรรมเนียมของชาวนา ลูกสาวที่แต่งงานออกเรือนนั้นจะไม่แบ่งทรัพย์สมบัติของบ้านมารดา ยิ่งไปกว่านั้น ในบ้านยังมีพี่น้องมากมายเช่นนี้
เพียงแต่ บางครอบครัวนั้นมีเงิน จะมีการเตรียมสินสอดติดตัวเจ้าสาวจำนวนไม่น้อยเป็นการชดเชย
ตาแก่เฉินโกรธจนหน้าแดง “พูดจาไม่เป็นก็เข้าไปข้างใน พูดเหลวไหลอะไร”
“ข้าไม่อยู่แล้ว”เฉินหลี่ซื่อเริ่มร้องไห้คร่ำครวญอีกแล้ว ครั้งนี้ดูแล้วคงจะเสียดายที่นาของนางจริงๆ ร้องไห้จนน้ำมูกน้ำตาเปื้อนเต็มใบหน้า เฉินหลิ่วเอ๋อก็กอดนางเอาไว้และร้องไห้อย่างไร้สุ้มเสียงพร้อมกับนาง
สุดท้าย ยังคงเป็นเฉินจื่ออานที่เอ่ยขึ้นมาว่า “ที่นาข้าไม่ต้องการ”
“จื่ออาน เจ้าไม่เอาที่นา วันหน้าเจ้าจะกินอะไร”ผู้ใหญ่บ้านถาม
“ท่านอา ท่านไม่ต้องสนใจ”ท่าทีของเฉินจื่ออาน ทำให้ลู่ม่านรู้สึกกังวลในใจ รู้สึกว่า เหมือนเขาจะสูญเสียพลังในการใช้ชีวิตไปแล้ว
นางรีบพูดขึ้นว่า “ท่านอา ข้าขอพูดบ้างได้หรือไม่”
ผู้ใหญ่บ้านได้ยิน ก็เงยหน้ามองไปทางสะใภ้ตัวน้อยที่น่ารัก จะว่าไปแล้วในหมู่บ้านนี้ หลายปีมานี้ก็ไม่เคยพบสะใภ้ที่ดูสวยและฉลาดเลย ดูการพูดจาก็ดูมีกิริยาที่เหมาะสมมาก
โดยเฉพาะ หลังจากที่เฉินจื่ออานได้รับบาดเจ็บที่ขา คนมากมายต่างก็บอกว่า นางต้องหนีไปอย่างแน่นอน แต่ว่า นางไม่เพียงจะไม่หนี ยังคอยดูแลจื่ออานอยู่ในเมืองตั้งนาน
ผู้ใหญ่บ้านรู้สึกชื่นชมนางขึ้นมาบ้างแล้ว จึงพยักหน้าพูดว่า “ได้ ”
“ในเมื่อแยกครอบครัวแล้ว วันหน้าก็มีแต่ข้ากับจื่ออานใช้ชีวิตร่วมกัน จื่ออานบอกว่าไม่เอาอะไรทั้งนั้น ล้วนพูดจากความน้อยใจ แต่ท่านแม่พูดถูก ในบ้านนี้มีคนตั้งมากมาย ถ้าหากแบ่งที่นาไปมากมายขนาดนั้น ก็ยากที่จะใช้ชีวิตได้ ไม่สู้เอาอย่างนี้ นาที่อุดมสมบูรณ์พวกเราไม่เอา นาที่ดีปานกลางพวกเราขอแค่หนึ่งหมู่ ส่วนนาที่ไม่ดีอีกสี่หมู่ก็ให้พวกเราทั้งหมด”
ผู้ใหญ่บ้านนิ่งอึ้ง คิดว่านางเป็นคนที่ไม่เคยทำงานมาก่อน เอ่ยเตือนว่า “นางหนู นาที่ไม่ดีนั้นปลูกพืชผลอะไรไม่ได้เลย……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...