ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 405

สรุปบท บทที่ 405 เซียมซีใบดีเลิศ: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

บทที่ 405 เซียมซีใบดีเลิศ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 405 เซียมซีใบดีเลิศ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หลังจากที่ลู่ม่านออกมาจากห้องหนังสือ ก็ยังครุ่นคิดไม่หยุดว่าจะช่วยเฉินจื่ออานควบคุมภาวะเครียดก่อนสอบนี้ยังไงดี

อันที่จริง จากการวิเคราะห์ขั้นสุดท้ายจนถึงแก่นแท้แล้ว ภาวะเครียดก่อนสอบนี้ เป็นปัญหาทางด้านจิตใจ เนื่องจากขาดความมั่นใจในตนเอง จึงนำไปสู่ภาวะจิตตกและเกิดความกังวลใจ

เดิมทีเฉินจื่ออานเป็นคนที่เข้มแข็งมากคนหนึ่ง สาเหตุโดยรวมที่ทำให้เกิดปัญหานี้คือ ประการแรก เขาเข้มงวดกับตัวเองมากเกินไป ความคิดที่ว่าอยากปกป้องนางมันแข็งแกร่งเกินไป

ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง นั่นคือเขาเพิ่งจะเริ่มเรียนหนังสือเมื่อปีที่แล้ว ด้วยเวลาเพียงแค่ปีเดียว ก็จะไปสอบแข่งขันกับคนอื่นที่ตรากตรำร่ำเรียนมาแล้วเป็นสิบ ๆ ปี แน่นอนว่าในใจของเขาต้องเกิดแรงกดดันอย่างมากมายมหาศาลอยู่แล้ว

ถ้าเปลี่ยนไปให้เฉินจื่ออานทำเรื่องอื่น เขาย่อมเป็นเหมือนปลากระดี่ได้น้ำอย่างแน่นอน แต่ถ้าเป็นเรื่องเรียน ตั้งแต่ยังเด็กเขาก็ถูกทางครอบครัวละเลยจนเกิดเป็นแผลในใจไปแล้ว ดังนั้นจึงยากที่จะเอาชนะได้

ถ้าอยากทำให้เขาดีขึ้น ย่อมไม่มีอะไรดีไปกว่าการขจัดความกดดันเหล่านั้นออกไปให้หมด ลู่ม่านคิดเรื่องนี้อยู่นาน แต่สุดท้ายก็ยังจับใจความสำคัญไม่ได้

ตอนที่เหอเย่วเข้ามา ก็เห็นลู่ม่านนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่คนเดียว จึงรีบเดินเข้าไปถามว่า “พี่เสี่ยวม่าน พี่เป็นอะไรไปรึ? ไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”

ลู่ม่านส่ายหน้า “ข้าแค่คิดเรื่องอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ”

“คิดเรื่องอะไรรึ? ไม่แน่ว่าข้าอาจช่วยพี่ได้นะ!”

ลู่ม่านคิดไปคิดมา ก็พูดออกมาว่า "ถ้าตอนนี้ในใจเจ้ามีเรื่องที่เป็นกังวลมาก ๆ เจ้าจะทำอย่างไรรึ?"

เหอเย่วตอบโดยไม่ลังเลว่า “ข้าจะไปไหว้สักการะพระโพธิสัตว์ ขอพรให้พระโพธิสัตว์อำนวยพรให้ข้า!” เหอเย่วพูดจบ ก็มองลู่ม่านอีกครั้ง “พี่เสี่ยวม่าน ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าที่ภูเขาซีซานมีไต้ซือรูปหนึ่ง ศักดิ์สิทธิ์มาก ถ้าท่านมีเรื่องอะไรที่กังวลใจ ไม่สู้ให้ข้าไปไหว้เป็นเพื่อนดีหรือไม่?”

ดวงตาของลู่ม่านเป็นประกาย อดโผเข้ากอดเหอเย่วไม่ได้ “เสี่ยวเย่ว เจ้าช่างน่าทึ่งเหลือเกิน!”

เหอเย่วรีบผลักลู่ม่านออกไป “พี่เสี่ยวม่าน ทำอะไรของพี่น่ะ? ข้าไม่ใช่พี่จื่ออานนะ!”

“เชอะ! ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่ใช่เฉินจูชิงเหมือนกัน เจ้าอย่าคิดมาก” ลู่ม่านยิ้มก่อนจะพูดว่า “ไต้ซือท่านนั้นที่เจ้าพูดถึงเมื่อครู่อยู่ที่ไหนนะ?”

"ภูเขาซีซานเจ้าค่ะ"

“วันนี้พวกเราไม่มีเรื่องอะไรให้ทำพอดี ไปชวนพี่จื่ออานของเจ้าไปไหว้พระบนเขาด้วยกันเถอะ!”

“ดีเจ้าค่ะ!” เหอเย่วยิ้มพลางพูดว่า “ฉลองปีใหม่ปีนี้ ครอบครัวของเราเกิดเรื่องขึ้นมากมายหลายเรื่องจริง ๆ ไปไหว้พระบนเขาสักหน่อย ปีหน้าจะต้องดีขึ้นแน่เจ้าค่ะ”

หลังจากพูดจบ เหอเย่วก็ไปเตรียมรถ

ลู่ม่านไปบอกกับอาจารย์โจว อาจารย์โจวเองก็รู้สถานการณ์ของเฉินจื่ออานในช่วงหลายวันมานี้เป็นอย่างดี เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็พยักหน้า “แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พวกเจ้าออกไปพักผ่อนหย่อนใจบ้างก็ถือเป็นเรื่องที่ดี”

หาได้ยากมากที่อาจารย์โจวจะไม่ทำตัวคร่ำครึ ลู่ม่านรู้สึกซาบซึ้งใจมาก “ ขอบคุณอาจารย์โจวมากเจ้าค่ะ”

คิดไม่ถึงว่า อาจารย์โจวจะโบกมือให้นางตรง ๆ “เอาเถอะ แม่สาวน้อย แค่เจ้าล้อเลียนข้าให้น้อยลงสักสองสามครั้ง ข้าก็ขอบคุณฟ้าดินแล้วล่ะ!”

ลู่ม่าน "...."

ลู่ม่านไม่ได้พาใครอื่นมาด้วย พามาแค่เหอเย่ว เฉินจื่ออานขับรถอยู่ข้างหน้า ลู่ม่านกับเหอเย่วนั่งอยู่ในรถ

พอไปถึงบนเขา คิดไม่ถึงว่าจะมีคนค่อนข้างเยอะ เนื่องจากเป็นวันขึ้นปีใหม่ มีหลายคนที่ไม่ต้องไปทำงาน ทั้งไม่มีงานอะไรให้ทำมากมายนัก

ทั้งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทุกคนจึงมาที่ภูเขาแห่งนี้เพื่อกราบไหว้สักการะเทพเจ้า คนโบราณเหล่านี้จะมีความเคารพยำเกรงเทพเจ้ามากกว่าคนยุคปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีความเคร่งศาสนามากกว่า

โดยเฉพาะที่ด้านนอกอารามของไต้ซือท่านนั้น มีคนมาต่อแถวกันยาวเป็นหางว่าว ว่ากันว่าวันนี้ไต้ซือท่านนั้นจะช่วยอ่านเซียมซีให้ด้วย!

“จื่ออาน พวกเราก็ไปเสี่ยงเซียมซีกันเถอะนะ” ลู่ม่านชวน

เฉินจื่ออานส่ายหน้า “ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้า แต่ของข้าไม่ต้องเสี่ยงหรอก”

“เจ้าก็เสี่ยงสักอันเถอะนะ ไม่ใช่ว่าเจ้าจะสอบคัดเลือกช่วงฤดูใบไม้ผลิหรอกรึ? ลองดูสักหน่อยเถอะ!” ลู่ม่านคะยั้นคะยอ

เฉินจื่ออานทำได้แค่พยักหน้าตอบตกลง

หลังจากที่ทั้งสองไปถึงที่นั่น ลู่หม่านก็เสี่ยงก่อนหนึ่งอัน

จากนั้นก็เริ่มคะยั้นคะยอเฉินจื่ออานอีกครั้ง “เจ้าก็รีบมาเสี่ยงสักอันเร็วเข้า”

“จื่ออาน!” ลู่ม่านกระโดดจนตัวลอยขึ้นมาทันที “เจ้าได้ยินหรือไม่? ท่านไต้ซื่อบอกว่าเจ้าเสี่ยงเซียมซีได้ใบดีเลิศ จากนี้เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วสินะ? ข้าถึงได้บอกอย่างไรล่ะว่าเจ้าต้องทำสำเร็จ!”

เฉินจื่ออานก็ดีใจมากเช่นกัน หันกลับมาค้อมกายคำนับไต้ซือ “ขอบคุณมากขอรับท่านไต้ซือ”

“ไม่เป็นไร ” ไต้ซือตอบรับ “ข้าแค่อ่านตามอักษรเซียมซีที่ใช้ทำนายเท่านั้น”

หลังจากพูดจบ ลู่ม่านก็จูงมือเฉินจื่ออานเตรียมจะจากไป “ข้าหิวน้ำจะแย่แล้ว จื่ออาน พวกเราไปหาน้ำดื่มกันสักหน่อยเถอะ”

เฉินจื่ออานรีบเตือน "เจ้ายังไม่ได้อ่านคำทำนายของเจ้าเลยนะ?"

ลู่ม่านลืมไปเลย เดิมทีนางก็ไม่ได้มาเพื่ออ่านใบเซียมซีอยู่แล้ว แต่ในเมื่อเฉินจื่ออานอุตสาห์เตือนทั้งที นางจะไม่อ่านก็ไม่ได้ จึงยื่นใบเซียมซีออกไปอีกครั้ง

“ท่านไต้ซือ โปรดดูให้ข้าหน่อยเจ้าค่ะ”

ท่านไต้ซือไม่รีบร้อนรับใบเซียมซีแผ่นนั้นนัก แต่กลับเอ่ยเตือนเฉินจืออานว่า “ที่ด้านหลังพระอุโบสถมีบ่อน้ำอยู่ หากโยมอยากดื่มน้ำ ก็ไปตักน้ำจากที่นั่นมาเถอะ!”

เฉินจื่ออานพยักหน้า "เสี่ยวม่าน ถ้าอย่างนั้นเจ้ารออ่านเซียมซีที่นี่เถอะนะ ข้าจะไปตักน้ำมาให้"

“ได้!” ลู่ม่านพยักหน้า แล้วหันไปพูดกับเหอเย่วว่า “เจ้าก็ไปช่วยพี่จื่ออานเถอะ ข้าอยู่ที่นี่คนเดียวได้”

“เจ้าค่ะ!” เหอเยว่ไม่สงสัยเลย หันหลังเดินไปทันที

รอจนทั้งสองคนไปแล้ว ลู่ม่านค่อยหันไปมองไต้ซือ “ท่านไต้ซือ? ทำไมท่านต้องหาข้ออ้างไล่สามีของข้าไปด้วยล่ะเจ้าคะ? หรือว่าเซียมซีของข้ามันไม่ดี?”

ไต้ซือกลับส่ายหน้า “ใบเซียมซีจะดีหรือไม่ นั่นถือเป็นเรื่องรอง แต่เซียมซีถูกสลับจนผิดเจ้าของ ก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรนักหรอก!”

ลู่ม่านได้ยินดังนั้น หัวใจก็พลันหดเกร็งขึ้นมาทันที

ขนาดเรื่องนี้เขาก็รู้ด้วยเหรอ? หรือว่าตัวเองจะโชคร้ายจริง ๆ ได้พบกับพระสงฆ์ผู้มีญาณบารมีแก่กล้าเข้าแล้ว?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน