ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 381

สรุปบท บทที่ ​381 ลืมไม่ลง: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอน บทที่ ​381 ลืมไม่ลง จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ ​381 ลืมไม่ลง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

พอจวงลี่จ้งได้ยินเช่นนี้ เขาก็มองไปทางลู่ม่านด้วยแววตาลึกซึ้งอีกครั้ง “ลืมไม่ลง”

ลู่ม่าน “...” นี่ไม่คิดจะปกปิดไว้เลยสินะ

“สิ่งที่ควรลืมก็ควรจะลืมไดแล้ว แล้วอีกอย่างก็ยากที่จะพูดได้ว่าคนคนนั้นยังอยู่ในโลกใบนี้ ท่านจะทำยังไง ยังมีเวลาอีกครึ่งชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป” !”

“อืม ข้าเข้าใจแล้ว” จวงลี่จ้งยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ลู่ม่านไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร ดังนั้นจึงไม่สนใจเขาอีก

หลังจากกินอีกสองสามชิ้น ลู่ม่านก็บอกให้คนนำไปเก็บ “ในเมื่อคุณชายจวงอุตส่าห์ช่วยนำของมาส่งให้ ก็เชิญท่านอยู่กินข้าวเย็นที่บ้านก่อน เพราะเดี๋ยวท่านต้องรีบเดินทางกลับเมืองหลวง ดังนั้นข้าก็ไม่รั้งท่านไว้ต่อ หลังจากทานอาหารเย็น ท่านก็ออกเดินทางเถอะ”

ตระกูลใหญ่อย่างพวกเขา จะต้องจัดพิธีปีใหม่ใหญ่โตมากแน่นอน ไม่ว่าอย่างไร แม้แต่บรรดาลูกหลานในตระกูลที่ออกไปดูกิจการของตระกูลด้านนอกก็ต้องเร่งกลับมา ดังนั้นลู่ม่านถึงพูดเช่นนี้

“งั้นข้าไม่เกรงใจแล้วนะ!” จวงลี่จ้งพูด

ลู่ม่านเห็นว่าเริ่มเย็นแล้ว นางจึงไม่ได้ทำอาหารที่ยุ่งยากมากเกินไป แค่ทำอาหารเรียบง่ายสองสามอย่างแล้วเรียกพวกเฉินจื่ออานมากินข้าว

ในระหว่างกินข้าว จวงลี่จ้งกลับบอกว่าจะดื่มเหล้ากับเฉินจื่ออานสักหน่อย เดิมที่ลู่ม่านเห็นว่าพวกเขายังต้องเดินทางไกล ไม่อยากให้เขาดื่มเหล้า แต่เขายืนกรานที่จะดื่ม ดังนั้นลู่ม่านจึงไปหยิบแก้วกับเหล้ามาให้

เหล้าขวดนั้นเป็นเหล้าที่เหอฮัวให้คนส่งมาให้ รสชาติไม่เลวทีเดียว

เดิมที นางคิดว่าจวงลี่จ้งจะลิ้มรสออก แต่ใครจะไปรู้ วันนี้เขากลับดูแปลกมาก ดูไม่สนใจเหล้าที่ดื่มเลยแม้แต่น้อย หลังจากดึงเฉินจื่ออานดื่มจนหมด เขาก็วางตะเกียบลงแล้วกล่าวลา

หลังจากที่ลู่ม่านตามออกไป นางก็เห็นว่าเขาขึ้นรถม้าไปแล้ว

วันนี้ลมแรง พัดจนม่านรถปลิวสะบัด ทำให้ลู่ม่านอดที่จะรู้สึกเศร้าใจไม่ได้

ทำให้นึกถึงบทกวีที่เคยอ่านมา ข้าโบกมือลา ม้าเองก็ส่งเสียงร้องอย่างเสียใจ

ถึงแม้จะไม่ใช่ไปทำสงคราม แต่อารมณ์นี้ช่างน่าเศร้ามาก รอพวกเขาจากไป ลู่ม่านก็ถามเฉินจื่ออาน “จื่ออาน คุณชายจวงพูดอะไรเจ้าบ้าง”

เฉินจื่ออานส่ายหน้า “ไม่มีอะไร แค่บอกให้ข้าทะนุถนอมทุกอย่างที่อยู่เบื้องหน้าไว้”

เหตุใดถึงพูดอะไรแปลกๆเช่นนี้ ลู่ม่านจึงไม่สนใจอีก

วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดโรงงาน ช่วงนี้ เพราะต้องหยุดฉลองปีใหม่ ทุกคนเร่งรีบทำงานกันมาช่วงหนึ่งแล้ว และเหนื่อยกันมากแล้ว

ลู่ม่านจึงเตรียมของขวัญปีใหม่ให้ทุกคนตั้งแต่เช้า

เช่นเดียวกับปีที่แล้ว สินค้าจากโรงงานทั้งสอง พร้อมกับเนื้อหมูหนึ่งเส้น จากนั้น ก็ยังมีค่าจ้างเดือนล่าสุดด้วย

ดังนั้นวันนี้ ทุกคนในโรงงานจึงตื่นเต้นดีใจกันมาก แม้แต่เฉินสือซ่วนที่เพิ่งทำงานได้ไม่นาน แต่ค่าตอบแทนพิเศษประจำปีรวมกับค่าทำงานล่วงเวลาในช่วงนี้ก็มีหลายร้อยเหวินแล้ว

เพียงพอให้เขาไปเข้าเรียนหลังปีใหม่แล้ว

หลังเที่ยง ทุกคนก็เริ่มทำความสะอาด และปีนี้ก็ผ่านไปอย่างเรียบง่ายเช่นนี้

พอท้องฟ้าเริ่มมืด รอทุกคนทำความสะอาดเสร็จแล้ว ลู่ม่านก็พาเหอเย่วเดินสำรวจไปรอบๆ โรงงาน

ทุกอย่างได้รับการทำความสะอาดเรียบร้อย และจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ หลังจากยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ลู่ม่านจึงหยิบกุญแจออกมาล็อคประตูโรงงานไว้

ตั้งแต่เกิดเรื่องของเฉินจื่อคัง ลู่ม่านจึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของโรงงานมาก

วันนี้เป็นวันขึ้นสิบห้าค่ำ ยังมีอีกสิบวันก็จะเป็นวันปีใหม่แล้ว แสงจันทร์ส่องสว่างมาก ลู่ม่านกับเหอเย่วจึงเดินกลับโดยพึ่งแสงจันทร์ส่องทาง

หลังจากที่เขาจากไป ลู่ม่านจึงนึกถึงคนใช้ท่อนไม้ทุบคนเมื่อครู่นี้ขึ้นมาได้ “ขอบคุณท่านป้ามาก ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือที่กล้าหาญของท่านป้า วันนี้คนร้ายคงหนีไปได้แล้ว!”

ฝ่ายตรงข้ามเป็นหญิงวัยกลางคน อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงที่อวบอ้วนมีกำลังเยอะอีกด้วย พอเทียบกับเฉินหลี่ซื่อแล้วไม่ต่างกันเท่าไหร่ เป็นพวกที่ร้ายกาจมาก

ไม่น่าแปลกใจ ที่นางฟาดแค่ครั้งเดียวคนร้ายก็สลบเลย

“ไม่เป็นไร ถ้าเจ้าอยากขอบคุณข้า ก็บอกทางไปบ้านของลู่ม่านให้ข้าว่าต้องไปทางไหนดีกว่า”

ลู่ม่านชะงัก ก่อนจะสบตากับเหอเย่ว เหอเย่วจึงถามออกไปว่า “ท่านป้า ท่านมาหาลู่ม่านทำไมหรือ ท่านรู้จักนางหรือ”

“แน่นอน ข้าต้องรู้จักสิ!” ป้าคนนั้นพูด แล้วพูดติดๆ ขัดๆ “รู้หรือเปล่า ถ้าไม่รู้ก็ช่างเถอะ เดี๋ยวข้าไปถามคนอื่น”

“พวกเราเป็นคนในหมู่บ้านไป่ฮัว แน่นอนว่าต้องรู้จักอยู่แล้ว แต่ดึกดื่นเช่นนี้ท่านป้ามาตามหาคน พวกเราก็ต้องถามให้ชัดเจนก่อนถึงจะบอกทางให้ท่านป้าได้!”

ป้าคนนั้นยิ้มออกมาทันที “ไม่มีอะไรต้องปิดบังหรอก ที่จริงแล้วข้าเป็นแม่แท้ๆ ของลู่ม่าน”

ลู่ม่านตกตะลึงและมองสำรวจผู้หญิงตรงหน้าทันที ดวงตาของเหอเย่วเบิกกว้าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลู่ม่านบอกมาเสมอว่าตนเองสูญเสียความทรงจำและจำอะไรไม่ได้เลย แน่นอนว่าต้องไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ ก็มีมารดาปรากฏตัวขึ้น

แต่ว่า ตอนนี้ลู่ม่านฉลาดมาก อาจจะเป็นพวกปลอมตัวมาก็ได้ใครจะรู้

ลู่ม่านขยิบตาให้เหอเย่ว ก่อนจะถอยหลังออกมา เหอเย่วพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านป้า ถนนช่วงดึกดื่นทั้งมืดทั้งลื่น ท่านป้าไปพักดื่มน้ำที่บ้านพวกเราก่อนเถอะ!”

ข้างนอกมันมืดมาก นางมองไม่เห็นหน้าตาของอีกฝ่าย และลู่ม่านเองก็ไม่โง่เขลา ถึงกับเปิดเผยตัวตนของนางออกไป จึงอยากจะเชิญนางเข้าไปข้างในบ้านเพื่อดูว่านางรู้จักตนเองจริงหรือไม่

ภายใต้แสงไฟ ถ้านางเป็นแม่ของตนเองจริงๆ นางจะต้องจำตนเองได้ล่ะมั้ง?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน