ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 349

สรุปบท บทที่349 เสียดายลูกก็จับหมาป่าไม่ได้: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอน บทที่349 เสียดายลูกก็จับหมาป่าไม่ได้ จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่349 เสียดายลูกก็จับหมาป่าไม่ได้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เหอเย่วยังคิดไม่ได้ ลู่ม่านก็เดินเข้าทางตันไปแล้ว จากนั้นก็มีพวกนักเลงเข้ามาล้อมตัวนางไว้

“หึๆๆ น้องสาวจะไปไหนเหรอจ๊ะ?”

เหอเย่วสีหน้าเปลี่ยนไป “พวกเจ้าจะทำอะไร?”

“ทำอะไรงั้นเหรอ? ก็ต้องมาขโมยแล้วค่อยจับเจ้าทำเมียน่ะสิ!” นักเลงหัวโจกลูบคางแล้วพูดจาสับปลับ

“บังอาจ!” เหอเย่วตะคอก มองดูลู่ม่านอย่างลนลาน ไม่รู้ว่าลู่ม่านคิดจะทำอะไรกันแน่

แต่ลู่ม่านกลับดูใจเย็นมาก มองดูคนพวกนี้ด้วยสายตาเย็นชา

ทั้งสามเห็นแล้วก็ล้อมวงเข้ามา “บังอาจอะไรกัน? ไม่บังอาจแล้วจะมาเล่นกับหญิงงามแบบนี้ได้ยังไง?”

พวกเขาว่าแล้ว ก็ยื่นมือไปที่เหอเย่ว

เหอเย่วจับมือคนผู้นั้นกำลังจะบิดสุดแรง ลู่ม่านที่อยู่ด้านหลังก็ส่ายหน้าให้นาง นางขมวดคิ้ว มองดูอีกคนยื่นมือไปหาลู่ม่าน

ทันใดนั้นก็มีคนพุ่งเข้ามาในตรอกซอยนี้ จนถึงตอนนี้ ลู่ม่านก็ถึงกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ

“พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”

เหอเย่ว “……”

คนที่พุ่งเข้ามาก็ต่อยพวกนักเลงจนร้องขอชีวิต พวกนั้นได้โอกาสก็รีบวิ่งหนีออกจากตรอกซอย

ผู้ชายคนนี้ก็รีบเดินเข้ามา โค้งคำนับลู่ม่านอย่างมีมารยาท “คุณหนูเป็นอะไรหรือไม่?”

“ขอบใจคุณชายมาก!” ลู่ม่านที่อยู่ใต้ผ้าปิดหน้า พูดบีบเสียงเหมือนหญิงผู้ดี

เหอเย่วก็ดูออกว่า คนคนนี้ก็คือคุณชายที่หมั้นอยู่กับเฉินหลิ่วเอ๋อ นั่นก็คือฉินเหิงที่ยายชุยพูดถึง!

“สำเนียงของคุณหนูดูจะไม่ใช่คนในท้องถิ่น? ถึงแม้อำเภอเฟิงหนานจะสวย แต่คุณหนูพาแค่สาวรับใช้ออกมาเที่ยว ต้องระวังหน่อยนะขอรับ”

“คุณชายพูดถูก แต่ข้ามาจากเมืองหลวง ว่าจะมาเที่ยวชมบรรยากาศงามในอำเภอเฟิงหนาน ไม่อยากให้คนมาดูแลเยอะ……ถ้ามีคนในพื้นที่พาเที่ยวก็คงจะดีมาก”

ฉินเหิงได้ยินแล้วก็ตาเป็นประกาย รีบแนะนำตัวเองทันที “หากคุณหนูไม่รังเกียจ ข้าเป็นคนพื้นที่สามารถนำเที่ยวได้”

ลู่ม่านได้ยินแล้วก็แกล้งทำเป็นลังเล “แต่ว่า ยังไงคุณชายก็เป็นผู้ชาย ชายหญิงอยู่ใกล้ชิดกันมากจะดูไม่งาม……”

ฉินเหิงอึ้ง คงจะผิดหวังที่คุณหนูคนนี้ไม่หลงเสน่ห์ของเขา

ลู่ม่านเห็นแล้ว ก็ตั้งใจพูดว่า “แต่ว่า คุณชายแตกต่างกันออกไป คุณชายเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ต่อไปรอข้ากลับจวนอ……”

ยังพูดคำว่าจวนอ๋องไม่จบ ลู่ม่านก็อึ้ง ทำท่าเหมือนพูดอะไรผิด

เห็นได้ชัดว่าฉินเหิงมีท่าทีดีใจ แต่เขาก็ฉลาดทำเป็นไม่ได้ยิน

นัดออกไปด้วยกันตอนบ่าย ลู่ม่านก็ถึงกลับไป

รอกลับถึงโรงเตี๊ยม เหอเย่วก็นึกขึ้นมาได้ว่า ก่อนหน้านี้ยายชุยเคยบอกว่า การเจอกันของฉินเหิงกับคุณหนูชุยเป็นเพราะฉินเหิงเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยคุณหนูชุย ถึงว่าเมื่อกี้ลู่ม่านถึงตั้งใจให้ฉินเหิงมาช่วย

แต่ว่า……

เหอเย่วคิดแล้วก็ชะงัก “ไม่สิ พี่เสี่ยวม่าน พี่รู้ได้ยังไงว่าคุณชายฉินตามอยู่ข้างหลัง และพี่รู้ได้ยังไงว่าพวกนักเลงจะมา จากนั้นคุณชายฉินก็จะมาช่วย?”

“เจ้าคิดว่าไงล่ะ?” ลู่ม่านถามกลับ

เหอเย่วครุ่นคิด ทันใดนั้นก็เบิกตาโพลง “หรือว่าที่คุณชายฉินเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยคุณหนูชุย ที่จริงแล้วเป็นการจัดฉากของคุณชายฉินทั้งหมด?”

ไม่นาน ก็มาถึงตอนบ่ายแล้ว ลู่ม่านไปตามนัดที่นัดไว้กับฉินเหิง จากนั้นก็บอกว่าอยากไปเดินเล่นด้วยกันบนเขา

อำเภอเฟิงหนานอยู่ในพื้นที่เนินเขา ภูเขาที่ว่าก็คือเนินดินที่ก่อตัวขึ้นค่อนข้างสูงเท่านั้น มีคนชอบขึ้นไปเล่นบนเขา ก็เลยมีถนนเส้นเล็กให้ไป

ฤดูกาลนี้บรรยากาศสวยมากที่สุดพอดี

ฉินเหิงอยากไปอยู่แล้ว เขาคิดว่าคนตรงหน้าคือหว่านถิงจวิ้นจู่ ดังนั้นหลังจากที่กลับไปแล้ว เขาก็สืบหาอยู่นานมาก รู้ว่าหว่านถิงจวิ้นจู่ไม่เพียงแต่เป็นน้องรักของอ๋องหนิง แถมยังเป็นโสดอยู่ด้วย

ถ้าเขาคว้าหัวใจของหว่านถิงจวิ้นจู่มาได้ ใครยังจะเอาน้องสาวสามีของอันเหรินอะไรนั่นอีกล่ะ?

คิดได้แบบนี้ เขาก็รีบใช้โอกาสตอนขึ้นภูเขา พยายามหาทางสร้างความสัมพันธ์กับ ‘หว่านถิงจวิ้นจู่’

พอมาถึงภูเขา บรรยากาศดีมากจริงๆ ลู่ม่านก็คิดว่าเดี๋ยวรอวันว่างๆน่าจะพาเฉินจื่ออานขึ้นมาเล่นบนนี้ ฉินเหิงแนะนำดอกไม้ต้นไม้ของอำเภอเฟิงหนานให้ลู่ม่านอย่างกระตือรือร้น

ลู่ม่านแกล้งทำท่าศรัทธาในตัวเขา เหมือนดั่งหญิงสาวไร้เดียงสา ทำเอาฉินเหิงหวั่นไหว

ไม่นาน ฉินเหิงก็พูดแนะนำว่า “คุณหนู บรรยากาศที่นี่ไม่ได้สวยมาก ข้างหน้ามีลำธารภูเขา บรรยากาศที่นั่นสวยกว่านะ”

เหอเย่วที่ตามหลังมาก็ขมวดคิ้ว รีบพูดว่า “คุณหนู ที่นั่นอันตรายเกินไปเจ้าค่ะ?”

เหอเย่วไม่ไว้ใจฉินเหิงจริงๆ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้รู้ว่าฉินเหิงตั้งใจจัดฉากหลอกคุณหนูชุย

แต่ลู่ม่านรู้ประโยคหนึ่งว่า ‘เสียดายลูกก็จับหมาป่าไม่ได้’ ในเมื่อตัดสินใจจัดการฉินเหิงให้เร็ว ก็ต้องเล่นตามน้ำไป

ฉินเหิงก็รีบอธิบายว่า “คุณหนู ข้าพาท่านไปที่นั่น ไม่อันตรายหรอก มีข้าอยู่ด้วยทั้งคน!”

จิ๊! คำพูดแบบนี้ถ้าเป็นพวกหญิงสาวไร้เดียงสา อาจจะใจเต้นตึกตักก็ได้ ผู้ชายเลวๆรู้ใจของสาวน้อยจริงๆเลยนะ

แต่น่าเสียดาย ลู่ม่านรู้กลพวกนี้ทัน คำพูดแบบนี้ไม่เป็นผลอะไรกับนางด้วยซ้ำ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน