ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 364

สรุปบท บทที่ 364 การแต่งงานอันเรียบง่าย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

อ่านสรุป บทที่ 364 การแต่งงานอันเรียบง่าย จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บทที่ บทที่ 364 การแต่งงานอันเรียบง่าย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฝูเชิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตาแก่เฉินเป็นคนมาบอกเองถึงบ้าน ตาแก่เฉินไม่ได้มีสีหน้าลังเลใจเหมือนในวันนั้น แต่ครั้งนี้บนใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจในภายหลัง

“แต่นี่มันจะดีได้อย่างไรล่ะ? หลิ่วเอ๋อนังลูกน่าตายนั่นแค่ระยะเวลาสั้น ๆ แค่นี้ก็จะแต่งงานแล้ว”

ลู่ม่านขมวดคิ้วมุ่น “หลิ่วเอ๋อไม่ใช่ว่าอยู่แต่ในบ้านตลอดหรือ? ทำไมจู่ ๆ ก็จะแต่งงานแล้วล่ะ?”

“ที่จริงแล้ว...” ตาแก่เฉินเอ่ยปาก “คืนนั้นหลังจากที่โดนข้าตบหน้า นางก็หนีไปเลย เดิมทีข้าโกรธมากเลยพูดว่าไม่สนใจนางแล้ว แต่หลังจากนั้นพอเห็นว่านางไม่กลับมาบ้าน ข้าก็รีบออกไปตามหาทั้งคืนแต่ก็หาไม่พบ"

“ดังนั้น ที่พ่อมาเมื่อวันก่อน คือคิดว่าจะมาขอให้จื่ออานช่วยออกไปตามหานางสินะ?”

“อือ!” ตาแก่เฉินพูดด้วยความกระอักกระอ่วน “แต่หลังจากนั้นข้าคิดได้ว่าจื่ออานเองก็ยุ่งมากเหมือนกัน เรื่องของหลิ่วเอ๋อ ทำให้ธุระหลายอย่างของจื่ออานต้องล่าช้าไปมากแล้ว!”

แม้ว่าเฉินจื่ออานจะไม่ชอบเฉินหลิ่วเอ๋อนัก แต่จู่ ๆ จะแต่งงานแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพี่ชายคนที่สามของนาง ก็ยังต้องไปดูสักหน่อย

“หลิ่วเอ๋อจะแต่งงานกับใครรึ?” เฉินจื่ออานถาม

“คนในตัวอำเภอ ตระกูลสง!”

“ตระกูลสง?” เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว “ตระกูลสงที่ว่านี้ข้าเคยได้ยินมาบ้าง แต่ติดอยู่ที่ว่า ดูเหมือนตระกูลของพวกเขาตอนนี้ จะไม่มีผู้ชายที่อายุถึงวัยเหมาะสมที่ต้องการแต่งภรรยาเลยนะ?”

ตาแก่เฉินหัวเราะอย่างขมขื่น “แน่นอนว่าไม่มี คนที่หลิ่วเอ๋อจะแต่งด้วยคือนายท่านตระกูลสง!”

“เหลวไหลสิ้นดี!” เฉินจื่ออานกัดฟันกรอด “หลิ่วเอ๋อล่ะ?”

“กลับมาแล้ว อยู่ที่บ้านแล้วล่ะ เห็นบอกว่าพรุ่งนี้นายท่านสงจะส่งเกี้ยวเจ้าสาวมารับนางเข้าบ้าน”

เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว “ข้าจะไปดูเสียหน่อย”

เขายังพูดไม่ทันจบ เฉินหลิ่วเอ๋อกลับมาถึงหน้าประตูแล้วเรียบร้อย นางเปลี่ยนไปสวมชุดกระโปรงผ้าต่วนสีชมพู ทำให้ดูอ่อนเยาว์สดใส ดูแล้วสวยสมวัยขึ้นกว่าแต่ก่อนที่มักจะดูมืดมนหม่นหมองอย่างมาก

“หลิ่วเอ๋อ เจ้าจะแต่งงานกับนายท่านสงจริง ๆ น่ะรึ? ข้าได้ยินมาว่านายท่านสงคนนี้อายุเกือบจะสี่สิบปีนี้แล้วนะ อายุมากกว่าพี่ใหญ่อีก….”

“แล้วมันจะทำไมล่ะ?” เฉินหลิ่วเอ๋อกัดฟันพูด “นายหญิงของตระกูลสงตายไปเมื่อปีที่แล้ว ข้าแต่งเข้าไป อย่างไรก็ได้เป็นถึงนายหญิงของตระกูล!”

“หลิ่วเอ๋อ!” ตาแก่เฉินก็หงุดหงิดมากเช่นกัน “วันนั้นเป็นพ่อเองที่โกรธจนเลอะเลือน ทำไมเจ้าต้องประชดด้วยการทำร้ายตัวเองแบบนี้ด้วย?”

“ข้าไม่ได้ทำร้ายตัวเอง!” เฉินหลิ่วเอ๋อกัดฟันกรอด “เป็นพวกพ่อต่างหากที่ทำร้ายข้า! เป็นพวกพ่อมาโดยตลอด! ถ้าไม่ใช่เพราะพวกพ่อ วันนี้ข้าจะเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? ข้าเคยคิดว่าพี่สี่เป็นคนที่รักข้าที่สุด แต่คิดไม่ถึงว่าคนแรกสุดที่หักหลังข้าก็คือเขา ยังมีพี่สามอีกคน ตั้งแต่ที่พี่มีนาง พี่ก็ไม่ใช่พี่สามคนเดิมของข้าอีกต่อไปแล้ว พี่ได้แต่ยืนมองดูข้าโดนคุณชายจวงนั่นดูถูก กระทั่งคำพูดทัดทานสักคำก็ยังไม่ยอมพูด!”

เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว “หลิ่วเอ๋อ เจ้าบอกว่าข้าไม่ยอมพูดแทนเจ้า ตัวเจ้าเองไม่คิดบ้างหรือว่าวิธีการที่เจ้าทำมันก็ไม่ถูกต้องน่ะ? พ่อเป็นห่วงเป็นกังวลแทนเจ้า แต่ดูตัวเจ้าสิว่าทำอะไรลงไป?”

“เฮอะ!...พ่อเป็นห่วงข้า? เรื่องเฉินจูชิงน่ะรึ? ยังมาบอกอีกว่าไม่ได้ทำร้ายข้า หรือข้ามันคู่ควรได้แต่งกับคนที่ไม่มีแม้แต่บ้านของตัวเองพรรค์นั้นแค่นั้นน่ะรึ?”

ลู่ม่านทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว “เจ้าบอกว่าเขาไม่มีแม้แต่บ้านของตัวเอง แล้วเจ้ากล้าพูดไหมล่ะว่าตัวเองไม่เคยเสียใจในภายหลังน่ะ?”

ลู่ม่านเกือบคิดจะพูดเรื่องเมื่อวันนั้น ที่นางได้เห็นเฉินหลิ่วเอ๋อวิ่งแจ้นออกไปคุยกับเฉินจูชิงอยู่แล้ว แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจเหลือหน้าไว้ให้นางบ้าง

เฉินหลิ่วเอ๋อรู้ว่าลู่ม่านรู้ ดังนั้นจึงไม่พูดอะไรอีก

“ตอนนี้มาพูดถึงเรื่องนี้มันจะมีประโยชน์อะไรอีก ? ข้าเป็นคนของนายท่านสงไปเรียบร้อยแล้ว!”

เฉินหลิ่วเอ๋อพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาโดยไม่รู้สึกละอายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ตาแก่เฉินโกรธจนร่างทั้งร่างสั่นเทิ้ม เกือบจะเป็นลมล้มลงไปให้ได้ “เจ้า...เจ้าลูกชั่ว!”

“ตีเลย! พ่อตีข้าให้ตายไปเลยนะ! ถ้าตีข้าให้ตายไม่ได้ล่ะก็ เกรงว่าพรุ่งนี้พ่อก็ยังต้องไปเตรียมสินเจ้าสาวในงานแต่งให้ข้าดี ๆ แล้วล่ะ!”

นางไม่ได้สวมชุดแต่งงาน ยังคงสวมเป็นชุดกระโปรงผ้าต่วนสีชมพูที่นางสวมเมื่อวานนี้ตัวเดิม บนหัวปักแค่ปิ่นปักผมสีทองด้ามเดียว ส่องแสงสีทองรำไรใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า

ตาแก่เฉินรู้สึกเศร้าสลดในใจ ก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพื่อหยุดเฉินหลิ่วเอ๋อ “หลิ่วเอ๋อเอ๊ย นี่เจ้ายอมตกลงเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน?”

"ทำไมข้าจะตกลงไม่ได้? เรื่องของข้าเองหรือข้าจะตัดสินใจเองไม่ได้ล่ะ? ตอนนี้ข้าแต่งออกไปแล้ว นับจากนี้ไปเรื่องของข้าพ่อไม่ต้องมายุ่ง!"

พูดจบ นางก็ผลักตาแก่เฉินออกไปให้พ้นทาง แล้วเดินขึ้นไปนั่งบนเกี้ยวด้วยตัวเอง

ที่ด้านหลัง เฉินหลี่ซื่อที่เห็นดังนั้นก็ร้องไห้ออกมาในที่สุด

แต่หลังจากที่ร้องไห้เสร็จ ก็นึกถึงเงินสิบตำลึงทองที่ลูกสาวเอาไปเมื่อคืนนี้ขึ้นมาได้ จึงรู้สึกวางใจลงได้บ้าง เพราะไม่ว่าอย่างไร ลูกสาวมีเงินทองติดตัว ทั้งยังแต่งไปเป็นตำแหน่งเมียเจ้าบ้าน ก็คงจะไม่เสียเปรียบอะไรมากมายหรอกกระมัง?

แม้ว่านายท่านสงนั่นจะแก่ไปหน่อย แต่ว่าแก่ก็ถือเป็นเรื่องดีเหมือนกัน เพราะถ้าในอนาคต ขอแค่เขาตายไป หลิ่วเอ๋อก็มีลูกมีเต้า ตระกูลสงทั้งหมดก็จะเป็นของหลิ่วเอ๋อแล้ว

ใคร ๆ ก็เอาแต่บอกว่าเฉินหลิ่วเอ๋อเป็นคนที่มีชะตาชีวิตร่ำรวยมีวาสนา สุดท้ายนางก็พาตัวเองเข้าไปเป็นหนึ่งใน "ตระกูลเศรษฐี" ได้สมดั่งที่ใจปรารถนาแล้ว แต่ได้มาแค่เกี้ยวหลังเล็กจ้อยหลังหนึ่ง ก็หามนางไปได้แล้ว

ในเวลานี้ หลายคนในหมู่บ้านแทบยังไม่ได้ออกจากบ้านเลย พวกเขาถึงขั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเฉินหลิ่วเอ๋อแต่งงานออกไปในลักษณะนี้

หลังจากเรื่องของเฉินหลิ่วเอ๋อผ่านไป ตาแก่เฉินก็เงียบเหงาเซื่องซึมลงไปมาก

พอดีว่ามันถึงฤดูกาลเกี่ยวข้าวครั้งที่สองแล้ว เขาจึงทุ่มเทความคิดทั้งหมดของตัวเองลงไปกับการเกี่ยวข้าวแทน

เฉินหลี่ซื่อเฝ้ารออยู่ที่บ้านมาตลอด รอให้ครบกำหนดแต่งออกสามวันที่ลูกสาวจะกลับมาเยี่ยมบ้าน แต่พอครบวันที่สาม นางนั่งรออยู่ในบ้านจนอาหารที่นางทำเย็นชืดแล้วเย็นชืดอีก ก็ไม่เห็นลูกสาวกลับมาบ้านเสียที

จนกระทั่งถึงช่วงใกล้ค่ำแล้ว ก็ยังเห็นเฉินหลี่ซื่อไปยืนตัวสั่นเทาอยู่ใต้ต้นไทรใหญ่ตรงหน้าทางเข้าหมู่บ้าน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน