บทที่ 335 ขอสินสอดติดตัว – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 335 ขอสินสอดติดตัว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ปกติแล้วอาจารย์โจวจะปฏิบัติต่อผู้อื่น โดยการทำให้รู้สึกโมโหจนแทบจะทนไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ม่านเห็นเขาอยู่ต่อหน้าหญิงสาว แล้วโมโหจนหน้าแดงเถือกไปหมด
ชั่วขณะนั้น ก็รู้สึกสนใจในตัวของแม่นางเยาคนนี้ขึ้นมา
เหมือนแม่นางเยาราวกับจะดูออกว่าลู่ม่านกำลังสังเกตนาง จึงยิ้มเขินอายให้กับลู่ม่าน “เจ้าก็คือแม่นางลู่ซินะ”
ลู่ม่านคิดไม่ถึงว่านางจะรู้จักตนเองด้วย จึงพูดอย่างประหลาดใจว่า “ผู้อาวุโส ท่านรู้จักข้าด้วยหรือ”
“กลิ่นน้ำหอมที่เจ้าทำขึ้นใช้ได้ทีเดียว นับว่ามีพรสวรรค์ เพียงแต่ การบีบคั้นให้น้ำดอกไม้ออกมาเช่นนั้น ดูจะไร้รสนิยมอยู่บ้าง”
ไร้รสนิยม ……
ลู่ม่านไร้คำพูด
ในยุคปัจจุบัน มีแบรนด์น้ำหอมระดับโลกมากมาย ก็ใช้วิธีการนี้อย่างแพร่หลายมาก คิดไม่ถึงว่า ในสายตาของหญิงสาวที่งดงามคนนี้ จะเป็นความไร้รสนิยม
“ข้านั้นไร้รสนิยม เทียบกับผู้อาวุโสไม่ได้”ลู่ม่านพูด
“ฮึ”แม่นางเยาทำเสียงในลำคอ แล้วพูดว่า “แต่ครีมทานั้นใช้ได้เลย”
ลู่ม่านเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ถุงที่นางมอบให้กับท่านอู๋เมื่อครู่ บอกว่าเป็นของบำรุง และยังมีสิ่งที่ท่านอู๋พูดถึง ว่าที่จริงแล้วนางเองก็อายุมากแล้ว
หลังจากมั่นใจแล้ว แววตาของลู่ม่านก็แวววาวขึ้นมาทันที
“ผู้อาวุโส ท่านศึกษาทางด้านนี้ใช่หรือไม่”
“ไม่”แม่นางเยาพูด “เพียงแต่ปกติแล้วชื่นชอบการปลูกดอกไม้เท่านั้นเอง”
ถึงว่า เมื่อครู่ตอนที่นางมาถึง ตัวนางเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ และไม่แปลกใจเลย ที่นางบอกว่าการทำน้ำหอมเช่นนั้น ไร้รสนิยมเกินไป
สำหรับตัวนาง ล้วนใช้ดอกไม้สดในการรมตนเองให้หอมอย่างเป็นธรรมชาติ จะรู้สึกว่าไร้รสนิยมก็พอจะทำความเข้าใจได้
“พี่เสี่ยวม่าน ท่านจะหาคนปลูกดอกไม้มิใช่หรือ”เหอเยว่พูด
ลู่ม่านพยักหน้า ก็กำลังหาคนปลูกดอกไม้ไง ผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้านี้ ดูแล้วจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมาก แต่ว่าลู่ม่านยังต้องคำนึงถึงความรู้สึกของอาจารย์โจวด้วย จึงไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร
แต่กลับเป็นแม่นางเยา ที่ความสามารถในการได้ยินดีเยี่ยมมาก คาดว่าคงเป็นเพราะเป็นคนฝึกวรยุทธ ได้ยินสิ่งที่เหอเยว่พูดพอดี
จึงพูดขึ้นทันทีว่า “พวกเจ้าจะหาคนปลูกดอกไม้หรือ”
ลู่ม่าน “……ใช่”
“ข้าเป็นไง”แม่นางเยาพูดยิ้มๆ แล้วหันไปมองอาจารย์โจวที่ยังคงทำหน้าบึ้งตึงอยู่ “ท่านคิดว่าอย่างไร”
“ไม่ดี”อาจารย์โจวพูดเสียงเย็น “หุบเขาไป่ฮัวของเจ้า ไม่ต้องดูแลแล้วหรือ”
อาจารย์โจวเพิ่งจะพูดจบ แม่นางเยาก็ยิ่งหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ที่แท้ ท่านกำลังเป็นห่วงข้าหรือ ไม่ต้องเป็นห่วง หุบเขาไป่ฮัวของข้าเป็นสถานที่ที่ดีมาก แม้จะไม่มีคนดูแล ดอกไม้เหล่านั้นก็ยังอยู่ดี”
ลู่ม่านรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมา หมู่บ้านไป่ฮัวแม้ว่าจะหมายถึงหมู่บ้านดอกไม้มากมาย แต่ได้สูญเสียดอกไม้ไปหลายชนิด ตั้งแต่เกิดสงครามตั้งนานแล้ว
ตอนนี้ในหมู่บ้านไป่ฮัว ไหนเลยจะยังเรียกขานเช่นนั้นได้อีก เพียงแต่ทุกคนเรียกกันจนชินแล้ว เท่านั้นเอง
แต่เมื่อครู่ตอนที่ได้กลิ่นหอมจากตัวหญิงคนนั้น หุบเขาไป่ฮัวของนางต่างหากที่เป็นสถานที่ที่มีดอกไม้มากที่สุด
“นังหนู เจ้าพบแล้วใช่ไหมว่าข้าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการปลูกดอกไม้ใช่หรือไม่”
แม่นางเยายังมีวิชาอ่านใจคนด้วย ลู่ม่านแค่คิดก็ถูกนางมองออกแล้ว มองไปทางอาจารย์โจวอย่างขออภัย อาจารย์โจวพูดเสียงเย็นว่า “ถ้าให้นางอยู่ ข้าจะไป”
เห็นไหม ลู่ม่านรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้
“ท่านเฉิงอู่ ท่านคงไม่ได้แอบหลงรักข้าอยู่กระมัง”แม่นางเยาพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
ชิ อย่างนี้ก็ดี ขอเพียงอาจารย์โจวไม่จากไปไหน ลู่ม่านคิดว่าล้วนดีทั้งนั้น ส่วนทางด้านแม่นางเซวียน ต้องหาโอกาสไปคุยกับนางซะหน่อย
หลังจากอุปสรรคเล็กๆนี้ผ่านไปแล้ว อาจารย์โจวก็ยิ่งเพิ่มความเร็ว มุ่งไปทางหมู่บ้านไป่ฮัว
เมื่อพวกลู่ม่านกลับไปถึงบ้าน รถม้าของเฉินหลี่ซื่อยังคงจอดอยู่หน้าประตูบ้าน ไม่ได้จากไปไหน
ลู่ม่านเดินเข้าไปถามตาเกา“เฉินจื่ออานกลับมาหรือยัง”
“นายท่านกลับมาแล้วขอรับ กำลังคุยกับฮูหยินเฒ่าอยู่ในห้องโถง คุณท่านก็มาด้วย……”
เอาล่ะ ตอนนี้คงวุ่นวายน่าดูเลย ลู่ม่านคิด “ข้าจะไปดูเสียหน่อย”
ลู่ม่านเพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงยินดีของเฉินหลี่ซื่อที่พูดขึ้นว่า “ไม่ง่ายเลยที่ครั้งนี้หลิ่วเอ๋อจะได้รับการทาบทามกับตระกูลที่ดีเช่นนี้ บ้านนั้นแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ใช่ขุนนาง แต่ก็นับว่าเป็นเศรษฐีระดับต้นๆของอำเภอเฟิงหนาน คุณชายบ้านนั้น ได้ยินมาว่ากำลังเตรียมจะสอบในฤดูใบไม้ผลิในอีกสามปีเช่นกัน ถึงตอนนั้น ถ้าหากสอบผ่านแล้ว ไม่แน่หลิ่วเอ๋อของพวกเราก็กลายเป็นนายหญิงขุนแล้ว”
เฉินหลิ่วเอ๋อหาคู่ได้แล้วหรือ ลู่ม่านคิดว่าชาตินี้นางคงจะคิดไม่ได้เสียแล้ว
“ลูกเป็นอย่างไรบ้าง”ตาแก่เฉินพูดเสียงขรึม “ได้ข่าวหรือไม่”
เฉินหลี่ซื่อเริ่มไม่สนใจตาแก่เฉินอีกแล้ว ตอบอย่างไม่ไยดีว่า “ข้าเป็นแม่ของหลิ่วเอ๋อ ข้าจะทำร้ายนางได้อย่างไร อีกอย่าง เรื่องนี้จื่อคังเป็นคน……”
พูดถึงตรงนี้ เฉินหลี่ซื่อก็ชะงักไป หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง นางก็แค่ปากไวพูดชื่อของเฉินจื่อคังออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
หมายความว่า การแต่งงานครั้งนี้เฉินจื่อคังเป็นคนเลือกให้หลิ่วเอ๋อ ถึงว่าเฉินหลี่ซื่อจึงได้เห็นดีเห็นงามด้วย ในใจของนาง คิดอยู่เสมอว่าคนที่เป็นห่วงนางที่สุดก็คือเฉินจื่อคังกระมัง
โง่ได้โล่จริงๆ ……
แต่ว่า ในเมื่อเฉินจื่อคังคุยเรียบร้อยแล้ว เฉินหลี่ซื่อจะมาหาเฉินจื่ออานทำไม ขณะกำลังใช้ความคิด เฉินหลี่ซื่อก็เอ่ยขึ้น
“ไม่ง่ายเลยที่หลิ่วเอ๋อจะคิดได้ และยังได้แต่งงานกับคนดีๆ เจ้าเป็นพี่ชายของหลิ่วเอ๋อ ตอนนี้ในตระกูลเฉินของเราเจ้ามีฐานะดีที่สุด จื่ออาน สินสอดติดตัวของหลิ่วเอ๋อ……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...