หลังจากนั้น เฉินสือซ่วนยังคงตอบปริศนาอักษรถูกอีกหลายคำ กลับกันฝ่ายเหยาซื่อสามารถตอบสุภาษิตถูกไปได้หลายข้อ ชาวบ้านธรรมดา ไม่ว่าจะได้เรียนหรือไม่ได้เรียนหนังสือก็ตาม ล้วนมีความชำนาญในเรื่องสุภาษิตคำพังเพยที่คุ้นหูอยู่แล้ว
ดังคำกล่าวที่ว่า ต่อให้ไม่เคยกินเนื้อหมูมาก่อน แต่ก็ต้องเคยเห็นหมูเดินกันบ้างแหล่ะ (*หมายถึงต่อให้เราจะไม่เคยทำสิ่งนั้นมาก่อน แต่ก็พอรู้อยู่ว่าสิ่งนั้นมันเป็นยังไง)
ความกระตือรือร้นของทุกคนสูงมาก จนถึงช่วงท้าย เฉินหลี่ซื่อก็ถึงกับพาเฉินหลิ่วเอ๋อมาปรากฏตัวในลานกิจกรรมด้วย ท้องของเฉินหลิ่วเอ๋อเริ่มนูนขึ้นมาจนเห็นเด่นชัดแล้ว ขณะยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนก็สั่นไหวโอนเอนไปมาไม่ค่อยมั่นคง
พอจะเห็นได้ชัดว่า นางห่วงใยเด็กคนนี้มากขนาดไหน
สาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ ประคองนางไว้ไม่อยู่ จึงถูกนางหยิกแรง ๆ ไปหนึ่งที “เจ้าเป็นคนตายรึ?”
อารมณ์บนใบหน้าสาวใช้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่หยุด แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้เถียงอะไรกลับไป แค่พูดด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ ว่า “ฮูหยิน เป็นความผิดของข้าเอง ขอท่านอย่าได้โกรธเคืองไปเลย”
เฉินหลี่ซื่อก็จ้องสาวใช้คนนั้นตาเขม็ง “ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่ามีเจ้าไว้ทำประโยชน์อะไร? เจ้าคิดว่าพาเจ้าออกมาดูโคมจริง ๆ น่ะรึ? หน้าที่ของเจ้าคือดูแลฮูหยินให้ดีต่างหาก”
“เจ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่า ”
เฉินหลี่ซื่อผู้เสพติดการก่นด่าสั่งสอนผู้อื่นจนขึ้นสมอง เปิดปากพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หลิ่วเอ๋อ วันนี้เป็นวันดี อย่าโกรธเลยนะ”
ขณะที่พูดอยู่ เฉินอวี้หมิงก็เริ่มอ่านอักษรปริศนาอีกตัว "จงใจไม่มา เลือกเพียงหนึ่งคำ"
ในสถานกาณ์แบบนี้ พวกคนที่มีการตอบสนองมักเป็นเด็ก ๆ ในหมู่บ้านที่เรียนอยู่ คนที่อยู่ในวัยเดียวกับผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้ใหญ่ที่เคยเรียนหนังสือมา จะไม่มีใครตอบคำถาม
ลู่ม่านหัวเราะเบา ๆ ก้มหน้าลงมองเฉินสือซ่วน “สือซ่วน เจ้าเดาออกหรือไม่?”
เฉินสือซ่วนพยักหน้า “ข้าคิดว่าพอจะเดาออกแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นไปลองอีกครั้งเถอะ” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม
เฉินสือซ่วนพยักหน้ารับ ผู้ปกครองคนอื่น ๆ ต่างก็กระตือรือร้นมากเช่นกัน พากันก้มหน้าถามลูก ๆ ของตัวเองกันใหญ่ มีเด็กคนหนึ่งที่ก็ไม่รู้ว่าเขาเดาคำใบ้ออกแล้วหรือเปล่า แต่พอผู้ปกครองเรียกให้เขาขึ้นไป เขากลับอายไม่กล้าขึ้นไปตอบ ได้แต่ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว
บังเอิญไม่ทันระวัง ไปเหยียบโดนนิ้วเท้าของเฉินหลิ่วเอ๋อ เฉินหลิ่วเอ๋อผรุสวาทอีกฝ่ายเหมือนเป็นศัตรูตัวฉกาจทันที “นี่เจ้าไม่มีตารึ?”
แม้จะพูดได้ว่าแต่ก่อนนี้เฉินหลิ่วเอ๋อก็ทำตัวไม่ดีกับคนอื่นมาตลอด แต่ก็ไม่เคยทำแบบนี้ในหมู่บ้าน ตอนนี้จู่ ๆ ก็กลายเป็นแบบนี้ไปอย่างกะทันหัน ว่ากันตามจริงมันก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่นางต้องเป็นตัวรองรับอารมณ์ในตระกูลสงมานาน
นางถูกกดขี่รังแก ในใจเกิดเป็นความโกรธแค้น เมื่อกักเก็บอัดอั้นเอาไว้นาน ๆ เข้า จิตใจของนางก็เริ่มบิดเบี้ยว
กระทั่งเมื่อสบโอกาสดี ๆ นางจะไม่ระบายมันออกมาเชียวหรือ?
ผู้ปกครองของเด็กคนนั้นถูกด่าจนมึนไปหมด แต่ผู้ปกครองคนนั้นเองก็เป็นพวกร้ายไม่ใช่เล่น ๆ เหมือนกัน นางเป็นคนในครอบครัวของน้องเขยของเฉินเหมยเซียง ชื่อว่าหางซื่อ
ดวงตาของหางซื่อจ้องเขม็ง ดึงตัวลูกชายไปไว้ข้างหลัง “ที่แท้ก็เป็นหลิ่วเอ๋อนี่เอง ข้ายังนึกว่าใครเสียอีก? เป็นอะไรไปล่ะ? ตอนนี้ได้แต่งเข้าไปเป็นเมียแทนเมียเจ้าบ้านที่ตายไป ก็เลยคิดว่าตัวเองบินขึ้นไปเกาะกิ่งสูงได้แล้วงั้นสิ? ไม่ต้องเห็นหัวเด็ก ๆ ในหมู่บ้านแล้วก็ได้สินะ?"
เฉินหลิ่วเอ๋ออวดอ้างไปทั่วว่าตัวเองมีวาสนา มีชะตาชีวิตที่จะเป็นคุณนายผู้ร่ำรวย แต่ใครจะรู้ว่าสุดท้ายนางกลับเป็นได้แค่เมียที่แต่งแทนเมียเก่าที่ตายไป ดังนั้น ตอนที่นางแต่งออกไปจึงไม่บอกใครเลยทั้งสิ้น แอบ ๆ ย่อง ๆ ออกไปทั้งอย่างนั้น
แต่นางลืมไปแล้วว่า พวกผู้หญิงในหมู่บ้านเป็นพวกที่พออยู่ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ ก็จะชอบปากยื่นปากยาวจับกลุ่มซุบซิบนินทา วิพากษ์วิจารณ์เรื่องของคนอื่นตลอด
โลกใบนี้ไม่มีกำแพงผืนไหนที่ลมไม่อาจลอดผ่าน ในเมื่อทำไปแล้ว มีหรือที่จะไม่ถูกคนอื่นสังเกตเห็น? ดังนั้น เรื่องที่ว่าเฉินหลิ่วเอ๋อแต่งไปเป็นเมียตัวแทนของเศรษฐีที่เมียเก่าตาย จึงกลายเป็นความลับที่ไม่ลับในหมู่บ้านมานานแล้ว
ที่ทุกคนไม่พูด ก็เพราะเห็นแก่หน้าของเฉินจื่ออานที่ทำประโยชน์มากมายให้หมู่บ้าน แต่เพราะสามีภรรยาหางซื่อนั้นเป็นพวกไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมมาตลอด ย่อมไม่สนใจหน้าตาของใครทั้งนั้น บังอาจมารังแกลูกชายของพวกเขา นั่นไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะอยู่เฉย ๆ โดยไม่โกรธได้
“เจ้า เจ้าพูดจาเหลวไหล” เฉินหลิ่วเอ๋อถูกเรียกชื่อกะทันหัน จึงไร้ปฏิกิริยาตอบสนองไปชั่วขณะ
“ข้าพูดจาเหลวไหล? ไม่ลองถามทุกคนดูล่ะว่ามีใครบ้างที่ไม่รู้ ? นี่ยังต้องให้ข้าพูดจาเหลวไหลอะไรอีกหรือ?”
ความรู้สึกอยากปกป้องลูกสาวของเฉินหลี่ซื่อพลันพวยพุ่ง นางพุ่งเข้าไปบิดแขนของหางซื่อตรง ๆ “นังผู้หญิงปากหมา หลิ่วเอ๋อของข้าเป็นคนที่เจ้าจะด่าได้ตามใจชอบรึ? ข้าจะตีเจ้าให้ตายเลยคอยดู!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...