ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 410

สรุปบท บทที่ 410 ปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรม: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปเนื้อหา บทที่ 410 ปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรม – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บท บทที่ 410 ปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรม ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ผู้ใหญ่บ้านเฉินจัดการเสร็จเรียบร้อยก็พูดว่า “ทุกคนไปดูโคมไฟกันต่อเถอะ!”

ฝูงชนแยกย้ายกันไป เฉินจื่ออานกับลูม่านถึงค่อยเห็นเฉินหลี่ซื่อในที่สุด นางกำลังผลักฝูงชนออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะกางแขนออกจนกว้างขณะที่วิ่งตรงไปหาเฉินหลิ่วเอ๋อที่อยู่อีกด้าน

“หลิ่วเอ๋อ เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” เฉินหลี่ซื่อถามพลางมองสำรวจเฉินหลิ่วเอ๋อขึ้น ๆ ลง ๆ

“ไม่เป็นไร!” เฉินหลิ่วเอ๋อส่ายหน้า มือกุมที่ท้องยืนอยู่กับที่ด้วยความรู้สึกร้อนตัว 

เฉินหลี่ซื่อไม่ได้นึกสงสัยนางเลย เข้าไปจับมือเฉินหลิ่วเอ๋อแล้วถามว่า “ไม่เป็นไรจริง ๆ หรือ? นังผู้หญิงน่าตายนั่นไม่ได้เตะโดนเจ้าใช่หรือไม่?"

“ข้าไม่เป็นไร!” เฉินหลิ่วเอ๋อสะบัดมือของเฉินหลี่ซื่อออก

เฉินหลี่ซื่อคิดแค่ว่าเฉินหลิ่วเอ๋อคงจะกลัว จึงลากนางกลับไป สองคนแม่ลูกลืมสาวใช้ที่ถูกเตะคนนั้นไปอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครสนใจไยดีนางเลย

เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว แล้วหันไปมองลู่ม่าน ทำท่าทางอึกอักลังเล

ลู่ม่านจ้องมองเขาอย่างจนใจ “ถ้าเจ้าอยากไปดูก็ไปเถอะ จะทำท่าทางอึกอักลังเลแบบนี้ทำไมกัน?”

“เสี่ยวม่าน เจ้าช่างรู้ใจข้าจริง ๆ”

“ไม่ใช่ว่าข้ารู้ใจเจ้าหรอก แค่อย่างน้อยข้าก็ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้างต่างหาก!” ลู่ม่านพูด

เฉินจื่ออานขมวดคิ้วมุ่น ถอนหายใจแล้วพูดว่า "หลิ่วเอ๋อกับแม่ ก็เกินไปแล้วจริง ๆ นั่นแหล่ะ"

“ไอ้ที่ว่าเกินไปน่ะยังมีหลังจากนั้นอีกนะ!” ลู่ม่านพลั้งปากพูด เมื่อครู่นี้นางเห็นกับตาตัวเองเลยว่า ตอนที่เฉินหลี่ซื่อกับหางซื่อทะเลาะกันอยู่ เฉินหลิ่วเอ๋อเอาแต่ยืนอยู่นอกกลุ่มฝูงชนตลอด ไม่ยอมออกหน้ามาช่วยเลย

ในบางครั้ง การจะดูนิสัยใจคอใครสักคน แค่ดูจากรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะมองเห็นความจริงได้แล้ว เฉินหลิ่วเอ๋อคนนี้ตอนที่เผชิญหน้ากับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถสะบัดเฉินหลี่ซื่อทิ้งได้แบบไม่ไยดี แล้วถ้าวันหลังเกิดเรื่องอะไรใหญ่โตขึ้นมาล่ะจะเป็นยังไง?

ลู่ม่านไม่อยากจะคิดเรื่องนี้ต่อเลย

สาวใช้คนนั้นถูกยกเข้าไปในห้องเรียน พวกเขาจัดโต๊ะมาเรียงกันแทนเตียง แล้ววางตัวนางลงบนนั้น หมอกำลังตรวจรักษาอาการให้ จากนั้นก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ม้ามได้รับบาดเจ็บหนัก เกรงว่าจะช่วยไว้ไม่ได้แล้วล่ะ!”

ทุกคนต่างพากันตกตะลึง ผู้ใหญ่บ้านเฉินดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที “เจ้าช่วยคิดหาทางอีกหน่อยเถอะนะ!” แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวอะไรกับเขา แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ใหญ่ประจำหมู่บ้านนี้

ในฐานะผู้ใหญ่ที่ต้องควบคุมดูแลคนทั้งหมู่บ้าน เขาไม่อาจปล่อยให้หมู่บ้านของเขาเกิดเหตุฆ่าคนคนหนึ่งตายเพียงเพราะการทะเลาะวิวาทได้

“ข้าไม่มีทางอื่นแล้วจริง ๆ!” ท่านหมอพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ข้าพยายามจนสุดความสามารถแล้ว หรือไม่เจ้าก็ลองเชิญหมอเก่ง ๆ คนอื่นดูเถอะ!”

พูดจบ หมอคนนั้นก็เดินออกไปราวกับจะหนีตาย ไม่สนใจการเหนี่ยวรั้งของทุกคนที่นั่นเลย

เฉินจื่ออานขมวดคิ้วมุ่น “ลุงผู้ใหญ่บ้าน ท่านอย่าเพิ่งร้อนใจ ข้าจะกลับไปเตรียมรถแล้วไปเชิญหมอจากร้านขายยาฉืออานมาตรวจดูให้”

ยังพูดไม่ทันจบ ก็มีคนตะโกนขึ้นมาเสียงดังลั่น “ผู้ใหญ่บ่าน ....นางตายแล้ว...”

เฉินจื่ออานก้าวขึ้นไปข้างหน้า ก่อนจะยื่นมือไปตรวจสอบ จึงพบว่าสาวใช้คนนั้นตายแล้วจริงๆ

ผู้ใหญ่บ้านเฉินกัดฟันกรอด “พวกเจ้าตรงนั้น ไปจับตัวหางซื่อกับเฉินหลี่ซื่อมาคุมตัวไว้ก่อน”

เฉินจื่ออานอ้าปากพะงาบ ๆ แต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว เรื่องนี้มันเกิดจากเฉินหลี่ซื่อกับหางซื่อเป็นเหตุ ตอนนี้พวกนางทำร้ายคนตายไปแล้วจริง ๆ ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้อีกแล้ว

หลังจากที่ทุกคนไปหมดแล้ว ลู่ม่านก็เข้ามาจับมือเฉินจื่ออาน “จื่ออาน เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เฉินจื่ออานหัวเราะอย่างขมขื่น “ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต ติดหนี้ก็ต้องจ่ายคืน ไม่มีอะไรที่จะพูดได้อีกแล้วล่ะ!” พูดจบ เขาก็หันหลังกลับแล้วเดินออกไปทันที

เรื่องการตายของสาวใช้คนนั้น เพียงอึดใจเดียวก็เล่าลือกันไปทั่วทั้งหมู่บ้านทันที ทุกคนต่างก็ไม่มีอารมณ์จะทายปริศนาโคมกันต่อแล้ว ใครที่ขวัญกล้าหน่อย ก็ไปดูให้เห็นกับตาที่โรงเรียน

ส่วนคนที่ขวัญอ่อน ก็รีบกลับไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านแล้วเข้านอนทันที

ตอนที่ทุกคนเร่งไปที่บ้านตระกูลเฉิน หางซื่อก็กำลังเก็บข้าวของเตรียมพาลูกชายกลับไปบ้านเดิมพอดี ขณะถูกจับทุกคนต่างก็พูดกันว่า หางซื่อคนนั้นแข็งแรงอย่างน่าเหลือเชื่อ ตอนแรกจะเป็นจะตายนางก็ไม่ยอมให้จับแต่โดยดี

หลังจากที่เฉินจื่ออานกับลู่ม่านกลับไปแล้ว ก็นอนไม่หลับเลย จนกระทั่งกลางดึกเฉินจื่อฉายค่อยมาหาถึงบ้าน

“จื่ออาน แม่ของพวกเราถูกจับไปแล้ว!”

ครั้งก่อนที่เฉินจื่อฉายพูดว่าเขาจะไม่สนใจเฉินหลี่ซื่ออีกต่อไปแล้ว นั่นก็เป็นแค่ฉากหน้าเท่านั้น เวลาที่คุยกันลับหลังกับพวกเฉินจื่ออาน ก็ยังเรียกว่าแม่เหมือนเดิม เพราะถึงอย่างไรนางก็เป็นคนที่ให้กำเนิดเขาและเลี้ยงดูเขามาจนเติบใหญ่ ต่อให้ไม่ชอบอีกสักแค่ไหน ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดีเหมือนกัน

“ข้ารู้แล้ว” เฉินจื่ออานพยักหน้า

“เจ้ารู้แล้วรึ? แล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะ?” เฉินจื่อฉายถาม “พ่อรู้แล้วด้วย ตอนนี้อารมณ์ไม่ดีมาก ๆ เอาแต่ถอนหายใจตลอดเวลาเลย”

เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว “พี่ใหญ่ พี่ดูแลพ่อให้ดี ๆ ก็พอ บอกเขาว่าอย่าคิดอะไรมาก เรื่องครั้งนี้แม่ก็ไม่ใช่คนที่เตะสาวใช้คนนั้นจนตาย อย่างมากก็คงแค่ถูกขังชั่วคราวเท่านั้นแหล่ะ”

เฉินจื่อฉายเองก็มีเส้นแบ่งชัดในใจ แต่ก็พูดอีกครั้งว่า “จื่ออาน ไม่ใช่ว่าหลังปีใหม่เจ้าก็จะเข้าสอบคัดเลือกฤดูใบไม้ผลิแล้วหรอกหรือ? น่ากลัวว่าเรื่องนี้จะไม่ดีสำหรับการสอบคัดเลือกช่วงฤดูใบไม้ผลิของเจ้านะ”

เฉินจื่ออานหัวเราะอย่างขมขื่น “ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีหนทางอื่นแล้วล่ะ ปล่อยให้มันเป็นไปตามชะตากรรมเถอะ!” เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็แยกบ้านออกมาแล้ว ต่อให้จะได้รับผลกระทบจริง มันก็เป็นเรื่องของโชคชะตาแล้ว”

เฉินจื่อฉายถอนหายใจเฮือก ยกมือขึ้นลูบ ๆ ผมตัวเองแล้วนั่งยอง ๆ ลงกับพื้น

“เจ้าว่าเรื่องพวกนี้มันควรจะเรียกว่าอะไรดีรึ? เรื่องที่เป็นประโยชน์ไม่เคยมีส่วนของเรา มีแต่เป็นของจื่อคังกับหลิ่วเอ๋อ แต่พอมีเรื่องอะไรขึ้นมา กลับเป็นเราสองคนที่ต้องมาช่วยกันแบกรับ!”

เห็นได้ชัดว่า ความคิดแง่ลบที่เฉินจื่อฉายมีต่อเฉินหลี่ซื่อนั้น ยิ่งนับวันก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว

พอลองมาคิด ๆ ดูก็จริงตามนั้น ถ้าเฉินเถาฮัวนั่นไม่ถูกขายไปเมื่อตอนนั้น ก็ไม่แน่ว่าอาจไม่ได้เดินมาจนถึงทางตันที่มันไร้ทางถอยเช่นนี้ แต่งกับหญิงชั่วต้องโชคร้ายไปสามชั่วอายุคน ช่างเป็นความจริงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่โบราณกาลโดยแท้

“พี่ใหญ่ ช่างมันเถอะ เวลานี้มาพูดเรื่องพวกนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไรล่ะ? คอยดูเหตุการณ์กันไปก่อนเถอะนะ!”

เฉินจื่อฉายพยักหน้า ก่อนจะเดินกลับไป แต่ใครเลยจะรู้ว่า เรื่องนี้กลับไม่ได้ง่ายดายเหมือนอย่างที่พวกเขาคิด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน