ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 362

สรุปบท บทที่ 362 หยวนซื่อถูกรังแก: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

บทที่ 362 หยวนซื่อถูกรังแก – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 362 หยวนซื่อถูกรังแก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เหอเย่วเริ่มร้อนใจขึ้นมาแล้ว “พี่เสี่ยวม่าน พี่ไม่อยากเก็บข้าไว้แล้วอย่างนั้นหรือเจ้าคะ?”

ลู่ม่านพูดไม่ออกไปชั่วขณะ “แน่นอนว่าไม่ใช่อย่างนั้น ข้าแค่หวังว่าเจ้าจะได้มีชีวิตเป็นของตัวเอง! คนเราทุกคนเกิดมา ล้วนมีอิสระที่จะเป็นนายของตัวเอง ล้วนต้องมีความคิดและอนาคตเป็นของตัวเอง ไม่มีใครที่เกิดมาเพื่อคนอื่น เจ้าเองก็เช่นกัน ตอนนี้เจ้าสามารถรั้งอยู่ข้างกายข้าได้ แต่ข้ากลับยิ่งหวังให้เจ้าสามารถเป็นได้เหมือนกับเหอฮัว ได้เริ่มต้นใช้ชีวิตของตัวเอง!”

เหอเย่วครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับ

ลู่ม่านรู้ดีว่า ช่วงเวลานี้นางอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่อนาคตข้างหน้ายังอีกยาวไกล ต้องมีสักวันหนึ่งที่นางจะเข้าใจมันได้

หลังคิดเรื่องนี้จบแล้ว ลู่ม่านก็หันกลับไปที่ประตูแล้วถามคำถามสุดท้าย “ทำไมเจ้าถึงคิดจะแต่งเสี่ยวเย่วเป็นภรรยา?”

คำถามนี้ แท้จริงแล้วลู่ม่านได้แต่คิดกลับไปกลับมาในใจอยู่ตลอด ในยุคปัจจุบัน การที่ชายหญิงจะสร้างครอบครัวขึ้นร่วมกัน นั่นก็เพราะความรัก เพราะชอบอีกฝ่าย แต่ในสมัยโบราณ มีหลายครั้งมาก ที่เหตุผลมันตรงไปตรงมาแบบกำปั้นทุบดิน

นั่นคือพวกนางถึงวัยออกเรือนแล้ว และที่พบเห็นบ่อยยิ่งกว่าคือ ผู้ชายต้องการหาเครื่องมือในการสืบทอดทายาทให้ตระกูลต่อไป

อันที่จริง แนวคิดลักษณะนี้แม้แต่ในยุคปัจจุบันก็มีอยู่ไม่น้อย ก่อนหน้าที่ลู่ม่านยังไม่ได้เดินทางข้ามเวลามาที่นี่ ตอนอยู่ในยุคปัจจุบันก็เคยเห็นแม่หลายคนที่พอคลอดลูกเสร็จ ทั้งสามีตัวเองและคนในบ้านแม่สามีจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย

ทั้งน่าเศร้าทั้งน่าสงสาร

ดังนั้น จู่ ๆ วันนี้นางจึงอยากจะถามดูว่า เพราะอะไรถึงแต่งงานกับนาง

นี่กลับไม่เหมือนเมื่อครู่ที่มีเสียงดังเอะอะมะเทิ่ง แย่งกันพูดเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุด ครั้งนี้หลังจากที่ลู่ม่านถามคำถามนี้ออกไป จู่ ๆ ด้านนอกก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด ราวกับว่าคนกลุ่มใหญ่เมื่อครู่ได้สลายหายตัวไปในชั่วพริบตา

เหอเย่วได้ยินคำถามนั้น ก็ยืนขึ้นแล้วเดินช้า ๆ ตรงมาทางลู่ม่าน

คำถามนี้ของลู่ม่าน แต่ไหนแต่ไรมา ตัวนางเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเฉินจูชิงจะตอบกลับมาว่าอย่างไร

เฉินจูชิงที่อยู่ด้านนอกเงียบงัน กลับเป็นเฉินจื่ออานที่ทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ จนในที่สุด ขณะที่ลู่ม่านเตรียมจะเปิดประตูออกมาดูอยู่แล้วนั่นเอง เฉินจูชิงก็ตอบกลับมาว่า

“เป็นเพราะว่าข้าชอบเสี่ยวเย่ว”

ไม่ต้องพูดอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องปั้นแต่งถ้อยคำให้ฟังไพเราะรื่นหู แค่เจ็ดคำง่าย ๆ เท่านั้นเพราะว่าชอบ

จมูกของลู่ม่านพลันแสบร้อน พอหันกลับไปมองก็เห็นว่าเสี่ยวเย่วหลั่งน้ำตาออกมาแล้วเรียบร้อย ลู่ม่านรีบสูดจมูกฟึดฟัด แล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเสี่ยวเย่ว

“นี่เป็นเรื่องดี อย่าเศร้าไปเลยนะ”

“อื้ม!” เหอเย่วพยักหน้า

ลู่ม่านรีบจัดการดูแลความเรียบร้อยของนางอีกครั้ง ก่อนจะเปิดประตู “เจ้าผ่านการทดสอบแล้ว เข้ามารับตัวเจ้าสาวไปเถอะ!”

แม้ว่าเรือนของทั้งสองจะอยู่ใกล้กันมาก แต่เฉินจูชิงก็ยังเตรียมเกี้ยวมาด้วย เกี้ยวเจ้าสาวลายดอกไม้สีแดงสดตัวใหญ่ถูกแห่วนไปรอบ ๆ หมู่บ้านรอบหนึ่ง นำสินเดิมเจ้าสาวที่บ้านลู่ม่านเตรียมไว้ให้จำนวนหกหาบเดินแห่วนไปรอบ ๆ ด้วย

แค่เฉพาะบรรดาเครื่องประดับเงินทอง ที่ส่องประกายอร่ามอยู่ในหาบแรกที่ส่วนหัวขบวน ก็เจิดจ้าพอจะทำให้ตาของใครหลายคนบอดได้แล้ว

สินเจ้าสาวก้อนใหญ่ขนาดนี้ ย่อมดึงดูดความสนใจของคนทั้งหมู่บ้านได้ในเวลาไม่นาน “บ้านเฉินนี้ช่างใจกว้างจริง ๆ สาวใช้ในบ้านคนหนึ่งแต่งงานยังให้สินเจ้าสาวก้อนใหญ่ตั้งขนาดนี้”

“นั่นสิ ถ้ารู้แบบนี้ ข้าคงส่งลูกสาวคนรองไปบ้านเฉินเสียนานแล้ว”

“ลูกสาวคนรองบ้านเจ้าคนนั้นขี้เกียจจะตาย ถ้าส่งไปมีหวังถูกเขาไล่ตะเพิดออกมาสิไม่ว่า!”

“ไปไกล ๆ เลยไป๊!” ผู้หญิงหลายคนกระซิบกระซาบนินทาสนุกปาก

เฉินหลี่ซื่อที่อยู่ข้าง ๆ จ้องมองไปที่สินเจ้าสาวหกหาบใหญ่นั่น สีหน้าคล้ำมืดทะมึนไม่หยุด คนที่อยู่ข้าง ๆ เห็นนางก็ยิ้มแล้วพูดว่า "แม่จื่ออาน มาแล้วรึ? เจ้าดูสินเจ้าสาวนั่นสิ! จื่ออานของบ้านเจ้ามั่งคั่งรุ่งเรืองแล้วจริงๆ!"

หยวนซื่อถูกตบจนตะลึงค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปจ้องเฉินหลี่ซื่อด้วยสายตาที่โกรธจัด “เจ้ากล้าตบข้ารึ?”

“ทำไมข้าจะไม่กล้าตบเจ้า?” เฉินหลี่ซื่อคำราม “แค่ตัวไร้ประโยชน์ที่แม้แต่ลูกในท้องก็ยังรักษาไว้ไม่ได้ ทำไมข้าจะไม่กล้าตบเจ้า?”

“ลูกในท้องข้าเพราะอะไรถึงรักษาไว้ไม่ได้?” หยวนซื่อผู้ซึ่งตั้งแต่อยู่ไฟมา ก็ยังไม่ได้กินไม่ได้ดื่มอะไรเลย ในท้องจึงเต็มไปด้วยไฟโทสะที่อัดแน่นไม่แพ้กัน ดังนั้นทันทีที่เอ่ยปาก จึงไม่มีการไว้หน้าเลยสักนิด

“ถ้าไม่ใช่เพราะแม่สาวแก่จอมเลือกมากบ้านเจ้าคนนี้ ข้าจะถูกทำให้ตกใจจนต้องเสียลูกไปรึ ? ข้ายังไม่มาคิดบัญชีกับเจ้าเลย เจ้ากลับมาหาเรื่องข้าแทนรึ!”

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ? สาวแก่อะไร?” เฉินหลี่ซื่อโกรธจนแทบจะระเบิดให้ได้แล้ว

"ข้าพูดผิดรึ? คนบ้านนี้ แม่ไม่มีเมตตาไร้ซึ่งคุณธรรม แล้วลูกสาวจะดีไปกว่ากันได้สักเท่าไหร่?"

หยวนซื่อประมาทเลินเล่อเกินไป นางเหมือนจะลืมไปแล้วว่าเฉินหลิ่วเอ๋อก็อยู่ข้าง ๆ ด้วย ทันทีที่พูดจบ เฉินหลิ่วเอ๋อก็กระโดดขึ้นคร่อมนางทันที แล้วลงมือทั้งทุบทั้งตีอย่างขาดสติ

หยวนซื่อดิ้นรนสุดชีวิต แต่จนใจที่นางยังอยู่ในช่วงอยู่ไฟ ชี่ดั้งเดิมในร่างยังเสียหายอยู่มากจึงสู้เฉินหลิ่วเอ๋อไม่ได้ โดยเฉพาะยังมีเฉินหลี่ซื่อที่ตามเข้ามาร่วมทุบตีนางด้วยอีกคน หยวนซื่อโดนกดทับจนไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้เลย

ตาแก่เฉินเพิ่งจะเดินเข้าประตูมาจากด้านนอก ได้เห็นภาพฉากนี้เข้าไปก็ตกใจแทบตาย รีบก้าวขึ้นไปข้างหน้าแล้วตวาดว่า “หลิ่วเอ๋อ รีบปล่อยนางเร็วเข้า”

แต่เพราะเฉินหลิ่วเอ๋อทุบตีคนจนเลือดขึ้นหน้าแล้ว มีหรือจะได้ยินเสียงของตาแก่เฉิน?

ตาแก่เฉินจึงหันไปตวาดเฉินหลี่ซื่ออีกคน เฉินหลี่ซื่อกลัวว่าลูกสาวจะเสียเปรียบ จึงไม่ยอมคลายมือ

จนสุดท้าย ตาแก่เฉินโกรธจัดจึงก้าวขึ้นไปข้างหน้า คว้าตัวเฉินหลิ่วเอ๋อออกมา แล้วตบหน้านางไปฉาดหนึ่ง “หลิ่วเอ๋อ เจ้าทำเกินไปแล้วนะ เจ้าเป็นสาวเป็นนาง ทำตัวเกรี้ยวกราดเจ้าอารมณ์อย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน?”

เฉินหลิ่วเอ๋อยกมือขึ้นกุมแก้มตัวเอง จ้องมองตาแก่เฉินด้วยสีหน้าว่างเปล่า “พ่อถึงกับตบข้าเลยรึ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน