สรุปเนื้อหา บทที่ 379 เฉินจื่อฟู่แทบบ้าคลั่ง – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
บท บทที่ 379 เฉินจื่อฟู่แทบบ้าคลั่ง ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ลู่ม่านอารมณ์ไม่ดี หลังจากออกมาก็ยังไม่หายโกรธ
พอดีกับที่ว่า ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากร้านของพวกจ้าวหลิน ลู่ม่านจึงไม่ขึ้นรถม้า แล้วเดินตรงไปหาพวกจ้าวหลิน
จากระยะไกล นางก็มองเห็นประตูร้านของจ้าวหลินที่กำลังขายดิบขายดี
ในฤดูกาลนี้ มีหลายที่ไม่มีผลไม้ขายแล้ว จะมีก็เพียงผลไม้ที่ชาวต่างชาติขนมาที่ยังคงขายดี
ลู่ม่านเองก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของนาง แล้วแสร้งทำเป็นลูกค้าเดินเข้าไปซื้อผลไม้
ทันทีที่นางเดินเข้าประตู ก็ได้ยินเสียงทะเลาะที่คุ้นหูของจ้าวหลินกับแคสดังออกมา
“ลูกค้าบอกว่าสองชั่ง แต่เจ้าก็ยังคิดเงินผิด ยังจะไม่ให้ข้าพูดอีกหรือ?”
“ใครบอกว่าลูกค้าเอาสองชั่ง? พวกเขาพูดอย่างชัดเจนว่าเอาสามชั่ง หูตัวเองไม่ดีแล้วยังจะมาโทษข้าอีก”
“เจ้าว่าใครหูไม่ดี เสี่ยวหลิน เจ้าไม่อยากอยู่แล้วใช่ไหม!”
“ก็ข้าจะพูด แคส ถ้าแกยังตะโกนใส่ข้าอีก ระวังข้าจะไปจากที่นี่!”
“งั้นเจ้าก็ไปเลย แล้วอย่าลืมเอาร่มไปเหมือนคราวที่แล้วนะ สุดท้ายตัวเปียกกลับมาจนเป็นหวัดให้ข้าต้องดูแลอีก!”
“หมายความว่ายังไง? เจ้าจะไม่ดูแลข้าก็ได้นี่นา ถึงเจ้าจะไม่ดูแลข้า ข้าก็ไม่ป่วยตายหรอก!”
สองคนนี้ยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็สามารถทะเลาะกันได้ตลอดเวลา
แต่การทะเลาะกันเช่นนี้ฟังดูน่าฟังมาก เพราะว่า ถึงแม้จะทะเลาะกันแต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่น ทั้งที่ทั้งสองต่างก็ห่วงใยกันมาก แต่กลับชอบทะเลาะกัน
ลู่ม่านเม้มริมฝีปากแล้วเดินเข้าไป “จะป่วยตายไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นข้าจะไปหาซื้อผลไม้ได้จากที่ไหนกัน”
จ้าวหลินตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองลู่ม่าน ก่อนจะยิ้มออกมา “นายหญิง ไม่ได้เจอกันนานเลย!”
“เป็นเจ้าที่ไม่ได้เจอข้า หรือข้าไม่ได้เจอเจ้า ตั้งแต่แคสมาอยู่ที่นี่ เรื่องส่งของเจ้ายังไม่ไปส่งที่หมู่บ้านไป่ฮัวเองเลย ไม่ใช่หรือ”
ข้าไม่ไปเพราะเจ้าหมูแคสตัวนี้กัน ข้าออกไปไม่ได้ เพราะร้านของข้าต่างหาก”
“เจ้าเรียกข้าว่าเจ้าหมูแคสหรือ” แคสพูดอย่างโมโห
“หรือไม่ใช่?”
“เอาล่ะ เอาล่ะ พวกเจ้าสองคนหยุดทะเลาะกันก่อน วันนี้ข้ามาเพื่อเอาของขวัญปีใหม่มาให้ รีบเอาแรงไปขนของ แล้วหยุดทะเลาะกันได้แล้ว”
“ของขวัญปีใหม่ของนายหญิงต้องเยอะมากแน่ๆ เลย!” จ้าวหลินยิ้มกว้างแล้วเดินออกไป
พอเห็นเช่นนี้ แคสก็เดินตามเขาออกไป ไม่นานเสียงบ่นของแคสก็ดังเข้ามาจากด้านนอก “รูปร่างผอมบางอย่างเจ้า ยังจะขนของเยอะเช่นนี้อีก อย่าทำของขวัญปีใหม่ที่นายหญิงให้ตกแตกล่ะ”
“ไม่ต้องมายุ่ง!”
ลู่ม่านส่ายหน้าอย่างจนใจ “สองคนนี้!”
เหอเย่วพูดยิ้ม แล้วพูดว่า “นี่เป็นวิธีที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน วันไหนไม่ได้ทะเลาะกันพวกเขาคงไม่ชิน!”
“มีคนที่คอยห่วงใยกันทะเละกันไปจนแก่ ที่จริงก็ดีเหมือนกัน!” ลู่ม่านพูด
“นายหญิงก็มีพี่จื่ออานแล้วไม่ใช่หรือจ๊ะ” เหอเย่วพูดหยอกล้อลู่ม่าน
ลู่ม่านพูดอย่างเคอะเขิน “เจ้าเก่ง!”
นางเลือกซื้อผลไม้หลายอย่างจากร้านของจ้าวหลิน เดิมทีลู่ม่านจะจ่ายเงินให้ แต่จ้าวหลินไม่ยอมรับเงิน ส่วนแคสเองเรื่องนี้ก็สนับสนุนจ้าวหลิน
สุดท้าย ลู่ม่านก็ได้ผลไม้กลับมาอีกจำนวนมาก
ลู่หม่านเดินทางไปด้วย กินไปด้วย จนมาถึงทางเข้าหมู่บ้านก็กินผลไม้ที่มีเปลือกจนหมด ลู่ม่านสาบานว่าจะไม่ไปที่ร้านของจ้าวหลินอีกแล้ว
พอเฉินจื่อฟู่ได้ยินอย่างนั้น เขาก็ถลึงตาดุร้ายใส่คนคนนั้น “ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็กลับบ้านไปลองทำดู”
หญิงชราที่ถูกเยาะเย้ยโกรธจนหน้าแดง “เด็กไร้มารยาท! เจ้ากล้าเอาข้าไปกับคนไร้ยางอายอย่างนางได้อย่างไร?”
เฉินจื่อฟู่หัวเราะเยาะ “แน่นอนว่าเทียบไม่ได้ เจ้ากลับไปส่องกระจกดูก่อนเถอะ!”
พูดจบ เขาก็เดินจากไปทันที
ปล่อยให้หญิงชราหน้าแดงด้วยความอับอาย นางกัดฟันแล้วร้องไห้จากไป
ไม่ว่าอย่างไร คนก็ถูกพาไปแล้ว ในที่สุดลู่ม่านก็รู้สึกโล่งอก สำหรับข่าวลือในหมู่บ้าน พอถูกเฉินจื่อฟู่เถียงกลับ คงจะไม่มีปัญหาแล้ว
ในขณะที่กำลังคิด ก็ได้ยินเสียงล้อรถม้าดังมาจากด้านหลัง พอลู่ม่านหันกลับมา นางก็เห็นรถม้าของหลิวซื่อกำลังมุ่งหน้าเข้ามายังหมู่บ้าน
ในรถม้ามีขวดเหล้าวางอยู่ ม่านด้านหน้าจึงไม่ถูกดึงลง ในขณะที่นั่งรถม้า นางก็คุยกับลุงฉางที่กำลังคุมรถม้าอยู่
ลุงฉางคนนั้นปกติมักจะไม่ชอบพูดคุยกับใคร แต่พอคุยกับหลิวซื่อกลับดูพูดคุยได้เป็นปกติ
ในขณะที่ลู่ม่านกำลังจะเรียกหลิวซื่อ รถม้าของเฉินจื่อฟู่ก็ขับออกมาเช่นกัน แล้วขับผ่านรถม้าของหลิวซื่อ ตลอดทางหลิวซื่อถูกลมหนาวพัดจนแก้มแดง เข้าคู่กับชายร่างใหญ่ที่อยู่ข้างๆ
ทำให้เขานึกถึงตอนที่เขาแบกหน้าไปขอคืนดีกับหลิวซื่อที่บ้านของนาง แล้วถูกขวางไว้หน้าประตูบ้านขึ้นมา
ความฉุนเฉียวในใจของเฉินจื่อฟู่ในที่สุดก็ถึงจุดสูงสุด ตอนที่ขับรถม้าผ่านพวกเขา เฉินจื่อฟู่ก็เหยียดแส้ของเขาออกไป บังคับให้รถม้าของหลิวซื่อที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหยุดลง แล้วกัดฟันพูด “เจ้ามันผู้หญิงไร้ยางอาย กล้าพูดคุยหยอกล้อกับผู้ชายในที่สาธารณะ ไม่อายบ้างหรือไง”
หลิวซื่อถูกเฉินจื่อฟู่ถามแบบนี้กะทันหัน นางก็ตะลึงไปเล็กน้อย และใช้เวลาปรับตัวอยู่สักพักถึงจะเข้าใจเหตุการณ์ ก่อนจะพูดว่า “เฉินจื่อฟู่ เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง?”
ลุงฉางได้ยินเช่นนี้ จึงเหลือบมองไปทางเฉินจื่อฟู่
หลิวซื่อพูด “กลับกันเถอะ!”
หลิวซื่อเหมือนไม่เห็นเฉินจื่อฟู่อยู่ในสายตา ทำให้เฉินจื่อฟู่โกรธจนใกล้จะบ้าคลั่งแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...