“พี่ใหญ่ โจ๊กนั่นไม่เลวเลย ท่านลองชิมดู”เฉินจื่ออานพูดขึ้น
เฉินจื่อฉายส่ายหน้าไปมา เอ่ยด้วยเสียงขมขื่นว่า “พวกเจ้าไม่ต้องสนใจข้า ให้ข้าไปตามเวรตามกรรมเถอะ”
“พี่ใหญ่ ”เฉินจื่ออานรู้สึกเหนื่อยใจมาก
“ช่างเถอะ ปล่อยให้สือซ่วนอยู่เป็นเพื่อนคุยพี่ใหญ่ดีกว่า ”ลู่ม่านพูด “จื่ออานท่านเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ยังไม่ได้กินอะไรเลย ข้าจะให้เหอเยว่เอาอาหารมาให้ ท่านก็ต้องกินบ้าง”
เฉินสือซ่วนได้ยินก็รีบลุกขึ้นยืน “ท่านอาสาม ท่านน้าสามพูดถูก ท่านพ่อยังมีข้าอยู่เป็นเพื่อน ท่านวางใจได้ไปกินอะไรสักหน่อยเถอะ”
เฉินจื่ออานจึงเดินออกไป เพียงแต่กินอาหารไปได้ไม่กี่คำก็วางตะเกียบลงแล้ว
ลู่ชูซื่อมาหาอีกแล้ว ประกาศอย่างไม่เกรงใจว่า “พวกเราจะกลับไปในวันขึ้นสามค่ำแล้ว เตรียมเงินไว้เรียบร้อยหรือยัง”
ลู่ม่านขมวดคิ้ว “พวกท่านก็ยังไม่ไปไหนนี่นา รอให้ถึงวันเดินทาง ย่อมมีแน่นอน”
ลู่ชูซื่อไม่พอใจ “เสี่ยวม่าน เจ้ามันไร้น้ำใจจริงๆ มาอยู่บ้านข้าตั้งแต่อายุแปดเก้าขวบ พูดจาก็ไม่เป็น งานการก็ทำไม่ได้ ข้าเลี้ยงเจ้ามาสิบกว่าปี ตอนนี้ขอแค่ค่าชดเชยนิดๆหน่อยๆ เจ้ายังผัดวันประกันพรุ่ง เจ้าคิดว่าเหมาะสมแล้วหรือ”
“ข้าพูดแล้วหรือว่าจะไม่ให้”ลู่ม่านกัดฟัน ยกแก้วน้ำขึ้นมา ร้องเรียกหรูเฟิง “ฮูหยินลู่เหนื่อยแล้ว ส่งนางกลับไปที”
“เจ้า……”ลู่ชูซื่อเอ่ยอย่างโมโห “ได้ เจ้าไม่กลัวจะขายหน้าข้าก็จะไม่สนใจ นอกจาก เจ้าอยากจะให้ทุกคนรับรู้ว่า เจ้าเป็นคนที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน ถึงตอนนั้น ข้าจะดูซิว่าตำแหน่งอันเหรินของเจ้ายังเป็นต่อไปได้หรือไม่”
“พอแล้ว ท่านทำเกินไปแล้ว”เฉินจื่ออานตะคอก “ถ้าหากท่านกล้าแตะต้องเสี่ยวม่านแม้แต่น้อยละก็ น่าดูแน่”
“จื่ออาน ไม่เป็นไร ”ลู่ม่านพูด
กล้าข่มขู่นางหรือ ลู่ม่านยิ้มเย็น “เช่นนั้นข้าจะตั้งตารอดู”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรอยยิ้มเย็นของลู่ม่านที่ดูแล้วเลือดเย็นมาก หรือเพราะเหตุผลอื่น ลู่ชูซื่อที่เดิมทียังมีท่าทีจองหอง กลับต้องหดหัวหวาดกลัวขึ้นมาทันที เดินจากไปพร้อมเสียงก่นด่า
เฉินจื่ออานก็ได้สติขึ้นมาทันที ก้มหน้าเริ่มกินข้าว
ลู่ม่านเห็นเขากินอย่างเอร็ดอร่อย ก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา “เมื่อครู่ยังไม่อยากอาหาร กินไม่ลงไม่ใช่หรือ”
เฉินจื่ออานส่ายหน้า “ไม่ ข้าต้องทำให้ตัวเองแข็งแรง จะได้ปกป้องเจ้าได้”
ลู่ม่านที่อยู่ด้านหลังเฉินจื่ออาน จิ้มไปที่หน้าผากของเขา “เจ้าทึ่ม ท่านคิดว่าข้าจะโมโหเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นั้นจริงหรือ เช่นนั้นท่านก็ดูถูกข้าเกินไปแล้ว”
ตอนเด็กๆ นางเป็นเด็กกำพร้า ได้ยินคำพูดที่ไม่น่าฟังเหล่านี้มามาก ที่จำได้ดีเลยก็คือคืนวันนั้น คืนที่นางเห็นเฉินเฟยอวี่นอกใจ ได้ยินกับหูเรื่องที่เฉินเฟยอวี่บอกกับหญิงคนนั้นว่า ลู่ม่านไม่มีค่าอะไรเลย
นางเป็นแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่ง แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่มี เด็กที่ไม่มีพ่อแม่ จะได้รับการสั่งสอนได้อย่างไร ครอบครัวเขาไม่มีทางให้ผู้หญิงเช่นนี้แต่งเข้าบ้านแน่ ที่อยู่กับนางก็แค่เล่นด้วยชั่วคราวเท่านั้น
ลู่ม่านโมโหขึ้นมาทันที เหมือนที่เขาพูดว่านางไร้ซึ่งการอบรมสั่งสอนจึงได้ทำเรื่องที่แย่ที่สุดเรื่องหนึ่ง ก็คือการเข้าไปทำร้ายเฉินเฟยอวี่และผู้หญิงคนนั้น พร้อมกับถ่ายรูปและโพสต์ลงไปในอินเทอร์เน็ต
หลังจากทำเรื่องทั้งหมดเสร็จแล้ว นางก็ดื่มเหล้าจนเมามาย และในคืนนั้นเอง นางก็ทะลุมิติมาที่นี่
เฉินจื่ออานส่ายหน้า“ข้าย่อมไม่ได้ดูถูกเจ้า เพียงแต่ เจ้าเป็นภรรยาของข้า ข้าย่อมต้องปกป้องเจ้า แม้เจ้าจะปกป้องตนเองได้ก็ถาม ข้าก็อยากจะปกป้องเจ้าอยู่ดี ”
เจ้าทึ่มคนนี้ ทึ่มโดยที่ไม่เหมือนใครจริงๆ
“ได้”ลู่ม่านยิ้มและยื่นมือไปคีบอาหารให้กับเฉินจื่ออาน “เช่นนั้นก็กินให้มากหน่อย”
……
วันรุ่งขึ้น ตื่นมาแต่เช้าก็จะเริ่มพิธีอวยพรปีใหม่กันแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...