ตอน บทที่ 331 นี่เป็นสิ่งที่เจ้าชื่นชอบหรือ จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 331 นี่เป็นสิ่งที่เจ้าชื่นชอบหรือ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หลายปีก่อน ลู่ม่านเคยฝัน
ลู่ม่านฝันเห็นบ้านหลังหนึ่ง คนในครอบครัวและคนรักต่างก็นั่งล้อมวงกัน เป็นภาพเช่นนี้ มีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่าง คนในฝันนอกจากตนเองแล้ว คนอื่นๆล้วนมองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน
มีเพียงวันนี้ ลู่ม่านเพิ่งจะเห็นหน้าตาของทุกคน
กระทั่งแม่นมเดินเข้ามาพูดว่า “แม่นาง ท่านตื่นแล้วหรือ ฮูหยินบอกว่าวันนี้อากาศดี อยากจะชวนแม่นางไปเดินเล่นด้วยกัน”
ลู่ม่านจึงได้สติคืนมา พบว่าตนเองเผลอคิดไปไกลแล้ว นี่มันใต้เท้ากั๋วกงกับฮูหยินกั๋วกงชัดๆ จะเป็นคนในครอบครัวของตนเองได้อย่างไร
“กินข้าวเช้ากันก่อนค่อยไปเถอะ”ลู่ม่านพูด
วันนี้อารมณ์ดี นางลงมือทำอาหารเช้าที่แสนอร่อยด้วยตนเอง เพราะยังต้องไปเดินเล่น ลู่ม่านจึงทำอย่างรวดเร็ว มีเกี๊ยวไข่ ใช้การตีไข่ให้เข้ากัน จากนั้นก็นำลงไปในกระทะแผ่ให้เป็นแผ่น จากนั้นก็ใส่ไส้กุยช่ายและเนื้อสับ ทำเป็นเกี๊ยวไข่ลูกใหญ่
หลังจากเอาออกจะกระทะ หั่นในจานก็เรียบร้อยแล้ว สีสันสวยมาก และมีสารอาหารสูง
เกรงว่าจะไม่พอกิน ลู่ม่านจึงทำสองชิ้น จากนั้นก็ชงน้ำผลไม้ และชานม จึงนับว่าเสร็จสิ้นทั้งหมด
ฮูหยินกั๋วกงยังคงรู้สึกชอบชานมมาก แต่ใต้เท้ากั๋วกงชอบเกี๊ยวไข่มากกว่า หลังจากกินอิ่มกันแล้ว เฉินจื่ออานก็เล่นหมากหล้อมกับใต้เท้ากั๋วกงต่อ
ที่สำคัญคือฝีมือของเฉินจื่ออานในตอนนี้ยังไม่ดีมาก ใต้เท้ากั๋วกงมักจะชนะทุกครั้งไป ฉะนั้นเขาจึงอารมณ์ดีมาก และดูกระปรี้กระเปร่าไม่น้อย
ลู่ม่านได้ไปเดินเล่นกับใต้เท้ากั๋วกง
ไม่กล้าไปสถานที่ที่ไกลมาก ลู่ม่านพาไปเดินเล่นรอบๆป่าไผ่ ในฤดูกาลนี้ ในป่าไผ่มีนกเยอะมาก มีเสียงนกร้องอันไพเราะดังกังวานไปทั่ว
แม่นมพูดยิ้มๆว่า “ที่นี่บรรยากาศดีกว่าสวนดอกไม้ของจวนกั๋วกงเสียอีก”
“นี่ก็คือชีวิตของเจ้าหรือ”ทันใดนั้นฮูหยินกั๋วกงก็ถามขึ้น ลู่ม่านนิ่งอึ้งไป จากนั้นก็ตอบรับว่า “นับว่าใช่เจ้าค่ะ”
“เจ้าชอบหรือไม่”
ลู่ม่านรู้สึกว่าฮูหยินกั๋วกงเหมือนจะมีคำถามต้องการจะถามนางอยู่ตลอดเวลา นางรู้สึกไม่เข้าใจ จึงตอบไปตามความจริงว่า “ข้าชื่นชอบมาก”
ชีวิตในอุดมคติเช่นนี้ ไม่รู้ว่ามีคนตั้งเท่าไหร่ในยุคปัจจุบันต่างรู้สึกอิจฉา ทำไมนางจะไม่ชอบเล่า
“แล้ว ……ถ้าหากมีวันหนึ่ง เจ้าพบว่าเจ้าไม่ได้เป็นคนของที่นี่ เจ้าจะเสียใจหรือไม่”
คำถามนี้ ยิ่งทำให้รู้สึกประหลาดใจ หัวใจกระตุก คงไม่ใช่ว่าพวกนางรู้ว่าตนเองไม่ใช่คนของที่นี่ แต่ทะลุมิติเวลามาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดกระมัง
แต่จะเป็นไปได้อย่างไร นางแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเชียวหรือ
พยายามสงบจิตใจของตนเอง ลู่ม่านจึงพูดขึ้นว่า “ไม่เสียใจ”จะเสียใจอะไร ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดนางไม่มีครอบครัว มีเพียงชายสารเลวที่นอกใจ นางไม่มีทางเสียใจแน่
ฮูหยินกั๋วกงนิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดยิ้มๆว่า “ช่างน่าสนใจจริงๆ”
ทุกคนเดินวนอยู่หนึ่งรอบ ฮูหยินเหนื่อยแล้ว พวกนางจึงเดินทางกลับ
รอจนกระทั่งช่วงบ่ายพวกเขาต่างก็พักผ่อนกันหมดแล้ว ลู่ม่านก็พูดกับเฉินจื่ออาน “ใต้เท้ากั๋วกงได้คุยอะไรกับท่านหรือไม่”
เฉินจื่ออานส่ายหน้า “ไม่มีนี่นา พวกเราเล่นหมากล้อมกันตลอด”แต่ว่า พูดถึงหมากล้อม เฉินจื่ออานรู้สึกโมโหมาก ฝีมือการเล่นหมากล้อมของเขาเพิ่งจะทำการฝึกฝนภายหลังนี้เอง เข้าใจอยู่เล็กน้อย ฉะนั้น จึงเล่นได้แย่มาก
หลังจากเล่นหมากล้อมกับใต้เท้ากั๋วกงแล้ว แม้เข้าจะพยายามเต็มที่ก็ยังแพ้อย่างไม่น่าให้อภัยอยู่ดี
“ทำไมจึงได้น่าประหลาดใจเช่นนั้น”ลู่ม่านพึมพำ
ลู่ม่านพยักหน้า ในบ้านยังมีแขกอยู่จึงไม่ได้เชิญให้พวกเขาอยู่ต่อ ลู่ม่านจึงเดินไปส่งพวกเขา
เมื่อออกจากประตูใหญ่ ท่านอู๋จึงพูดว่า “เห็นแก่ที่ข้ามาช่วยเจ้าทั้งที่อยู่ห่างไกลกันมาก จำไว้นะว่าต้องทำของอร่อยๆให้ข้า”
“วางใจได้ จะขาดของท่านได้อย่างไร”ลู่ม่านพูดยิ้มๆ
ตอนนี้ลู่ม่านไม่มีเวลาออกไปเก็บดอกเก๊กฮวยป่าแล้ว แต่ว่าในหมู่บ้าน หลังจากที่ลู่ม่านรู้ตัวว่าปีนี้ตนเองทำไม่ได้ จึงได้มอบหมายสิ่งเหล่านี้ให้เหยาซื่อเป็นคนสอนคนอื่นในหมู่บ้าน
ตอนนี้คนในหมู่บ้านเมื่อว่างเว้นจากงาน ก็จะไปเก็บดอกเก๊กฮวยป่ามาขาย
ลู่ม่านก็ไปเก็บกลับมาบางส่วน ฉวยโอกาสขณะที่พวกเขายังคงหลับกันอยู่ทำการนิ่งและตากแห้งเอง จากนั้นก็เก็บเอาไว้
พวกฮูหยินกั๋วกงพักอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์กว่า ในที่สุดหลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ เมืองหลวงก็มีข่าวมาส่ง เรียกตัวใต้เท้ากั๋วกงกลับไป
ก่อนจะจากไป ฮูหยินกั๋วกงกุมมือของลู่ม่านเอาไว้ อยากจะพูดแต่พูดไม่ออก ลู่ม่านมอบเหล้าและเก๊กฮวยป่าที่ตนเองเตรียมเอาไว้ให้แม่นม
อีกทั้งยังบอกวิธีการในการต้มชาเก๊กฮวย หรือการนำเก๊กฮวยป่ามารมควันดวงตากับแม่นมด้วย จากนั้นจึงส่งพวกเขาขึ้นรถม้า
ฮูหยินกั๋วกงได้ถอดกำไลข้อมือของตนเองออกมายัดใส่มือของลู่ม่าน “ถือเสียว่าเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ”
ลู่ม่านมองกำไลข้อมือ ก็รู้ว่าเป็นของล้ำค่าจึงไม่กล้ารับไว้ แต่รถม้าได้จากไปไกลแล้ว ลู่ม่านได้แต่เก็บเอาไว้ก่อน
ที่จริงคนนั้นน่าประหลาดมาก แม้ว่าผู้อาวุโสทั้งสองจะอยู่ที่นี่ไม่กี่วัน หลังจากพวกเขาไปแล้ว ลู่ม่านก็เกิดรู้สึกอาลัยอาวรณ์ขึ้นมาอยู่บ้าง
โดยเฉพาะหลังกลับเข้าไปในบ้าน ในลานบ้านก็เหลือคนไม่กี่คนไม่มีชีวิตชีวาเลยสักนิด นางก็ยิ่งรู้สึกอาลัยอาวรณ์มากขึ้นไปอีก
อีกอย่าง ความรู้สึกเช่นนี้ นางสามารถรับรู้ได้ว่ามาจากก้นบึ้งของจิตใจ ที่นั่น ไม่เหมือนความรู้สึกของนางเลยสักนิด หรือว่าจะเป็นของเจ้าของร่างเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...