ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 369

เมื่อผู้ใหญ่บ้านเฉินเห็นดังนั้น ก็ไม่พูดอะไรอีก

ตอนนี้ความเจริญรุ่งเรืองของทั้งหมู่บ้านไป่ฮัว ล้วนต้องพึ่งพาบ้านเฉินทั้งสิ้น ยิ่งตอนนี้เฉินจื่ออานทำเรื่องดี ๆ แบบนี้ ก็ถือว่าเป็นการสร้างเกียรติยศให้กับหมู่บ้านไป่ฮัวด้วย หลังจากนี้ถ้าเขาไปหมู่บ้านอื่น ไม่แน่ว่าใบหน้าของเขาอาจใสผุดผ่องจนมีแสงส่องประกายได้เลยทีเดียว

พอรู้สึกมีความสุข ผู้ใหญ่บ้านเฉินก็ก้าวขึ้นไปข้างหน้าพูดให้สองสามคำ

หลังจากที่ทุกคนไม่มีความเห็นคัดค้านอะไรแล้ว ก็เริ่มการลงทะเบียนเช่าที่ดิน โดยพื้นฐานแล้วจะดูความสามารถของแต่ละครอบครัว ก่อนจะปล่อยให้เช่า

พวกเขายังนำผู้รู้หนังสือมาด้วย ให้มาช่วยอ่านเอกสาร มีหลายคนที่ได้ที่นาแล้วก็ทำท่าจะคุกเข่าโขกหัวคำนับตรงนั้นเลย ลู่ม่านรับสถานการณ์อะไรแบบนี้ไม่ได้ที่สุดแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้จริง ๆ

คนในยุคโบราณนี้ เวลาจะขอบคุณใครสักคนในยามที่ตนเองรู้สึกซาบซึ้งใจที่สุด ก็คือการคุกเข่าคำนับ เรื่องนี้ลู่ม่านห้ามไม่ได้เลย

ยุ่งจนถึงช่วงบ่ายกว่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จ หลังจากจัดการเสร็จแล้ว เฉินจื่ออานก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า “ได้ยินมาว่าปีนี้หลายคนต่างก็เก็บเกี่ยวไม่ได้ พวกผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้จากที่นาดินสมบูรณ์ของข้ายังมีอยู่ ถ้ามีใครต้องการยืมล่ะก็ สามารถมายืมไปได้ รอถึงปีหน้าเมื่อพืชเกษตรออกดอกออกผล ค่อยหักลดมาคืนก็พอ”

ความเมตตาของพวกเขาได้โปรยปรายไปให้คนตกทุกข์มากพอแล้ว นี่เป็นความต้องการของลู่ม่าน ให้พวกเขายืม จะทำให้ในใจของพวกเขารู้สึกซาบซึ้ง พวกเขาก็จะยิ่งขยันทำงานมากขึ้น นี่คือการช่วยเหลือผู้คนให้ขึ้นไปยังจุดที่สูงที่สุดแล้ว

ทันทีที่คำพูดนี้จบลง ก็มีคนจำนวนมากที่ตอนแรกหน้านิ่วคิ้วขมวด ต่างก็เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น

ทุกคนเริ่มก้าวเข้ามาขอยืมธัญพืชกันอีกครั้ง รอจนฟ้ามืดถึงค่อย ๆ เงียบสงบลงในที่สุด

ชายชราที่ได้เจอลู่ม่านในตอนแรกคนนั้น ก็มาขอยืมธัญพืชไปเยอะมาก ระหว่างที่เอาธัญพืชกลับไป ในที่สุดเขาก็ยิ้มแย้มออกมาได้เสียที

หลังจากปล่อยเช่าที่ดินออกไปแล้ว พวกลู่ม่านก็สบายใจขึ้นมาก จึงสามารถทุ่มเทกับเรื่องของตัวเองได้เต็มที่แล้ว

ตอนนี้ใกล้จะเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนแล้ว ก็ได้เวลาเตรียมตัวสำหรับวันส่งท้ายปีเก่าแล้ว

ทางเมืองหลวง ยังจำเป็นต้องเตรียมการให้กับผู้จัดจําหน่ายรายอื่น ๆ ซึ่งมีการร่วมมือกันอีกค่อนข้างมาก เพราะเวลานี้ ด้วยระยะทางที่ห่างไกล เตรียมไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ก็จะเสร็จเรียบร้อยได้ก่อนปีใหม่พอดี

สำหรับของขวัญปีใหม่ปีนี้ ลู่ม่านคิดไว้ว่าอยากจะสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ จึงออกแบบตุ๊กตาผ้าที่เป็นตัวแทนของหมู่บ้านไป่ฮัวขึ้นมาตัวหนึ่ง จากนั้นก็ให้พวกเถาสวินซื่อนำไปผลิตออกมา

ยกเว้นตุ๊กตาผ้า อย่างอื่นล้วนเหมือนกันกับปีก่อนๆ ที่ร้านม่านเซินเพิ่มการผลิตพวกชุดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเข้าไปจำนวนหนึ่ง และแน่นอนว่าทางโรงงานผลไม้กวน ก็เพิ่มการผลิตชุดผลไม้กวนเข้าไปอีก เป็นต้น

หลังจากจัดเตรียมเรียบร้อย เหอเย่วก็กลับมาพอดี

ไม่ได้พบนางระยะหนึ่ง แม่สาวน้อยคนนี้ดูมีความเป็นผู้หญิงขึ้นมานิดหน่อยแล้ว

พอเห็นลู่ม่าน นางก็เดินเข้ามาค้อมกายคำนับเป็นอันดับแรก "ฮูหยิน ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ"

ลู่ม่านถูกนางทำให้ตกใจจนผงะ "เป็นอะไรไปน่ะ? พอเป็นเจ้าสาวแล้วก็ไม่เรียกข้าว่าพี่สาวแล้วรึ?"

เหอเย่วขอบตาร้อนผ่าว รีบก้มหน้าลงต่ำ “ไม่ใช่อย่างนั้นเจ้าค่ะ เมื่อก่อนเพราะข้าไม่รู้ความ ทำตัวสนิทสนมกับฮูหยินมากเกินไป นับจากนี้ ข้าจะตั้งใจปรนนิบัติฮูหยินให้ดีเจ้าค่ะ”

ทำไมลู่ม่านฟังแล้วรู้สึกอึดอัดใจแปลก ๆ "หรือปู่ของเจ้ากับเฉินจูชิงว่าอะไรให้เจ้าใช่หรือไม่?"

เป็นดั่งที่คาดไว้ ทันทีที่ลู่ม่านพูดจบ เหอเย่วก็ก้มหน้าลงด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน "ปู่บอกว่าฮูหยินดีต่อข้ามาก แต่ข้าก็ไม่ควรลืมกำพืดของตัวเอง"

“อะไรคือลืมกำพืดของตัวเอง!” ลู่ม่านถึงกับพูดไม่ออก “ลุกขึ้นมาเถอะ คราวหน้าห้ามพูดอะไรแบบนี้อีกนะ เมื่อก่อนทำตัวเช่นไร จากนี้ไปก็จงทำตัวเช่นนั้น!”

เหอเย่วยังคงยืนกราน "แต่ว่า……"

“ถ้ายังแต่อีก ข้าจะโกรธแล้วนะ!” ลู่ม่านสีหน้าเปลี่ยน สุดท้ายเหอเย่วจึงยอมประนีประนอม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน