ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 395

สรุปบท บทที่ 395 ไก่เกิดก่อนหรือว่าไข่เกิดก่อน: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปเนื้อหา บทที่ 395 ไก่เกิดก่อนหรือว่าไข่เกิดก่อน – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บท บทที่ 395 ไก่เกิดก่อนหรือว่าไข่เกิดก่อน ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เฉินจื่ออานกลืนน้ำลาย พูดความคิดของตัวเองออกมา

“กลยุทธ์การเมืองที่ข้าเขียนในวันนี้เกี่ยวกับปากท้องของประชาชน ประชาชนเห็นอาหารเป็นสำคัญ ธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของอาหารและปากท้องของประชาชน……”เรียกได้ว่าที่เฉินจื่ออานเป็นซือหนงมาในช่วงหลายเดือนมานี้ไม่ได้เป็นไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่างน้อยที่สุดเขาก็มีความคิดทางด้านอาหารอยู่ไม่น้อย

ดูแล้วเหมือนจะเป็นหลักเหตุผลที่เข้าใจง่าย ถ้าไม่ได้ไปทำล่ะก็ จริงๆแล้วก็ยากที่จะพบเจอเหมือนกัน

หลังจากที่เฉินจื่ออานพูดจบแล้ว ลู่ม่านก็พยักหน้าอย่างพอใจ พัฒนาขึ้นมาก

แต่อาจารย์โจวกลับยิ่งเข้มงวดจริงจังมากขึ้น“เมื่อตะกี้ที่เจ้าพูดว่า ประชาชนเห็นอาหารเป็นสำคัญ ถ้าอย่างนั้นข้าขอถามเจ้าว่า ถ้าทุกคนอยากจะไปทำนากันหมด แล้วภาระงานอันยิ่งใหญ่ยุคก่อนราชวงศ์ถังใครจะไปจัดการ ”

เฉินจื่ออานอึ้งตะลึงไป หยุดไปสักพัก อาจารย์โจวกลับทนไม่ไหวแล้ว โยนกลยุทธ์การเมืองนั้นกลับไปที่เฉินจื่ออานทันที“กลับไปคิดไตร่ตรองให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยมา ”

“อาจารย์โจว ในเมื่อท่านพูดถึงคำถามนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าก็มีหนึ่งคำถามที่อยากจะถามท่านเช่นเดียวกัน ”จู่ๆลู่ม่านก็เปิดปากพูดขึ้น

อาจารย์โจวไม่ได้พูดอะไร เหมือนกับว่ากำลังรอคำถามของลู่ม่านอยู่

“ท่านคิดว่า ภาระงานของประเทศชาติสำคัญ หรือว่าปากท้องของประชาชนสำคัญ ถ้าภายในใจของทุกคนล้วนแต่เป็นภาระงานอันยิ่งใหญ่ของประเทศชาติ แล้วสุดท้ายจะไม่อดตายกันหรอกหรือ ”

นี่เป็นคำถามย้อนกลับ ประเภทเดียวกับคำถามที่ว่าไก่เกิดก่อนหรือว่าไข่เกิดก่อน

คำถามที่ไม่มีใครสามารถตอบได้

อาจารย์โจวได้ฟังแบบนั้นก็หันมองลู่ม่านอย่างลึกซึ้ง“จื่ออาน เจ้าว่ายังไง ”

ลู่ม่านจึงตระหนักขึ้นมาได้ว่า ที่อาจารย์โจวพูดเมื่อตะกี้นี้ที่แท้ก็กำลังรอเฉินจื่ออานทบทวนความคิดของตัวเองอยู่นั่นเอง แต่ถึงยังไงเฉินจื่ออานก็เป็นคนสมัยโบราณ ความคิดยังค่อนข้างอนุรักษนิยมอยู่ คิดไม่ถึงทางด้านนี้

หลังจากที่ถูกลู่ม่านชี้ทางให้แล้ว เฉินจื่ออานก็เข้าใจขึ้นมาในทันที

“ข้าเข้าใจแล้ว อาจารย์ ข้าจะไปเขียนกลยุทธ์การเมืองใหม่อีกครั้งเดี๋ยวนี้เลยขอรับ ”

“อื้อ ”อาจารย์โจวพยักหน้า

พอเฉินจื่ออานไปแล้ว ลู่ม่านถึงได้พูดขึ้นอย่างขอโทษ“ขอโทษด้วยนะเจ้าคะ อาจารย์ เมื่อตะกี้ข้านึกว่าท่านจะอาศัยอำนาจมาแก้แค้นเรื่องส่วนตัว ก็เลยพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง ท่านได้โปรดอย่าใส่ใจเลยนะเจ้าคะ”

อาจารย์โจวสบถหึออกมา“เจ้าก็รู้ด้วยหรือว่าวิธีการพูดของตัวเองมันไม่ถูกต้อง ข้ายังนึกว่าเจ้าจะไม่สนใจเรื่องอะไรพวกนี้เลยเสียอีก ”

“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะเจ้าคะ ”ลู่ม่านพูดประจบสอพลออย่างยิ้มแย้ม“ท่านเป็นอาจารย์ของจื่ออาน เป็นอาจารย์ของข้า ภายในใจของข้ามีความเคารพต่อท่านเป็นอย่างมาก ”

“แบบนี้ก็ค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย ”อาจารย์โจวลุกขึ้นยืนทำท่าทำทางหยิ่งทะนงตัว“แต่ความคิดพวกนั้นของเจ้าแปลกประหลาดมากๆ ไม่รู้ว่าเจ้าคิดได้ยังไง ”

ลู่ม่านอึ้งตะลึง“ท่านหมายถึงคำถามย้อนกลับเมื่อตะกี้นี้หรือเจ้าคะ จริงๆแล้วข้าเองก็ไม่ได้คิดไตร่ตรองก่อนเหมือนกัน สมัยที่ข้าเป็นเด็กพวกเราก็มีคำถามที่แก้ไม่ได้มาโดยตลอดอยู่หนึ่งคำถาม นั่นก็คือ บนโลกนี้ไก่เกิดก่อนหรือว่าไข่เกิดก่อน ”

อาจารย์โจวไอกระแอมหนึ่งที“แน่นอนว่าไก่เกิดก่อนอยู่แล้ว……”ยังไม่ทันพูดจบ อาจารย์โจวก็หยุดชะงักไป

เขาก้มหน้าลงพูดพึมพำเบาๆ“ไก่เกิดก่อนหรือว่าไข่เกิดก่อนกันแน่นะ ”

ลู่ม่านพอเห็นท่าทางสับสนลังเลของเขาก็หลุดหัวเราะออกมา“จริงๆแล้วท่านไม่จำเป็นต้องสงสัยลังเลหรอก คำถามนี้ ในตอนนี้ยังไม่เคยมีใครให้คำตอบได้ ”

อาจารย์โจวเป็นคนหยิ่งทะนงในตัวเองมาก“คนอื่นตอบไม่ได้ ก็เพราะว่ามีความสามารถไม่พอ เจ้าให้เวลากับข้าสักสองสามวัน ข้าจะต้องคิดออกอย่างแน่นอน ”

“ได้เจ้าค่ะ ”ลู่ม่านพูดขึ้นอย่างสายใจ“ถึงยังไงนี่ก็ปีใหม่ ท่านกับจื่ออานต่างก็ต้องพักผ่อนกันสักสองสามวันอยู่แล้ว ท่านกลับไปคิดคำตอบให้ดีๆ แต่ว่า ต้องไปรับแม่นางเยาในวันพรุ่งนี้ ท่านอย่าลืมล่ะ ”

ลู่ม่านเข้าครัวด้วยตัวเอง หรูเฟิงกับหรูอวี่ยุ่งอยู่กับการช่วยเป็นลูกมือ เหอเย่วคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้ดี จึงจัดเตรียมการเรื่องเล็กๆน้อยๆทั้งในและนอกบ้าน

ลู่ซูซื่อหลังจากที่เปิดไพ่ใบสุดท้ายเมื่อวานแล้ว ก็ไม่ได้ออกมาอีก อารมณ์คงจะไม่ดีสินะ ทางด้านของลู่ม่านยุ่งวุ่นกันจนบรรยากาศคึกคักวุ่นวาย นางกลับเงียบสนิทไม่ไหวติง

หวังซื่อ น่าจะถูกลู่หมินไล่ออกมา บอกว่าจะมาจุดไฟ

ลู่ม่านก็ปล่อยให้นางไป

พอถึงช่วงเที่ยง กินอาหารเที่ยงไปอย่างง่ายๆเสร็จ ลู่ม่านก็เอาอาหารให้กับเหอเย่วส่วนหนึ่ง“รีบกลับไปเถอะ จูชิงจะต้องรอเจ้ากลับไปทำอาหารค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าอยู่ที่บ้านอยู่แน่ๆ ”

วันนี้ช่วงบ่ายร้านค้าในตำบลกับในอำเภอก็จะปิดกันหมด ดังนั้นลู่ม่านจึงรู้ว่าตอนนี้ในบ้านของเหอเย่วจะต้องยังไม่ได้ลงมือทำอะไรจนบรรยากาศเงียบเหงาเป็นแน่

“ไม่รีบเจ้าค่ะ ข้าอยู่ช่วยพี่อีกสักพัก ”เหอเย่วพูดขึ้น

“ไม่มีอะไรที่ต้องให้เจ้าช่วยแล้ว ”หรูอวี่พูดอย่างยิ้มแย้ม“ข้ากับหรูเฟิงอยู่ที่นี่ เจ้ายังจะเป็นห่วงอะไรอีกหรือ ”

“ใช่ๆ ”หรูเฟิงพูดกระชับประหยัดถ้อยคำ

“รีบไปเร็วเข้า ถ้าไม่รีบไปข้าจะโกรธแล้วนะ ”ลู่ม่านพูดอย่างยิ้มแย้ม เหอเย่วถึงได้ถือข้าวของกลับไป“ถ้าอย่างนั้นวันพรุ่งนี้ข้าจะมาตั้งแต่เช้าเลยเจ้าค่ะ”

“ไม่ต้องมาแล้ว ให้เจ้าพักสามวัน ”ลู่ม่านพูดขึ้น

เหอเย่วไม่เหมือนกับพวกหรูเฟิงหรูอวี่ เหอเย่วไม่ใช่ทาสที่ไถ่ถอนตัวไม่ได้ แถมนางก็มีคนในครอบครัวด้วย

ดังนั้น ลู่ม่านจะต้องคิดพิจารณาถึงสถานการณ์ของคนในครอบครัวของนางด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน