ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 408

ทันทีที่ฟ้ามืด ไฟทุกดวงก็สว่างขึ้น

ทุกคนกินข้าวเสร็จก็ออกจากบ้าน เดินชมโคมไปตามเส้นทางเรื่อย ๆ จนถึงประตูโรงเรียนตรงหน้าทางเข้าหมู่บ้าน

หลังจากสถานที่แห่งนั้นถูกสร้างขึ้นมาจนแล้วเสร็จ ก็กลายเป็นลานจัตุรัสของหมู่บ้านไป่ฮัว โดยปกติแล้วเวลามีกิจกรรมอะไร ทุกคนก็จะเลือกจัดที่นั่นเป็นอันดับแรก

ตอนที่ลู่ม่านกำลังกินข้าวอยู่ ก็ได้ยินเหอเย่วมารายงานสถานการณ์สดให้ฟังแบบไม่มีหยุดพักว่า “พี่เสี่ยวม่าน มีคนมาเยอะมากเลยเจ้าค่ะ”

“อื้ม!” ลู่ม่านพยักหน้า

ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็กลับมาอีกแล้ว “พี่เสี่ยวม่าน การทายปริศนาโคมไฟที่หน้าหมู่บ้านกำลังจะเริ่มแล้วเจ้าค่ะ”

“อื้ม!” ลู่ม่านพยักหน้าอีกครั้ง

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง “พี่เสี่ยวม่าน.…”

“ก็ได้ ๆ พวกเราไปกันเถอะ!” ลู่ม่านวางชามข้าวในมือลง ยอมแพ้แม่สาวน้อยคนนี้จริง ๆ เลย!

คิดไม่ถึงว่าเหอเย่วกลับส่ายหน้า “ไม่ล่ะ พี่เสี่ยวม่าน พี่ไปกับพี่จื่ออานดีกว่าเจ้าค่ะ ข้าจะกลับแล้ว จูชิงกำลังรอข้าอยู่ข้างนอก!”

ลู่ม่าน "...."

นางลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงนะ? นางยังคิดอยู่ว่าเหอเย่วกำลังรอตัวเองอยู่ ยัยคนเห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนเอ๊ย!

เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของลู่ม่าน หรูเฟิงกับหรูอวี่ก็เดินเข้ามาพูดว่า “ฮูหยิน พวกเราไปเป็นเพื่อนท่านเองเจ้าค่ะ!”

“ไม่ต้องหรอก พวกเจ้าสองคนไปกันเองเถอะ จื่ออาน พวกเราไปดูโคมไฟด้วยกันไหม?

เฉินจื่ออานพยักหน้า ทั้งสองกำลังจะออกไป จู่ ๆ ลู่ม่านก็นึกถึงอาจารย์โจวขึ้นมาได้ จึงพูดว่า “อาจารย์โจว ดูเหมือนว่าวันนี้แม่นางเยาก็จะมาดูโคมด้วย ท่านอยากไปกับพวกเราหรือไม่เจ้าคะ?”

“ไม่ ไม่ต้องหรอก!” อาจารย์โจวปฏิเสธ

“งั้นก็ได้!” ลู่ม่านยกยิ้มอย่างลึกลับ พอถึงเวลาจะออกไป ลู่ม่านก็ตั้งใจเรียกตาเกาอีกครั้ง “ไปเถอะ พายายอิงออกไปดูโคมไฟด้วยกันเถอะนะ!”

“ไม่ล่ะ ข้ายังต้องอยู่ดูแลบ้านอีก!” ตาเกาพูด

“ไม่ต้องหรอก อาจารย์โจวก็อยู่บ้านไม่ใช่รึ? ไม่จำเป็นต้องอยู่ดูแลหรอก” ลู่ม่านโบกมือ

เห็นได้ชัดว่ายายอิงก็อยากไปเหมือนกัน ถึงแม้ว่าอายุจะมากแล้ว แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นผู้หญิง ย่อมใฝ่หาในสิ่งสวย ๆ งาม ๆ แบบนี้เป็นธรรมดา

ตาเกาห้ามนางไม่ได้ จึงต้องรับปากตกลงว่าจะไป

เพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็เห็นเงาร่างสีแดงเงาหนึ่งกระโดดวูบข้ามกำแพงเข้ามา ตาเการีบหันกลับไปร้องถามว่า “นั่นใครน่ะ?”

“ไม่มีอะไรหรอก!” ลู่ม่านรีบหยุดตาเกาทันที “เจ้าวางใจเถอะ ไม่มีอะไรผิดปกติเลยแม้แต่นิดเดียว”

จากนั้นก็หันไปเร่งยายอิงว่า “ยังไม่รีบลากตัวตาเกาออกไปอีกรึ?”

ระหว่างผู้หญิงด้วยกัน มันจะมีความเข้าใจในสัญญาณลับบางอย่างต่อกันโดยไม่ต้องพูด เพราะถึงอย่างไรผู้หญิงก็มีความละเอียดอ่อน จึงพอจะเดาความต้องการของลู่ม่านได้อย่างคร่าว ๆ แล้ว

ยายอิงรีบพยักหน้าก่อนจะลากตัวตาเกาไว้ทันที “เจ้าตาแก่หัวดื้อคนนี้นี่! ฮูหยินก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไร เจ้ายังจะพูดจาเพ้อเจ้ออะไรอีก? โคมไฟทางนั้นงดงามนัก เจ้าไปดูกับข้าเถอะนะ”

ในที่สุดตาเกาก็ถูกลากตัวออกไป เฉินจื่ออานถึงกับหลุดหัวเราะออกมา “เจ้ารู้ได้อย่างไรหรือ ว่าแม่นางเยาจะมา?”

“การที่นางจะมา มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยรู้ไหม? นางก็ไม่ใช่คนประเภทที่ไม่ยอมรุกเข้าหา ตามความคิดของข้า คนอย่างอาจารย์โจวน่ะ เหมาะกับผู้หญิงช่างรุกแบบแม่นางเยาที่สุดแล้ว เขาถึงจะปิดบังซ่อนเร้นความรู้สึกไม่ได้”

ทั้งสองเดินแบบไร้จุดหมายไปเรื่อย ๆ พอเดินไปถึงบ้านเก่า ก็เจอเข้ากับเฉินจื่อฉายและเฉินสือซ่วนที่ช่วยกันเข็นตาแก่เฉินออกมาพอดี

เก้าอี้รถเข็นคันนั้น เป็นรถเข็นที่ลู่ม่านทำขึ้นเมื่อตอนที่เฉินจื่ออานได้รับบาดเจ็บที่ขาก่อนหน้านี้ พอดีกับที่ตอนนี้ ร่างกายของตาแก่เฉินกำลังเริ่มฟื้นตัวแล้ว จึงเอาออกมาให้ตาแก่เฉินนั่ง

“พ่อ พี่ใหญ่!” ทั้งสองคนเข้าไปทักทาย

ตาแก่เฉินพยักหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยชัดนักว่า "มากันแล้ว? ดูโคมไฟ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน