ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 393

การตัดสินใจนี้ทำให้ลู่ม่านรู้สึกประหลาดใจมากจริงๆ เดิมที ถ้าเกิดพวกเขาจะไปลู่ม่านก็ไม่ได้รู้สึกอาลัยอาวรณ์เลยแม้แต่น้อยอยู่แล้ว

แต่เรื่องของตัวเองยังไม่ทันได้พูดอธิบายให้ชัดเจนเลย แล้วจะปล่อยพวกเขาไปได้ยังไงกันล่ะ

เฉินจื่ออานเป็นคนตอบสนองกลับมาเป็นคนแรกสุด พูดขึ้น“ใกล้จะปีใหม่แล้ว ของอะไรพวกเราก็จัดเตรียมเอาไว้หมดแล้ว ฉลองปีใหม่ที่บ้านเสร็จแล้วค่อยกลับไปเถอะนะ ”

“ใช่ๆ ”ลู่ม่านพูดขึ้น

แต่ลู่หมินกลับท่าทางยืนหยัดแน่วแน่“เสี่ยวม่าน เจ้าออกมาด้วยกันหน่อย พี่มีเรื่องที่อยากจะพูดกับเจ้า”

ลู่ม่านถึงได้วางของในมือลง ล้างมือเสร็จแล้วก็ตามออกไป ทั้งสองคนนั่งลงตรงกลางสระบัวที่อยู่ด้านหน้าลานส่วนกลาง ลู่หมินพูดอย่างทอดถอนใจ“เสี่ยวม่านเอ๋ย ตอนนี้แม่ชักจะทำเกินไปเรื่อยๆแล้ว ดังนั้นการที่พวกเราอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไร ทางด้านของอำเภอจ่างเจ๋อ ก็ยังมีบ้านอยู่อีกหลัง พวกเราไม่รบกวนเจ้าแล้ว”

“พี่ ”ลู่ม่านพูดขึ้น“ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ การที่พวกพี่มาหาข้า ข้าเองก็รู้สึกดีใจมากจริงๆนะเจ้าคะ”

พอได้ฟังแบบนั้น ลู่หมินก็หัวเราะเบาๆ“เสี่ยวม่าน หยุดหลอกพี่ได้แล้ว พี่เห็นเจ้าโตมาตั้งแต่เด็กๆ คิดว่าพี่ไม่เข้าใจเจ้าหรือ จริงๆแล้วเจ้าก็คงจะรู้สึกเกลียดแม่อยู่ภายในใจใช่ไหม ”

ลู่ม่านอึ้งตะลึง ลู่หมินรู้อะไรมาอย่างนั้นเหรอ

ถือโอกาสพูดถามขึ้น“ทำไมข้าถึงต้องเกลียดแม่ด้วยล่ะ ”

“พี่รู้หมดแล้ว ” ลู่หมินพูดขึ้น“พี่รู้สึกแปลกประหลาดใจมาตั้งแต่เด็กแล้ว ว่าทำไมแม่ถึงไม่ชอบเจ้า ทั้งที่เจ้าทั้งเชื่อฟังและสวยขนาดนี้ ละแวกแถวนี้มีใครที่ไม่ชอบบ้าง ก็มีแต่แม่คนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ค่อยจะชอบเจ้า ตอนแรกพี่ก็นึกว่าแม่แค่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาวเท่านั้น พี่ก็เลยพยายามทำในสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้ หวังว่าเจ้าจะได้มีชีวิตที่ดีสักหน่อย แต่หลังจากที่เจ้าไปแล้วพี่ถึงได้รู้ว่า สาเหตุที่แม่ก็ไม่ชอบเจ้าไม่ใช่เพราะว่าเห็นลูกชายสำคัญกว่าลูกสาว แต่เป็นเพราะว่าเจ้าไม่ใช่ลูกแท้ๆของนางนั่นเอง ”

“ !!! ” มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ จู่ๆลู่ม่านก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจเจ้าของร่างเดิมขึ้นมาแล้ว

ถึงยังไงตอนที่ตัวเองอยู่ในยุคปัจจุบัน ก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน แต่เจ้าของร่างเดิมน่าสงสารซะยิ่งกว่าตัวเองเสียอีก ตัวเองรู้มาตั้งแต่เด็กแล้วว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แต่นางกลับเพิ่งจะมารู้ว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้าหลังจากที่พ่อแท้ๆที่รักและเอ็นดูนางได้ตายจากไปแล้ว

“แล้วพ่อแม่ของข้าคือใครกัน ”ลู่ม่านพูดถามขึ้น

ลู่หมินส่ายหัว“พี่เองก็ไม่รู้ พ่อไม่เคยบอกพี่มาก่อน เรื่องในตอนนี้ พี่เองก็เพิ่งจะได้ยินมาจากปากของแม่หลังจากที่เจ้าไปแล้วเหมือนกัน หลังจากนั้น พี่ก็ตามหาเจ้ามาโดยตลอด พี่กลัวว่าเจ้าจะปลงไม่ตก แต่ว่า เสี่ยวม่าน เจ้ากลับไม่เลย ถึงขนาดที่ออกมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองเสียด้วยซ้ำ พี่รู้สึกดีใจมากจริงๆ”

จู่ๆลู่ม่านก็เกิดความรู้สึกเศร้าสลดขึ้นภายในใจทันที

นางเข้าใจแล้ว ว่าทำไมลู่เสี่ยวม่านถึงฆ่าตัวตายในตอนนั้น ความรู้สึกที่ถูกโลกทอดทิ้ง ไม่มีคนในครอบครัว ไร้ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง

ในตอนนั้นพ่อแม่ของนางตายไปทั้งคู่ ตอนที่นางถูกขังเอาไว้ภายในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็มีอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน

“ค่อยไปดีกว่าไหม ต่อให้เป็นแบบนี้ แต่ว่าพี่ก็บอกแล้ว พี่โตมาด้วยกันกับข้าตั้งแต่เด็ก อยู่ฉลองปีใหม่ด้วยกันกับข้าในบ้านแล้วค่อยไปเถอะนะ ”ลู่ม่านพูดรั้งเอาไว้

แล้วก็ถือว่าช่วยเจ้าของร่างเดิมรั้งเอาไว้ด้วยเหมือนกัน

ลู่หมินยังอยากจะพูดอะไรอีก ลู่ม่านลุกขึ้นมาทันที“ตัดสินใจตามนี้ก็แล้วกัน ไม่ต้องปฏิเสธ ข้าจะกลับไปเตรียมของแล้ว ”

พูดจบ นางก็หันตัวเดินจากไป

ข้างหลัง จู่ๆลู่หมินก็พูดตะโกนขึ้นมา“เสี่ยวม่าน ไม่ว่าจะยังไง ภายในใจของพี่ เจ้าก็ยังเป็นน้องสาวของพี่ตลอดไป ”

ลู่ม่านฝีเท้าหยุดชะงัก จู่ๆปลายจมูกก็รู้สึกปวดแน่นขึ้นมา ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเจ้าของร่างเดิม หรือเป็นเพราะว่าอะไรอื่นใด ผ่านไปนานสองนานนางถึงได้หันกลับพูดอย่างยิ้มแย้ม“ภายในใจของข้า พี่ก็เป็นพี่ของข้าตลอดไปเช่นกัน ”

พอพูดประโยคนี้จบ ลู่ม่านก็รู้สึกว่าส่วนลึกภายในใจจู่ๆก็เหมือนกับทอดถอนหายใจออกมา บางเบาแต่กลับชัดเจนแจ่มแจ้ง

พอหรูอวี่หยิบออกมาแล้ว เฉินหลี่ซื่อก็กลับไปอย่างดีอกดีใจ

ผ่านไปสักพัก หรูอวี่ก็กลับมาด้วยความไม่สบอารมณ์ ใบหน้าน้อยๆมุ่ยขมวดเข้าด้วยกัน ลู่ม่านพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม“เป็นอะไรไป ”

หรูอวี่สบถหึออกมาหนึ่งที“ฮูหยิน นางหลอกท่านแล้วล่ะเจ้าค่ะ ที่นางบอกว่าจะเอาซาลาเปาไส้ครีมลาวานั้นกลับไปให้กับคุณท่าน จริงๆแล้วเฉินหลิ่วเอ๋อกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ของพวกนั้นก็เอาให้กับเฉินหลิ่วเอ๋อกินทั้งหมดเลยเจ้าค่ะ ”

“เฉินหลิ่วเอ๋อกลับมาแล้ว ”ลู่ม่านรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย“นางดูแลลูกๆอยู่ที่บ้านไม่ใช่หรือ แล้วจะมีเวลากลับบ้านมาฉลองปีใหม่ที่นี่ได้ยังไง ”

หรูอวี่ส่ายหัว“ใครจะไปรู้ล่ะเจ้าคะ แต่ว่าฮูหยินใหญ่ทำแบบนี้มันก็เกินไปหน่อยไหมเจ้าคะ ท่านอุตส่าห์ทำมาด้วยความยากลำบาก นางยังมาหลอกเอาไปแบบนี้ ”

“เห้อ ช่างเถอะ”ลู่ม่านขี้เกียจที่จะไปคิดเล็กคิดน้อย“ถึงยังไงที่พวกเรานี้ก็ยังมีอีกเยอะ เอาให้กับนางไปสักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร แล้วสาวใช้แบบเจ้า มีความโกรธเกลียดริษยาต่อโลกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน ”

หรูอวี่สบถหึออกมา“ก็เพราะว่าสาวใช้ที่เฉินหลิ่วเอ๋อพามาคนนั้นน่ะสิเจ้าคะ ทำตัวสูงส่ง ข้าแค่ไปส่งของ นางก็ทำเหมือนกับข้าเป็นสาวใช้ที่รอปรนนิบัติรับใช้ แม้ว่าข้าจะเป็นสาวใช้ แต่ก็เป็นสาวใช้ของฮูหยิน ไม่ใช่สาวใช้ของนางสักหน่อย ”

ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้นี่เอง เหอเย่วพูดอย่างยิ้มแย้ม“เอาล่ะ ดูสิปากของหรูอวี่ย่นจนแทบจะแขวนกาน้ำมันได้แล้ว รอสักประเดี๋ยว จะให้เจ้ากินซาลาเปาไส้เนื้อนั้นสักสองสามลูก จะได้ช่วยระบายความโกรธ ”

หรูเฟิงที่เดิมทีไม่ค่อยชอบพูดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ก็เปิดปากพูดขึ้นมา“อื้อ นางกินจุก”

หรูอวี่โมโหจนกระทืบเท้า

ภายในใจของลู่ม่านกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา ว่าตอนที่เฉินหลิ่วเอ๋อกลับมาคราวก่อนสถานการณ์นั้นทุกคนก็เห็นกันหมดแล้ว บ้านของสามีนี้ก็ทำตัวแย่กับนางขนาดนั้น ทำไมกลับมาในครั้งนี้ยังพาสาวใช้กลับมาด้วย

หรือว่าเฉินหลิ่วเอ๋อกลับมาในครั้งนี้เพื่อมาแสดงอำนาจบารมี ตอนนี้มีอำนาจของฮูหยินแล้วอย่างนั้นหรือ