ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 351

สรุปบท บทที่ 351 มายกเลิกงานแต่งถึงที่: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

บทที่ 351 มายกเลิกงานแต่งถึงที่ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 351 มายกเลิกงานแต่งถึงที่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หลังจากขึ้นไปแล้ว ลู่ม่านก็พูดว่า “พรุ่งนี้ข้าจะกลับเมืองหลวงแล้ว รอให้ข้ารายงานเรื่องนี้กับท่านแม่และพี่ชายเสร็จ จะต้องมาหาเจ้าที่นี่อย่างแน่นอน…”

ทันทีที่ได้ยินฉินเหิงก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมา "จวิ้นจู่ ท่านจะไปแล้วรึ?"

ร้อนรนขนาดนี้เชียว? แม้แต่สถานะของนางก็ยังพูดออกมาหมด ลู่ม่านเกือบจะหัวเราะแล้ว แต่ก็ยังกลั้นหัวเราะเอาไว้ได้ ก่อนจะพูดด้วยความประหลาดใจว่า “คุณชายฉิน เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?”

ฉินเหิงรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว "จวิ้นจู่ เมื่อครู่นี้ข้าได้ยินท่านกับสาวใช้ลอบคุยกันลับ ๆ ถึงเพิ่งได้รู้ที่ไม่ทันได้บอกจวิ้นจู่ตอนนั้น เพราะข้าไม่อยากให้สถานะของจวิ้นจู่ก่อให้เกิดความเหินห่าง อันที่จริง ตั้งแต่ข้าได้เห็นจวิ้นจู่เพียงแวบแรก ข้าก็ตกหลุมรักจวิ้นจู่ตั้งแต่แรกพบแล้ว!”

ผู้ชายเจ้าชู้นี่ช่างเก่งเรื่องพูดจาเสียไพเราะมาหลอกลวงผู้คนจริง ๆ เลยนะ

ลู่ม่านไม่ได้พูดอะไรอีก แต่จู่ ๆ ฝ่ายฉินเหิงกลับยิ่งได้คืบจะเอาศอกขึ้นเรื่อย ๆ

“จวิ้นจู่ ข้ายังไม่รู้เลยว่าหน้าตาของท่านเป็นอย่างไร”

“บังอาจ!” เหอเย่วตวาดอย่างรวดเร็ว ถ้าให้เขาเห็นมันจะไม่เป็นเรื่องขึ้นมารึ? แม้ว่าลู่ม่านจะมีการปลอมแปลงใบหน้าไปบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องระวังตัวเอาไว้หน่อย

"ใบหน้าของจวิ้นจู่เป็นสิ่งที่จะเปิดเผยให้เจ้าดูได้ตามใจชอบรึ?"

“หุบปาก!” ลู่ม่านเอ่ยเสียงดุ “คุณชายฉินเป็นคนที่เจ้าสามารถสอดปากด่าได้แบบนี้หรือ?”

เหอเย่วรีบก้มหัวลง “ขออภัยเจ้าค่ะ จวิ้นจู่”

ฉินเหิงพูดด้วยท่าทางโอบอ้อมอารีมีเมตตาว่า “จวิ้นจู่ เป็นเพราะสาวใช้คิดถึงความปลอดภัยของท่าน เช่นนั้นก็ช่างมันเถอะนะ เป็นข้าผู้แซ่ฉินเองที่หุนหันพลันแล่นจนเกินไป จวิ้นจู่เป็นสตรีที่เพียบพร้อม จะต้องงดงามราวกับดอกไม้แรกแย้มเป็นแน่”

ลู่ม่านยกยิ้มอย่างเขินอาย “ก็ไม่ใช่ว่าไม่สามารถเผยให้คุณชายฉินดูได้หรอกนะ แต่เพราะเรื่องของพวกเรายังไม่ได้กำหนดชัด รออีกสักสองสามวัน ให้ท่านแม่และพี่ชายของข้าได้รู้แล้ว ค่อยเผยให้ดูก็ยังไม่สายเกินไป"

“ได้!” หลังจากฉินเหิงพูดจบ ก็ไปส่งลู่ม่านกับเหอเย่วกลับไปยังโรงเตี๊ยมอย่างระมัดระวัง ก่อนจะจากไป

รอจนฉินเหิงจากไปแล้ว ลู่ม่านค่อยถอดผ้าคลุมหน้าออก ก่อนจะสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดลึก ๆ ไปเฮือกหนึ่ง “ทำข้าอึดอัดแทบตายเลย”

เหอเย่วเม้มปากก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายฉินคนนี้เชื่อทั้งแบบนี้เลยหรือเจ้าคะ?”

“เกรงว่ามันจะไม่ง่ายขนาดนั้นน่ะสิ!” ลู่ม่านตอบ “ข้าเกรงว่าเขาอาจจะไปขอให้คนที่มีสายสัมพันธ์ช่วยตรวจสอบสถานการณ์ของจวิ้นจู่หว่านถิงก็ได้ ไม่อย่างนั้นเขาที่เป็นผู้ชายเศษสวะมาตั้งนานหลายปีขนาดนี้ ทำไมถึงไม่เคยถูกพบตัวมาก่อนเลยล่ะ?”

“หา? ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะ?” เหอเย่วถามอย่างกังวล

“ไม่เป็นไรหรอก พวกเราเขียนจดหมายส่งให้หว่านถิงแล้วไม่ใช่หรือ? นางต้องหาทางช่วยข้าแก้ไขจนได้แน่”

หลังจากกลับไป ลู่ม่านคิดว่าน่าจะต้องรอข่าวคราวอยู่ที่นี่อีกสักสองสามวัน ตาแก่เฉินรั้งอยู่ในตัวอำเภอก็รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ จึงตรงกลับบ้านไปเลยทันที

ในเวลาเดียวกัน จวิ้นจู่หว่านถิงที่อยู่ในเมืองหลวงได้รับจดหมายจากลู่ม่าน เมื่อได้อ่านความคิดของ ลู่ม่าน นางก็ถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่อีกใจหนึ่งกลับเกิดความรู้สึกว่ามันคือการสร้างวีรกรรมอันกล้าหาญขึ้นมาอย่างที่ตัวเองก็อธิบายไม่ถูก

จากนั้นก็เรียกคนรับใช้ในบ้านให้ไปเตรียมตัวทันที ถึงค่อยรู้สึกจิตใจสงบลงมาได้

รอจนฉินเหิงจ่ายเงินให้ใครบางคนไปที่เมืองหลวงเพื่อทำการตรวจสอบ ก็ได้รู้ว่าก่อนหน้านี้จวิ้นจู่หว่านถิงได้ออกจากเมืองหลวงไประยะหนึ่ง เพิ่งจะกลับมาเมื่อไม่กี่วันก่อน จากนั้นมีข่าวลือออกมาว่านางมีคนที่ต้องใจแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น อ๋องหนิงและพระชายาเฒ่าหนิงก็เตรียมตัวออกเดินทางกันพร้อมแล้ว

จากเมืองหลวงไปยังอำเภอเฟิงหนาน จำเป็นต้องใช้เวลาเดินทางอย่างเร็วที่สุดคือสองวัน ตอนที่ฉินเหิงคนนี้ได้รับข่าวคราว เวลาก็กระชั้นจนเกือบจะไม่ทันการณ์อยู่แล้ว

ในเวลานั้น ลู่ม่านที่อยู่บ้านว่าง ๆ ก็พาเหอเย่วไปที่ทุ่งดอกไม้ร้อยไร่นั้นอย่างสบายอกสบายใจ แม่นางเยาผู้นี้เป็นคนที่ทำอะไรได้รวดเร็วดีมาก หลังทำการแบ่งคัดแยกเสร็จสรรพ นางก็เริ่มเพาะเมล็ดดอกไม้ลงดินแล้ว

ในเวลาเพียงไม่กี่วัน เมล็ดพันธุ์ดอกไม้ก็เติบโตงอกเงยขึ้นมาเป็นหน่ออ่อนขนาดเล็ก ๆ แล้ว

เมื่อมองจากที่ไกล ๆ จะดูเป็นสีเขียวขจีไปทั้งผืน ลู่ม่านแทบจะจินตนาการภาพตรงหน้าออกเลยว่า ปีหน้าที่นี่จะต้องมีดอกไม้สีสันสดใส บานสะพรั่งจนแน่นขนัดอย่างแน่นอน

ไม่เพียงแค่นั้น แม่นางเยายังเสนอวิธีการหนึ่งที่ดีมาก ๆ ให้กับลู่ม่าน คือการสอนให้ลู่ม่านทำน้ำกลั่นบริสุทธิ์ซึ่งมีความเข้มข้นมากจากดอกกุหลาบ ด้วยน้ำกลั่นบริสุทธิ์จากกุหลาบนี้ น้ำหอมที่ลู่ม่านทำออกมา ก็จะมีระดับชั้นความหอมที่เข้มข้นขึ้น

ยังดีที่ในที่สุดพวกฉินเหิงก็มาถึงเสียที เขาพาเฉินหลิ่วเอ๋อกับเฉินหลี่ซื่อเข้ามา กระทั่งหยวนซื่อก็ยังมาด้วย นางคงจะคิดว่าที่นี่มีเรื่องอะไรดี ๆ ล่ะสิ? เพราะถึงอย่างไร นางก็เป็นพวกที่ทำอะไรก็หวังให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ด้วยอยู่แล้ว

ตอนที่เฉินหลี่ซื่อกับเฉินหลิ่วเอ๋อลงจากรถ ใบหน้ายังคงประดับด้วยรอยยิ้มไม่จางหาย

ดู ๆ ไปแล้วเหมือนว่า ฉินเหิงจะไปหลอกพวกเขาให้มาที่นี่เลยตรง ๆ โดยไม่ได้พูดเรื่องการยกเลิกงานแต่งให้ฟังก่อน หลังจากเข้ามาแล้ว เฉินหลี่ซื่อถึงกับเดินตรงเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าฮูหยินฉิน ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า

“ฮูหยินฉิน ทำไมถึงมาที่หมู่บ้านกันดารนี้เสียล่ะ? หลิ่วเอ๋อกับข้ารออยู่ที่บ้านในตัวอำเภอมาตลอดเลย อันที่จริง ตรงไปคุยกับพวกเราที่นั่นเลยโดยตรงก็เหมือนกันนั่นล่ะ!”

ไม่เหมือนกันหรอกมั้ง? ลู่ม่านคิด

ตระกูลฉินคงจะปรารถนาเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องนี้ยิ่งทำให้ไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น เพราะถ้าทำในตัวอำเภอแล้วเกิดข่าวลือรั่วไหลออกไป จะเป็นผลดีได้อย่างไรล่ะ?

ฮูหยินฉินกลับไม่ยิ้มเลย ในขณะที่นางกำลังจะพูด จู่ ๆ ตาแก่เฉินก็พูดโพล่งขึ้นว่า “หลิ่วเอ๋อ เจ้าเข้าห้องก่อน เป็นสาวเป็นนาง ออกมาเผยหน้าเผยตาอยู่ข้างนอกนับเป็นอะไรได้?”

จนเวลาแบบนี้แล้ว ตาแก่เฉินก็ยังนึกห่วงนึกพะวงถึงเรื่องของลูกสาวตัวเองไม่หาย น่าจะเป็นเพราะไม่อยากให้เฉิ่นหลิ่วเอ๋อสูญเสียสถานะของตัวเองต่อหน้าพวกตระกูลฉินสินะ?

แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน กันไว้เผื่อว่าอีกเดี๋ยวเกิดเอะอะขึ้นมาจะดึงเอาไว้ไม่ไหว

รอจนเฉินหลิ่วเอ๋อเข้าไปแล้ว หยวนซื่อก็ก้าวเท้าขึ้นไปข้างหน้าอย่างสำรวม จับมือของฮูหยินฉินแล้วพูดว่า “ฮูหยินฉินรีบนั่งลงเถอะ! เร่งเดินทางมาไกลเช่นนี้ คงจะเหนื่อยแย่แล้ว”

ฮูหยินฉินชักมือกลับไปเลยตรง ๆ จากนั้นก็พูดประโยคที่พูดกับตาแก่เฉินเมื่อครู่นี้ทั้งหมดซ้ำอีกครั้งเฉินหลี่ซื่อถึงกับยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ “เจ้าพูดว่าอะไรนะ? เจ้าอยากจะยกเลิกงานแต่ง?”

หยวนซื่อก็ตะลึงจนตาค้างไปเลยเหมือนกัน "นี่มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ? เมื่อไม่กี่วันก่อนไม่ใช่ว่าคุยกันไว้เป็นดิบดีแล้วหรอกหรือ? ทำไมจู่ ๆ ก็จะยกเลิกเสียแล้วล่ะ?"

“ทำไมต้องยกเลิกงานแต่ง ไม่ใช่ว่าข้าก็พูดไปชัดเจนแล้วหรอกรึ? เวลาตกฟากของเด็กสองคนไม่สมพงศ์กัน ต่อให้ฝืนบังคับจนได้มาอยู่ร่วมกันก็ไม่มีทางเป็นเรื่องดีแน่!!”

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!” จู่ ๆ เฉินหลี่ซื่อก็แผดร้องตะโกนเสียงแหลมขึ้นมา “ข้าเองก็ไปหาคนทำนายดวงชะตาแปดอักษรมาแล้วเหมือนกัน มันจะไม่สมพงศ์กันได้อย่างไรล่ะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน