ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 403

สรุปบท บทที่ 403 ไปแล้วยังกลับมาอีก: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอน บทที่ 403 ไปแล้วยังกลับมาอีก จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 403 ไปแล้วยังกลับมาอีก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ครั้งนี้ทำเอาลู่ซูซื่อตกใจกลัวแทบตายแล้วจริง ๆ นางรีบยื่นมือออกไปทันที ปากก็ร้องตะโกนว่า “อาหมิน อย่าทำอย่างนั้นนะลูก!”

ลู่ม่านก็รีบพูดเกลี้ยกล่อมเขาอย่างรวดเร็วว่า “พี่ใหญ่ อย่าหุนหันพลันแล่นนะ!” ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพี่ใหญ่ที่ดีต่อเจ้าของร่างเดิมมาก ๆ ลู่ม่านก็ไม่รู้ว่าเขาจะได้เจอกับผลลัพธ์ที่ไม่ดีแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น การให้เงินเขามันก็เป็นความเต็มใจของนางเองด้วย

“เสี่ยวม่าน เป็นพี่ใหญ่ที่ทำผิดต่อเจ้า ถ้าข้ารู้แต่แรกว่าตอนนี้เจ้ามีชีวิตที่ดีขนาดนี้ พี่ใหญ่จะไม่มีวันมาหาเจ้าแน่ ตอนนี้พอมาแล้ว ก็ได้แต่มาสร้างปัญหายุ่งยากเพิ่มให้เจ้าเท่านั้น เป็นความผิดของพี่ใหญ่แท้ ๆ"

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก!” ลู่ม่านส่ายหน้า “ข้าไม่เคยคิดว่ามันเป็นความผิดของพี่ใหญ่เลยนะ”

ถ้ามันเป็นสิ่งตอบแทนให้กับคนที่ปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความจริงใจได้ เงินแค่นี้จะนับเป็นอะไรได้?

“เสี่ยวม่าน…” ลู่หมินดูสะท้อนใจมาก “แต่เงินพวกนั้นข้ารับไว้ไม่ได้” ลู่หมินพูดชัดถ้อยชัดคำ “แม่เขาไม่เข้าใจ เจ้าก็อย่าได้มีความคิดเห็นแบบเดียวกับนางเลยนะ ตัวพี่ใหญ่เองก็มีความสามารถอยู่ ไม่อยากได้เงินของเจ้าหรอก”

“ได้ ๆ!” ลู่ม่านพยักหน้า

ลู่หมินหันหน้ากลับไปมองที่ลู่ซูซื่ออีกครั้ง “แม่ ยังอยากได้เงินอีกหรือไม่?”

ลู่ซูซื่อกัดฟันกรอด หันไปมองลู่ม่านด้วยท่าทางไม่เต็มใจ ถึงแม้นางจะไม่เต็มใจ แต่เพราะลูกชายของนางเอามีดมาจ่อคอตัวเองบังคับนางแบบนี้ นางเองก็ไม่มีทางเลือกจริง ๆ จึงทำได้แค่ต้องยอมแพ้ไปก่อนเป็นการชั่วคราว “ไม่เอาแล้ว ๆ เจ้ารีบวางมีดลงเร็วเข้าเถอะ!”

“งั้นแม่ก็ขึ้นรถไปก่อนเลย!” ลู่หมินยังคงยืนกราน

สุดท้ายลู่ซูซื่อก็ยอมลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นรถไป เมื่อเห็นว่านางเข้าไปนั่งดีแล้ว ลู่หมินค่อยโยนมีดในมือทิ้งไป สะบัดแส้ แล้วโบกมือให้ลู่ม่าน

“พี่ใหญ่ไปแล้วนะ! หวังว่าจากนี้เจ้าจะมีชีวิตที่ดีตลอดไป ถ้าเป็นแบบนั้นพี่ใหญ่ก็จะไม่มาพบเจ้าอีกแล้วล่ะ”

“พี่ใหญ่…” จู่ ๆ ส่วนลึกในใจของลู่ม่านพลันเกิดความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ขึ้นมาเล็ก ๆ นางรู้ดีว่าครั้งนี้มันไม่น่าจะเป็นอารมณ์ของเจ้าของร่างเดิมแล้วแน่ ๆ

คนเราไม่ใช่ต้นไม้ใบหญ้า ไม่มีทางตัดขาดเยื่อใยไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิงได้ นางก็เป็นคนที่มีอารมณ์ความรู้สึกคนหนึ่งเหมือนกัน

จนกระทั่งรถแล่นออกไปไกลแล้ว ลู่ม่านก็ถอนหายใจเฮือก "มีบางครั้งชีวิตคนเราที่เกิดมาบนโลกใบนี้ มันก็กลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก ๆ เรื่องหนึ่งได้จริง ๆ นะ"

“เสี่ยวม่าน…” เฉินจื่ออานตบ ๆ ที่แผ่นหลังนาง "ได้มีญาติพี่น้องที่ดีแบบนี้ นับว่าเป็นพรอันประเสริฐของเจ้าแล้วล่ะ”

“อื้ม!” ลู่ม่านพยักหน้า

เหอเย่วที่ตามมาด้านหลังถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ พี่เสี่ยวม่าน แล้วเงินนี้จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”

“ฝากไว้ที่เจ้าก่อนเถอะ ข้าเดาได้เลยว่าจะต้องมีคนกลับมาเอามันไปในเร็ว ๆ นี้นี่แหล่ะ”

“หา?” เหอเย่วไม่เข้าใจ “ท่านจะบอกว่า พี่ชายของฮูหยินยังจะกลับมาอีกรึ ? นี่....” เหอเย่วไม่อยากจะเชื่อ

ลู่ม่านอดกลอกตามองบนใส่นางไม่ได้ นอกจากลู่หมินแล้ว ยังจะมีใครอีกล่ะ?

ครั้งนี้เฉินจื่ออานยิ้มแล้ว “เสี่ยวม่านพูดได้ถูกต้องแล้ว ข้าก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะกลับมาแน่ เสี่ยวเย่ว ไม่สู้เจ้าไปรอที่หน้าประตูบ้านเลยดีกว่านะ!”

ตอนนี้เองเหอเย่วถึงเข้าใจได้ในทันที “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานคุยกันเสร็จ พวกเขาก็ตรงไปที่บ้านหลังเก่า

วันนี้เป็นวันพักผ่อนวันสุดท้ายของเฉินจื่ออานแล้ว เขาอยากใช้โอกาสที่ยังพอมีเวลาว่างเหลืออยู่นี้ มาคอยดูแลตาแก่เฉินให้มาก ๆ

อาการของตาแก่เฉินโดยพื้นฐานเริ่มคงที่แล้ว วันนี้ท่านหมอมาฝังเข็มครั้งสุดท้ายให้ก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยดีแล้ว ก่อนจะกลับไป ท่านหมอก็มาอธิบายให้ฟังว่า

“เวลาที่เหลือต่อจากนี้ ก็คือต้องรอให้ผู้ป่วยค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมาเอง คนในบ้านควรให้ความใส่ใจให้มาก ๆ ต้องอดทนอดกลั้น ไม่ทำอะไรที่ยั่วยุให้เขาโกรธเคือง ไม่แน่ว่าสุดท้ายเขาอาจจะฟื้นฟูจนกลับมาดีขึ้น จนสามารถลุกขึ้นมาเดินเหินพูดคุยกับทุก ๆ คนได้อีก"

“จริงรึ?” ทั้งเฉินจื่ออานและเฉินจื่อฉายต่างก็ปลื้มปริ่มยินดี

เฉินจื่ออานกับเฉินจื่อฉายรู้สึกยินดีกับเรื่องเหนือความคาดหมายนี้เป็นอย่างยิ่ง สองคนพี่น้องผลัดกันพูดคุยเรื่องราวในอดีตกับตาแก่เฉินไม่หยุด คุยกันจนถึงค่ำมืด ถึงค่อยยอมกลับไป

ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานเพิ่งเดินมาถึงประตูนอก ก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูส่วนในบ้าน

เมื่อได้เห็นเงาร่างที่คุ้นตาตามที่คาดคิดไว้ ทั้งสองก็หันมามองหน้าประสานสายตากันอย่างรวดเร็ว “รอก่อนเถอะ รอให้นางไปก่อนพวกเราค่อยกลับ”

ลู่ม่านพูด

แม้ว่าลู่ซูซื่อจะเอาเงินก้อนนี้ไป แต่ถึงอย่างไรสุดท้ายแล้ว นางก็ต้องหาวิธีใช้จ่ายเงินก้อนนี้เพื่อลู่หมินแน่ ๆ อันที่จริงลู่ม่านก็คำนวณถึงจุดนี้เอาไว้ดีแล้ว ถึงได้จงใจรอให้ลู่ซูซื่อกลับมาเอาเงิน

แต่เพราะผู้หญิงคนนั้นขี้เซ้าซี้น่ารำคาญเหลือเกินแล้ว นางคร้านจะคุยคนแบบนั้น ไม่สู้รอให้นางไปให้พ้น ๆ ก่อน แล้วค่อยกลับน่าจะดีกว่า

เพียงไม่นานตาเกาก็มาเปิดประตู หลังจากที่ลู่ซูซื่อเข้าไป ใช้เวลาไม่นานนักนางก็เดินอุ้มถุงเงินใบหนึ่งออกมาด้วยท่าทางยินดีมีความสุข ก่อนจะเหลียวมองไปรอบ ๆ แล้วสุดท้ายก็หายตัวไปท่ามกลางราตรีอันมืดมิด

ทั้งสองรอให้นางเดินจากไปไกล ๆ ก่อน ค่อยลุกขึ้นกลับบ้าน

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ ลู่ซูซื่อคนนั้นเพิ่งจะเดินไปถึงริมเขาตรงปากทางเข้าหมู่บ้าน ก็ถูกกลุ่มคนชุดดำกลุ่มหนึ่งเข้ามาขวางเอาไว้

ลู่ซูซื่อเผลอกอดถุงเงินในอ้อมแขนแน่นโดยไม่รู้ตัว จ้องมองคนกลุ่มนั้นก่อนจะตะโกนถามเสียงดัง "พวกเจ้าจะทำอะไร?"

“เจ้าบ้านของพวกเราขอเชิญเจ้ากลับไปตอบคำถามบางอย่างหน่อย!”

มีหรือที่ลู่ซูซื่อจะยอมให้พวกนั้นทำได้สำเร็จง่าย ๆ นางรีบวิ่งกลับไปทางเดิมโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ถูกหนึ่งในนั้นฟาดสันมือเข้าที่ท้ายทอยอย่างจัง จากนั้นลู่ซูซื่อที่หมดสติก็ถูกพาตัวไปทั้งอย่างนั้น

ในเวลาเดียวกัน ที่ตำบลเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอำเภอจ่างเจ๋อ พวกลู่หมินกำลังรีบควบม้ากลับบ้านโดยไม่หยุดพัก เพราะเมื่อตอนเที่ยงระหว่างที่พวกเขากำลังกินข้าวกันอยู่ ลู่ซูซื่อก็สั่งให้เสี่ยวเอ้อมาบอกกับพวกเขา ว่านางรู้สึกผิดหวังในตัวลู่หมินเหลือเกินแล้ว จึงขอล่วงหน้าไปก่อน

ลู่หมินจึงรีบร้อนไล่ตามไป ควบม้าเต็มความเร็วตลอดเส้นทางชนิดไม่หยุดพัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน