เหอเย่วเริ่มร้อนใจขึ้นมาแล้ว “พี่เสี่ยวม่าน พี่ไม่อยากเก็บข้าไว้แล้วอย่างนั้นหรือเจ้าคะ?”
ลู่ม่านพูดไม่ออกไปชั่วขณะ “แน่นอนว่าไม่ใช่อย่างนั้น ข้าแค่หวังว่าเจ้าจะได้มีชีวิตเป็นของตัวเอง! คนเราทุกคนเกิดมา ล้วนมีอิสระที่จะเป็นนายของตัวเอง ล้วนต้องมีความคิดและอนาคตเป็นของตัวเอง ไม่มีใครที่เกิดมาเพื่อคนอื่น เจ้าเองก็เช่นกัน ตอนนี้เจ้าสามารถรั้งอยู่ข้างกายข้าได้ แต่ข้ากลับยิ่งหวังให้เจ้าสามารถเป็นได้เหมือนกับเหอฮัว ได้เริ่มต้นใช้ชีวิตของตัวเอง!”
เหอเย่วครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับ
ลู่ม่านรู้ดีว่า ช่วงเวลานี้นางอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่อนาคตข้างหน้ายังอีกยาวไกล ต้องมีสักวันหนึ่งที่นางจะเข้าใจมันได้
หลังคิดเรื่องนี้จบแล้ว ลู่ม่านก็หันกลับไปที่ประตูแล้วถามคำถามสุดท้าย “ทำไมเจ้าถึงคิดจะแต่งเสี่ยวเย่วเป็นภรรยา?”
คำถามนี้ แท้จริงแล้วลู่ม่านได้แต่คิดกลับไปกลับมาในใจอยู่ตลอด ในยุคปัจจุบัน การที่ชายหญิงจะสร้างครอบครัวขึ้นร่วมกัน นั่นก็เพราะความรัก เพราะชอบอีกฝ่าย แต่ในสมัยโบราณ มีหลายครั้งมาก ที่เหตุผลมันตรงไปตรงมาแบบกำปั้นทุบดิน
นั่นคือพวกนางถึงวัยออกเรือนแล้ว และที่พบเห็นบ่อยยิ่งกว่าคือ ผู้ชายต้องการหาเครื่องมือในการสืบทอดทายาทให้ตระกูลต่อไป
อันที่จริง แนวคิดลักษณะนี้แม้แต่ในยุคปัจจุบันก็มีอยู่ไม่น้อย ก่อนหน้าที่ลู่ม่านยังไม่ได้เดินทางข้ามเวลามาที่นี่ ตอนอยู่ในยุคปัจจุบันก็เคยเห็นแม่หลายคนที่พอคลอดลูกเสร็จ ทั้งสามีตัวเองและคนในบ้านแม่สามีจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย
ทั้งน่าเศร้าทั้งน่าสงสาร
ดังนั้น จู่ ๆ วันนี้นางจึงอยากจะถามดูว่า เพราะอะไรถึงแต่งงานกับนาง
นี่กลับไม่เหมือนเมื่อครู่ที่มีเสียงดังเอะอะมะเทิ่ง แย่งกันพูดเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุด ครั้งนี้หลังจากที่ลู่ม่านถามคำถามนี้ออกไป จู่ ๆ ด้านนอกก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด ราวกับว่าคนกลุ่มใหญ่เมื่อครู่ได้สลายหายตัวไปในชั่วพริบตา
เหอเย่วได้ยินคำถามนั้น ก็ยืนขึ้นแล้วเดินช้า ๆ ตรงมาทางลู่ม่าน
คำถามนี้ของลู่ม่าน แต่ไหนแต่ไรมา ตัวนางเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเฉินจูชิงจะตอบกลับมาว่าอย่างไร
เฉินจูชิงที่อยู่ด้านนอกเงียบงัน กลับเป็นเฉินจื่ออานที่ทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ จนในที่สุด ขณะที่ลู่ม่านเตรียมจะเปิดประตูออกมาดูอยู่แล้วนั่นเอง เฉินจูชิงก็ตอบกลับมาว่า
“เป็นเพราะว่าข้าชอบเสี่ยวเย่ว”
ไม่ต้องพูดอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องปั้นแต่งถ้อยคำให้ฟังไพเราะรื่นหู แค่เจ็ดคำง่าย ๆ เท่านั้นเพราะว่าชอบ
จมูกของลู่ม่านพลันแสบร้อน พอหันกลับไปมองก็เห็นว่าเสี่ยวเย่วหลั่งน้ำตาออกมาแล้วเรียบร้อย ลู่ม่านรีบสูดจมูกฟึดฟัด แล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเสี่ยวเย่ว
“นี่เป็นเรื่องดี อย่าเศร้าไปเลยนะ”
“อื้ม!” เหอเย่วพยักหน้า
ลู่ม่านรีบจัดการดูแลความเรียบร้อยของนางอีกครั้ง ก่อนจะเปิดประตู “เจ้าผ่านการทดสอบแล้ว เข้ามารับตัวเจ้าสาวไปเถอะ!”
แม้ว่าเรือนของทั้งสองจะอยู่ใกล้กันมาก แต่เฉินจูชิงก็ยังเตรียมเกี้ยวมาด้วย เกี้ยวเจ้าสาวลายดอกไม้สีแดงสดตัวใหญ่ถูกแห่วนไปรอบ ๆ หมู่บ้านรอบหนึ่ง นำสินเดิมเจ้าสาวที่บ้านลู่ม่านเตรียมไว้ให้จำนวนหกหาบเดินแห่วนไปรอบ ๆ ด้วย
แค่เฉพาะบรรดาเครื่องประดับเงินทอง ที่ส่องประกายอร่ามอยู่ในหาบแรกที่ส่วนหัวขบวน ก็เจิดจ้าพอจะทำให้ตาของใครหลายคนบอดได้แล้ว
สินเจ้าสาวก้อนใหญ่ขนาดนี้ ย่อมดึงดูดความสนใจของคนทั้งหมู่บ้านได้ในเวลาไม่นาน “บ้านเฉินนี้ช่างใจกว้างจริง ๆ สาวใช้ในบ้านคนหนึ่งแต่งงานยังให้สินเจ้าสาวก้อนใหญ่ตั้งขนาดนี้”
“นั่นสิ ถ้ารู้แบบนี้ ข้าคงส่งลูกสาวคนรองไปบ้านเฉินเสียนานแล้ว”
“ลูกสาวคนรองบ้านเจ้าคนนั้นขี้เกียจจะตาย ถ้าส่งไปมีหวังถูกเขาไล่ตะเพิดออกมาสิไม่ว่า!”
“ไปไกล ๆ เลยไป๊!” ผู้หญิงหลายคนกระซิบกระซาบนินทาสนุกปาก
เฉินหลี่ซื่อที่อยู่ข้าง ๆ จ้องมองไปที่สินเจ้าสาวหกหาบใหญ่นั่น สีหน้าคล้ำมืดทะมึนไม่หยุด คนที่อยู่ข้าง ๆ เห็นนางก็ยิ้มแล้วพูดว่า "แม่จื่ออาน มาแล้วรึ? เจ้าดูสินเจ้าสาวนั่นสิ! จื่ออานของบ้านเจ้ามั่งคั่งรุ่งเรืองแล้วจริงๆ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...