บทที่ 36 พรุ่งนี้เจ้าก็ไปซะเถอะ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 36 พรุ่งนี้เจ้าก็ไปซะเถอะ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
สุดท้ายก็ยังคงเป็นเฉินจื่ออานที่พูดขึ้นว่า “พวกเราย้ายออกไปเอง ”เรื่องนี้จึงถือว่าสิ้นสุดลง
ภายใต้การขอร้องอย่างหนักของลู่ม่าน ยังมีการลงชื่อในหลักฐานการขอแยกครอบครัว แสดงให้เห็นว่า ภายหน้าแม้จะยังคงเป็นญาติกัน แต่ก็เป็นสองครอบครัวแล้ว ต่างก็รับผิดชอบครอบครัวของตนเอง ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องของกันและกันได้
สำหรับเรื่องนี้ ลู่ม่านแสดงออกอย่างชัดเจนว่า นางจะไม่ยุ่งเรื่องของฝั่งนี้อย่างเด็ดขาด เพียงเพราะว่า เรื่องที่นางจะทำในภายหน้ามีมากมาย ไม่อยากให้พวกเขามายุ่ง จึงได้พูดเช่นนี้ ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
หลังจากทำเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างก็ประทับลายนิ้วมือจึงถือว่าสิ้นสุดแล้ว
เพิ่งจะลงลายมือเสร็จ ห้องด้านใจก็มีเสียงดังขึ้น เป็นเสียงของเฉินจื่อคัง
ทำให้เฉินหลี่ซื่อรีบวิ่งเข้าไป ร้องเรียกลูกชายสุดที่รัก “จื่อคังเป็นอย่างไรบ้าง ยังปวดหัวอยู่หรือไม่”
“ท่านแม่ ข้างนอกเอะอะอะไรกัน พวกท่านคุยอะไรกันอยู่”เฉินจื่อคังพูด
“ไม่มีอะไร พี่สามของเจ้าบอกจะแยกบ้าน ก็เลยให้แยกไป”
“หา อยู่พร้อมหน้ากันดีๆ จะแยกบ้านทำไม”เฉินจื่อคังพูด แล้วก็ลงจากเตียง จากนั้นก็เป็นเสียงร้องเตือนของเฉินหลี่ซื่อ
ผู้ใหญ่บ้านเห็นดังนั้น ก็รู้ว่าหลังจากนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวพวกเขาแล้ว จึงลุกขึ้นขอตัวจากไป
ลู่ม่านไม่อยากจะดูเฉินจื่อคังที่เล่นละครตบตา ที่จริงนางรู้สึกสงสัยมากว่าเมื่อครู่เฉินจื่อคังไม่ได้สลบไปจริงๆ เพียงแต่จงใจให้พวกเขาแบ่งทรัพย์สมบัติเสร็จแล้ว ค่อยออกมาและทำเหมือนไม่รู้อะไร
แต่ว่า เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว นางก็ไม่อยากจะสนใจเขา เพราะในที่สุดนางก็แยกบ้านแล้ว ในที่สุดก็ไม่ต้องอยู่ร่วมกับคนพวกนี้แล้ว ชีวิตในวันข้างหน้า มีแต่จะดียิ่งๆขึ้นไป
ลู่ม่านวานให้เฉินจื่อฉายกับเฉินจื่อฟู่หามเฉินจื่ออานออกไป นางกลับไปเก็บข้าวของที่เรือน
เรือนที่พวกเขาอาศัยอยู่ตอนนี้ ก็ไม่ได้มีของดีอะไร ฉะนั้น นางจึงเอาแค่เสื้อผ้าบางส่วน กับผ้าห่มก็ถือว่าเก็บครบหมดแล้ว
ตอนที่ออกมา หลิวซื่อจูงมือเหอฮัวมายืนอยู่หน้าประตู มองพวกเขาอย่างรู้สึกกังวลอยู่บ้าง “ย้ายออกไปเช่นนี้ หลังจากนี้เจ้าจะใช้ชีวิตอย่างไร”
“น้าสาม ข้าไม่อยากให้ท่านไป”
ลู่ม่านเดินเข้าไปลูบหัวของเหอฮัว “ถ้าคิดถึงน้าสาม ก็ไปเยี่ยมได้ ถึงตอนนั้นน้าจะพาเจ้าไปหาของอร่อยๆในป่ากิน”
เหอฮัวพยักหน้า ยื่นมือจะไปรับสิ่งของที่อยู่ในมือนาง “น้าสาม ข้าช่วยท่านถือ”
“ใช่แล้ว พวกเราจะไปส่งเจ้า”หลิวซื่อพูด แผลที่มือของนางสมานกันแล้ว และเริ่มทำงานได้แล้ว
ลู่ม่านกำลังจะบอกว่าไม่เป็นไร ด้านหลังก็มีเสียงแหลมของเฉินหลี่ซื่อดังขึ้น “เมียเจ้าสอง ยังไม่ทำอาหารกลางวันอีกหรือ ทำอะไรอยู่ แอบอู้ไม่ทำงานมาสิบกว่าวัน หรือยังอยากจะให้ยายเฒ่าอย่างข้าปรนนิบัติเจ้า”
สีหน้าของหลิวซื่อซีดลงทันที ลู่ม่านรีบบอกว่า “ไปเถอะ เหอฮัว เจ้าก็ไปช่วยด้วย มือของแม่เจ้ายังไม่หายดี”
เหอฮัวพยักหน้า “น้าสาม เช่นนั้นหากมีเวลาว่างข้าจะไปหาท่าน”
“ได้”ลู่ม่านพูด
ตอนที่ออกมา เฉินจื่อฉายไปหารถเข็นไม้มาได้หนึ่งคัน วางเฉินจื่ออานไว้ข้างบน ลู่ม่านนั้นเข็นอยู่ทางด้านหลัง ลู่ม่านไม่เคยเข็นรถเข็นไม้มาก่อน ตลอดทางก็ทุลักทุเลน่าดู บวกกับก่อนหน้านี้มีฝนตก ในหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลน มีหลุมลึกมาก เดินทางไม่สะดวกเลยสักนิด
ลู่ม่านเกือบจะเซล้มไป ตอนที่เงยหน้าขึ้นเห็นเฉินจื่ออานกำลังมองมาที่นาง จ้องอย่างไม่กะพริบตา ลู่ม่านรีบยิ้มให้เขา
“สนุกดี”
เฉินจื่ออานไม่พูดจา แล้วเบือนหน้าไปทางอื่น
ลู่ม่านรู้สึกกังวลอยู่บ้าง เหมือนว่าหลังจากที่รู้ว่าขาของตนเองไม่มีทางหาย เฉินจื่ออานก็นิ่งเงียบลงไปมาก
เฉินจื่อฉายรู้ว่าเขาเสียใจ จึงเดินเข้ามาตบไหล่เขาเบาๆ “จื่ออาน ครั้งนี้ท่านพ่อท่านแม่ลำเอียงเกินไปจริงๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรพ่อแม่ก็คือพ่อแม่ เข้าก็ปล่อยวางบ้าง”
“อืม”
เห็นว่าเฉินจื่ออานไม่มีชีวิตชีวา เฉินจื่อฉายจึงหาข้ออ้างขอตัวกลับไปก่อน ก่อนจะจากไป ยังทิ้งท้ายไว้ว่า หากจะซ่อมแซมบ้าน ให้เรียกเขา ต้องบอกว่า ผ่านเรื่องราวในครั้งนี้ ลู่ม่านพบว่า เฉินจื่อฉายนั้นไม่เลวเลย
นอกจากชอบต่อยตีกับคนอื่น เพียงแต่ หลายครั้งหลายครา แทบจะเป็นจ้าวซื่อที่หาเรื่องเอง
ที่คิดไม่ถึงคือ เฉินจื่อฟู่จะเป็นคนเกียจคร้านและขอไปที คิดว่าชีวิตภายหน้าของหลิวซื่อกับเหอฮัวคงไม่มีความสุข
ส่ายหน้า ลู่ม่านทิ้งความคิดเล็กน้อยพวกนั้นไป เรื่องอื่นๆปล่อยให้พวกเขาจัดการเองเถอะ อย่างไรเสียก็จัดการเรื่องยุ่งเหยิงของตนเองให้เรียบร้อยก่อน
ลู่ม่านคิดแล้ว จึงเอาเสื้อหนาๆตัวหนึ่งมาคลุมให้เฉินจื่ออาน“จื่ออาน เจ้านั่งอยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะไปเก็บกวาด”
“เสี่ยวม่าน……”เฉินจื่ออานดึงมือของนางเอาไว้ “เงินที่ท่านพ่อให้มาเมื่อครู่เล่า”
ลู่ม่านนิ่งอึ้ง ยิ้มเหมือนจิ้งจอกตัวหนึ่ง “อยู่กับข้า ”ว่าแล้ว นางก็จะหยิบออกมา
เฉินจื่ออานห้ามเอาไว้ “ไม่ต้องเอาออกมา เดิมทีก็เป็นของเจ้าอยู่แล้ว”
ลู่ม่านไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดจริงๆ คิดว่าให้นางเก็บรักษาเอาไว้ จึงพูดว่า “เช่นนั้นก็ไว้ที่ข้าก่อน ข้ามีบางเรื่องต้องใช้พอดี เริ่มต้นปี ที่นาของเราเหล่านั้น……”
“ไม่ต้องบอกข้า”เฉินจื่ออานตัดบทนาง มองไปรอบๆบ้านที่ผุพัง แล้วมองตัวเองที่ผุพังเช่นกัน
เขายิ้มขม และเบือนหน้าไปอีกทาง “วันนี้ค่ำแล้ว พรุ่งนี้เจ้าก็ไปซะเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...