ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 402

สรุปบท บทที่ 402 กลับตัวกลับใจ: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

บทที่ 402 กลับตัวกลับใจ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 402 กลับตัวกลับใจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ผ่านไปไม่นาน เฉินจื่อฉายก็อาบน้ำเสร็จ จากนั้นก็จูงมือเฉินสือซ่วนไปที่บ้านหลังเก่าทันที

เฉินจื่ออานกำลังป้อนยาให้ตาแก่เฉินอยู่ ตาแก่เฉินเหมือนเริ่มจะมองโลกอย่างเฉยชาต่อทุกสิ่งไปแล้ว ยาจำนวนมากที่ป้อนให้เขากลับไม่ยอมกลืนลงไป ยาเหล่านั้นจึงไหลลงไปบนหมอนทั้งหมด

เฉินจื่ออานจึงจำต้องวางถ้วยยาลง แล้วเริ่มพูดเกลี้ยกล่อมด้วยเจตนาดีไม่หยุด  เขาพูดด้วยเหตุและผลกับตาแก่เฉิน ติดแค่ว่าเขาพูดไปแล้วตั้งนาน กลับไม่เข้าหูตาแก่เฉินเลยแม้แต่น้อย

ระหว่างที่เขาตกอยู่ในสภาวะที่ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดีนั่นเอง ที่ด้านนอกก็มีเสียงเรียกของเฉินสือซ่วนดังแว่วมา "ปู่!"

ดวงตาสีเทาขุ่นมัวราวขี้เถ้าของตาแก่เฉิน พลันสว่างวาบขึ้นมาครู่หนึ่ง จากนั้นก็เห็นคนที่มีฝีเท้าแข็งแรงกระฉับกระเฉงคนหนึ่ง เปิดม่านฟางที่ประตูด้านนอกแล้ววิ่งเข้ามา

“ปู่ ข้ากลับมาแล้ว!”

“อา...” ตาแก่เฉินพยักหน้า ที่ด้านหลังเฉินสือซ่วน เงาร่างที่ดูคุ้นเคยร่างหนึ่งก็เปิดม่านหน้าประตูแล้วเดินออกมา

ทันทีที่เฉินจื่อฉายเดินเข้ามา เขาก็คุกเข่าลงข้างเตียงของตาแก่เฉินตรง ๆ

“พ่อ! ลูกอกตัญญูคนนี้กลับมาแล้ว!”

เฉินจื่ออานมองดูภาพฉากนี้ด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้จริง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น? พอหันไปเห็นลู่ม่านซึ่งเดินตามหลังมา ทำสัญลักษณ์มือว่าให้เขาวางใจได้ส่งมาให้ เขาค่อยวางใจลงได้ในที่สุด

ตาแก่เฉินตกตะลึง พยายามออกแรงเพื่อจะเงยหน้าขึ้น แต่เพราะช่วงขาและเท้าไม่มีแรง หลังจากพยายามออกแรงอย่างหนัก เขาก็เกือบจะล้มลงไปอยู่แล้ว

เฉินจื่อฉายรีบเข้าไปพยุงเขา “พ่อ!”

“อา อ๋าย...” ตาแก่เฉินน้ำตาไหลอาบหน้า เสียงร้อง อา อ๋าย นี้ คงจะเป็นเสียงที่เขาพยายามเรียกชื่อของเฉินจื่อฉาย ว่าอาฉาย

“ฮึก!” เมื่อเห็นตาแก่เฉินในสภาพนี้ เฉินจื่อฉายก็ฝืนอดกลั้นต่อไปไม่ไหว เขาสวมกอดตาแก่เฉินพลางร้องไห้อย่างหดหู่สะเทือนใจ “พ่อ ข้าผิดต่อท่านเหลือเกินแล้ว!”

“อา อา อา อา!” ตาแก่เฉินพยักหน้าพลางยื่นมือออกไปลูบหัวของเฉินจื่อฉาย เหมือนทุกครั้งที่กลับบ้านเมื่อตอนยังเป็นเด็ก การกระทำลักษณะนั้นของตาแก่เฉิน แฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง นั่นคือ เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว

“อื้ม!” เฉินจื่อฉายร้องไห้ไปพลาง พยักหน้าไปพลาง “พ่อ ข้าไม่ไปไหนแล้ว ครั้งนี้ข้าจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนพ่อตลอดไปเลย!”

ในที่สุด ก็ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าของตาแก่เฉิน ต่อให้เขาจะไม่มีลูกชายอกตัญญูไปแล้วหนึ่งคน ทั้งไม่มีลูกชายที่ทะเยอทะยานใฝ่สูงไปแล้วอีกหนึ่งคน แต่เขายังมีลูกชายที่แสนจะกตัญญูอีกตั้งสองคน เขายังมีแรงจูงใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกใบนี้

เฉินจื่อฉายพูดจบ ก็รีบรับถ้วยยามาจากเฉินจื่ออาน แล้วนั่งลงที่ข้างเตียง “พ่อ ข้าป้อนพ่อเอง!”

ครั้งนี้ ตาแก่เฉินยอมให้ความร่วมมือในการกินยาดีมาก หลังจากกินยาเสร็จ เขาก็มองเฉินจื่อฉายด้วยสายตากังวลอีกครั้ง เหมือนกับอยากจะถามถึงเรื่องของเฉินจื่อฉายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

เฉินจื่อฉายครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็สร้างข้ออ้างปลอม ๆ ขึ้นมาข้อหนึ่ง "ก็ดีทีเดียว คนในเหมืองทางนั้นล้วนนิสัยใจคอไม่เลว เถาฮัวก็ไปหาสามีที่นั่นด้วย ตอนนี้ใช้ชีวิตได้ดีมาก ๆ เลยเชียวล่ะ ข้าวางใจแล้วก็เลยกลับมาบ้าน"

หลังจากตาแก่เฉินฟังจบ ก็ผล็อยหลับไปอย่างสบายใจ

รอจนเขาหลับไปแล้ว เฉินจื่ออานจึงพูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่ พี่คิดได้แบบนี้ ข้าดีใจมากจริง ๆ นะ”

เฉินจื่อฉายเหลือบตามองลู่ม่านด้วยความรู้สึกผิด “ต้องขอบคุณน้องสะใภ้สามที่ทำให้ข้าคิดได้ ก่อนหน้านี้ข้าทำตัวเลวระยำตำบอนเกินไปแล้วจริง ๆ นับจากนี้ไปข้าจะดูแลพ่อให้ดี เจ้าก็สบายใจได้แล้วล่ะนะ! "

มีเฉินจื่อฉายอยู่ ในที่สุดเฉินจื่ออานก็นับว่าพอจะมีเวลาว่างกลับบ้านไปพักผ่อนได้เสียที

ระหว่างทางกลับ ลู่ม่านจึงบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เฉินจื่ออานฟังไปรอบหนึ่ง เฉินจื่ออานพยักหน้า “ขอบคุณเหลือเกินที่มีเจ้าอยู่!”

ลู่ม่านส่ายหน้า “พวกเราก็เหมือนคนคนเดียวกันไม่ใช่หรือ? เรื่องของเจ้าก็คือเรื่องของข้า ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอก”

เฉินจื่ออานพยักหน้า “เป็นความผิดของข้าเอง ลงโทษด้วยการให้ข้าเขียนคิ้วให้เจ้าหนึ่งเดือน”

ลู่ม่านเม้มปากก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา “แค่หนึ่งเดือนสั้น ๆ แค่นั้นเองน่ะรึ? ข้ายังคิดว่าเจ้าจะเขียนคิ้วให้ข้าไปตลอดชีวิตเสียอีก”

เมื่อหลายวันก่อนไม่รู้ว่าใครล่ะ ที่เอาแต่ด่าว่านางแล้งน้ำใจ ๆ ไม่หยุด ลู่ม่านคิดในใจ

เพียงไม่นานเหอเย่วก็หยิบเงินออกมา กระเป๋าใบใหญ่ล้วนเต็มไปด้วยเงิน ลู่ม่านไม่ได้ให้เป็นทองคำ เพราะสำหรับคนอย่างลู่ซูซื่อคนนี้ ดู ๆ ไปแล้วนางน่าจะชอบเงินมากกว่า ถ้าให้ทองนางบางทีนางอาจจะไม่ชอบก็ได้

เป็นอย่างที่คิด ลู่ซูซื่อยิ้มแย้มอย่างเบิกบานใจยิ่งขึ้นแล้ว เมื่อเห็นเหอเย่วเดินเข้ามา ก็ยื่นมือออกไปหมายจะหยิบมัน

ลู่ม่านกลับพูดขึ้นว่า "เงินก้อนนี้ ข้าไม่ได้ให้เจ้า ยึดจากท่าทีที่เจ้ามีต่อข้าก่อนหน้านี้ ข้าไม่ไปแจ้งความให้เจ้าหน้าที่มาจับเจ้าไปก็นับว่าไม่เลวแล้ว เงินนี้ข้าตั้งใจจะให้พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ พี่รับมันไปเถอะนะ!”

ลู่ซูซื่อก็ไม่โกรธ นางมีแค่ลูกชายคนนั้นคนเดียว นางเองก็รู้สึกรักใคร่ห่วงใยลูกชายคนนั้นมาก ให้เงินลูกชายนาง แน่นอนว่านางย่อมไม่มีความเห็นค้านอะไรอยู่แล้ว

เมื่อได้ยินดังนั้น นางจึงขยิบตาเป็นสัญญาณไปทางลู่หมิน “ลูกชาย นี่เป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเสี่ยวม่าน เจ้าก็รีบรับไว้เถอะ!”

คาดไม่ถึงว่า ลู่หมินจะหันหน้าไปหานางตรง ๆ แล้วพูดอย่างดื้อรั้นว่า “แม่ ข้าไม่เอาหรอก!”

ประโยคนี้ทำให้ลู่ซูซื่อโกรธจนแทบกระอักเลือดออกมาให้ได้แล้ว "เจ้าพูดว่าอะไรนะ?"

หวังซื่อที่อยู่ข้างหลังก็ตกตะลึงไปด้วยเช่นกัน “พี่อาหมิง น้องเล็กตั้งใจให้พี่ พี่ก็รับไว้เถอะน่า”

“อย่างเจ้าจะไปรู้อะไร?” ลู่หมินจ้องนางเขม็ง หวังซื่อได้ยินดังนั้น ก็สงบปากสงบคำลงทันที

ตอนนี้เองลู่หมินค่อยหันไปพูดกับลู่ซูซื่อว่า “แม่ ครั้งนี้ที่พวกเรามาที่นี่ สิ่งที่เสี่ยวม่านทำให้พวกเรามันก็มากพอแล้วนะ ข้าเองก็มีมือมีเท้าจะอยากได้เงินมากมายขนาดนั้นไปทำไม? ข้าไม่อยากได้เงินพวกนั้น พวกเรากลับกันเดี๋ยวนี้เลยเถอะ!"

“เจ้า! ถ้าวันนี้เจ้าไม่รับเงินก้อนนี้ไว้ ข้าจะตัดแม่ตัดลูกกับเจ้า!” ลู่ซูซื่อแผดเสียงตะโกนดังลั่น เจ้าลูกชายคนนี้ นิสัยใจคอช่างดื้อด้านเหลือเกิน เหมือนพ่อที่ตายไปแล้วคนนั้นของเขาไม่มีผิด

คาดไม่ถึงว่า ลู่หมินกลับคว้ามีดเล่มหนึ่งขึ้นมาจ่อเข้าที่ลำคอของตัวเอง “แม่ ถ้าแม่ยังยืนยันว่าจะบังคับข้าให้ได้ เช่นนั้นข้าก็จะตายให้แม่ดูเดี๋ยวนี้แหล่ะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน