ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 352

พูดจบ เฉินหลี่ซื่อก็ควักหนังสือตรวจดวงชะตาแปดอักษรที่นางไปหาหมอทำนายดวงขึ้นมาตรง ๆ "เจ้าลองดูเองเลย ดวงสมพงศ์มาก!"

ฮูหยินฉินคิดไม่ถึงว่า คนบ้านเฉินจะไปหาหมอทำนายดวงชะตาแปดอักษรเองแบบนี้ เพราะโดยปกติแล้วสถานการณ์ลักษณะนี้ ทางบ้านฝ่ายชายจะเป็นคนจัดการขั้นตอนนี้เอง แต่ประเด็นคือถ้าทั้งสองบ้านล้วนเห็นชอบ เรื่องดวงชะตาหรือเวลาตกฟากอะไรพวกนี้ แท้จริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญนัก

แต่ใครจะรู้ว่า เฉินหลี่ซื่อผู้นี้เป็นคนที่รักลูกสาวยิ่งชีพ ที่ผ่านมานางปฏิบัติต่อลูกสาวคนนี้เสมอเหมือนลูกชายคนหนึ่งมาโดยตลอด ดังนั้น ต่อให้วันหนึ่งลูกสาวจะต้องแต่งงานออกไป นางก็เลี้ยงดูเอาใจใส่ด้วยมาตรฐานเดียวกันกับลูกชายเสมอ

ฮูหยินฉินถึงกับตกตะลึงอยู่กับที่ แต่นางก็ไม่ใช่คนที่จะรังแกได้ง่าย ๆ เพียงไม่นานก็พูดขึ้นว่า

“ใครจะรู้ล่ะว่าดวงชะตานี้พวกเจ้าไปผูกกันอย่างไร? ไม่แน่ว่าพวกเจ้าอาจเล่นลูกไม้สกปรกอะไรก็ได้นี่?” ฮูหยินฉินพูดเหมือนว่าบ้านเฉินอยากจะประจบสอพลอพวกตน เพื่อหวังความก้าวหน้าก็ไม่ปาน ทำให้เฉินหลี่ซื่อผู้ซึ่งเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรี อดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป

ชั่วขณะนั้นเอง นางแทบอดใจไม่ไหวอยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่า ลูกชายของนางเป็นผู้ว่าการอำเภอเชียวนะ

หยวนซื่อที่อยู่ข้าง ๆ รีบรั้งตัวนางเอาไว้ ก้าวขึ้นไปข้างหน้าพยายามพูดเพื่อรอมชอมเรื่องนี้อีกครั้ง “ฮูหยินฉิน พวกดวงสมพงศ์อะไรแบบนี้ จริง ๆ แล้วมันก็ไม่สำคัญมากมายนักหรอก ขอแค่เด็กสองคนมีใจให้กัน เราสองครอบครัวก็รู้สึกว่าเหมาะสม นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่หรือ?”

หยวนซื่อคิดว่า ถ้าตัวเองหว่านล้อมอีกหน่อยก็คงจะพอเป็นไปได้

แต่สิ่งที่นางคิดไม่ถึงก็คือ พวกตระกูลฉินได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไร ก็เป็นได้แค่การกระทำที่เสียแรงเปล่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพูดถึงความรู้สึกของเด็กทั้งสองคน ฮูหยินฉินรีบโบกมือทันที "เรื่องนี้จะเอามาพูดเหลวไหลไม่ได้นะ เหิงเอ๋อบ้านเราประพฤติตัวสะอาดไร้มลทินมาโดยตลอด จะไปมีความรู้สึกลึกซึ้งอะไรกับลูกสาวบ้านเจ้าได้? แค่เจอก็ยังไม่เคยได้เจอ จะไปเกิดความรู้สึกต่อกันได้อย่างไรล่ะ? ไม่ใช่ว่าลูกสาวบ้านเจ้าแอบไปมีเรื่องลับ ๆ.....”

“หุบปากหมาเน่าหนอนของเจ้าเดี๋ยวนี้ นังเฒ่าเวรตะไล ข้าจะฉีกปากเจ้าให้แหกเลยคอยดู!” ในที่สุดเฉินหลี่ซื่อก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่ว่าเรื่องอะไรนางก็ทนได้ แต่เรื่องฝาแฝดคู่นี้ของนางเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ที่ถือได้ว่าเป็นดั่งหัวใจและเลือดเนื้อของนาง

นางจะทนฟังยายเฒ่าปากปลาร้าคนนี้ พูดจากระแนะกระแหนลูกสาวของนางแบบนี้ได้อย่างไรกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เมื่อก่อน เฉินหลิ่วเอ๋อเคยมีความสัมพันธ์กับหลี่ยวี่มาระยะหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ยิ่งเป็นจุดตอกย้ำที่ทำให้นางเจ็บปวดมากขึ้น

พูดจบ นางก็พุ่งทะยานเข้าใส่ฮูหยินฉินชนิดไม่มีออมแรง

กรงเล็บข้างหนึ่งข่วนเข้าใส่ฮูหยินฉินจนหน้าลายพร้อย จากนั้นด้วยโทสะอันคุกรุ่นเต็มที่ ก็เริ่มฉีกทึ้งเส้นผมของฮูหยินฉินต่ออย่างรวดเร็ว ฮูหยินฉินผู้น่าสงสารที่เมื่อเช้ายังคิดอยู่ว่าตัวเองคงจะสามารถสลัดพวกบ้านนอกคอกนาอย่างบ้านเฉินไปได้ง่าย ๆ จึงถูกทั้งจิกทั้งทึ้งเสื้อผ้าชุดใหม่ รวมถึงผมเผ้าและเครื่องประดับที่ตั้งใจใส่มาเป็นพิเศษ จนมันเละเทะยุ่งเหยิงไม่มีชิ้นดี

เมื่อฉินเหิงเห็นดังนั้น ก็รีบร้อนทำท่าว่าจะวิ่งเข้าไป แต่ก็ถูกเฉินจื่ออานเข้ามาหยุดไว้ตรง ๆ

“นี่เป็นสิ่งที่ตระกูลฉินของเจ้าติดค้างพวกเรา!” เฉินจื่ออานตวาด ฉินเหิงยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร เฉินจื่ออานก็เงื้อหมัดต่อยเข้าใส่เขาไปหนึ่งหมัดจัง ๆ

ฉินเหิงถูกต่อยจัง ๆ จนมึนไปหมด " เฉินจื่ออาน นี่เจ้าถึงกับกล้าต่อยข้าจริง ๆ รึ?"

“ที่ข้าต่อยคือเจ้านี่แหล่ะ!” หลายวันมานี้เฉินจื่ออานข่มกลั้นโทสะจนอัดอั้นมานาน ไม่ง่ายเลยที่ในที่สุดก็สบโอกาสได้ระบายมันออกไปสักที ทำไมจะไม่ลากตัวฉินเหิงมาต่อยตีให้หนัก ๆ สักยกล่ะ?

สุดท้าย สองคนแม่ลูกล้วนถูกต่อยถูกตบจนหน้าบวมปูด จมูกเบ้าตาล้วนฟกช้ำดำเขียวไปหมด พวกเขาถึงยอมปล่อยคนไป

ฮูหยินฉินยังคงไม่ยอมแพ้ ยังฝืนพยายามพูดว่า “พวกเจ้าอยากต่อยตีก็ต่อยตีไปแล้ว ตอนนี้คงจะยกเลิกงานแต่งได้แล้วสินะ?”

ในที่สุดตาแก่เฉินก็เอ่ยปาก หากเขาไม่เห็นแก่เรื่องที่ว่าฮูหยินฉินเป็นผู้หญิง ส่วนเฉินจื่ออานก็ต่อยฉินเหิงจนน่วม ตัวเขาก็คงจะลงมือเองไปแล้ว แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนลงมือเอง แต่สุดท้ายได้เห็นกับตาว่าสองคนแม่ลูกนั่นถูกทุบตีจนสะบักสะบอมแบบนี้ ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเป็นกอง

“แน่นอนว่าต้องยกเลิกอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ตระกูลฉินของเจ้ามาขอยกเลิก แต่เป็นพวกเราที่ขอยกเลิกงานแต่งเอง!” ตาแก่เฉินพูดด้วยอาการขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกรอด ๆ “ไม่เพียงแค่นั้น พวกเจ้าต้องขอโทษหลิ่วเอ๋อของเราต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้าน!”

ฮูหยินฉินถึงกับพูดไม่ออก “อาศัยอะไร?”

ฉินเหิงบันดาลโทสะเต็มที่ "พวกเจ้าคิดว่าข้าจะตกลงอย่างนั้นรึ?"

“เจ้าต้องตกลงแน่!” ลู่ม่านพูดแทรกขึ้นมา ก่อนจะหันไปมองเหอเย่ว “ไปเรียกคนออกมา!”

ไม่นานเหอเย่วก็กลับมา มียายชุยเดินตามหลังมาด้วย ยายชุยยังพยุงคุณหนูชุยมาด้วยอีกคน ซึ่งคุณหนูชุยเวลานี้ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มจนเต็มใบหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน