ตอน บทที่ 411 ผลกรรมตามมาทันแล้ว จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 411 ผลกรรมตามมาทันแล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินจื่ออานยังคงไม่วางใจอาการของตาแก่เฉิน จึงไปที่บ้านเก่าอีกรอบ
ถึงอย่างไรมันก็เป็นเรื่องใหญ่ ลู่ม่านจึงตามเขาไปด้วย
เพิ่งมาถึงหน้าประตู ก็เห็นเฉินจื่อฉายยืนอยู่ข้างนอก เดินวนไปเวียนมาอย่างร้อนใจ “พี่ใหญ่ นี่พี่รอใครอยู่น่ะ? หรือว่าพ่ออาการไม่ดี?”
เฉินจื่ออานถาม
“ไม่ใช่!” เฉินจื่อฉายรีบส่ายหน้า “พ่อไม่ได้เป็นอะไรหรอก เขาเป็นห่วงรู้สึกวางใจไม่ลง ก็เลยบอกให้ข้ามารอลุงผู้ใหญ่บ้านที่นี่น่ะ!”
ระหว่างที่พูดอยู่ รถม้าของผู้ใหญ่บ้านเฉินก็วิ่งมาจากที่ไกล ๆ เฉินอวี้หมิงพาผู้ใหญ่บ้านเฉินกลับมาจากตำบลในสภาพที่ทั้งหน้าทั้งหัวเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นผง
ทั้งสามคนรีบวิ่งกรูเข้าไปล้อมหน้ารถอย่างรวดเร็ว “ลุงผู้ใหญ่บ้าน…”
ผู้ใหญ่บ้านเฉินได้ยินเสียง จึงร้องบอกให้เฉินอวี้หมิงหยุดรถ ก่อนจะดึงม่านลง
“ข้ากำลังจะไปบ้านเจ้าพอดีเลย ไปเถอะ เข้าไปคุยกันข้างใน”
ทันทีที่เข้าบ้านได้ เฉินจื่อฉายก็ถามว่า “เป็นยังไงบ้าง ลุงผู้ใหญ่บ้าน?”
ผู้ใหญ่บ้านเฉินถอนหายใจเฮือก “น่ากลัวว่าจะไม่ดีแล้วล่ะ”
คำพูดนั้นแช่แข็งสภาพอากาศในบ้านให้แข็งค้างขึ้นมาทันที สุดท้ายก็เป็นเฉินจื่อฉายที่พูดทำลายความเงียบขึ้นว่า “สรุปว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ไม่ใช่บอกไปแล้วรึ ว่าแม่ของข้าไม่ได้ทำร้ายคนโดยตรง อย่างมากสุดก็แค่เป็นผู้มีความผิดร่วมน่ะ?”
ผู้ใหญ่บ้านเฉินถอนหายใจอีกครั้ง “ตอนแรกมันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ แต่ไม่รู้ว่าหางซื่อคนนั้นเกิดอะไรขึ้น? บ้านนางมีญาติห่าง ๆ คนหนึ่งที่เป็นอนุของเป๋าจ่าง*(ผู้ดูแลประจำตำบล) ไม่รู้ว่าอนุคนนั้นไปพูดอะไรกับเป๋าจ่าง ทำให้เช้านี้ระหว่างการพิจารณาคดี เป๋าจ่างคนนั้นบอกมาว่าแม่ของเจ้าเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน ทำให้ความรับผิดชอบหลักไปตกอยู่ที่แม่ของเจ้า ยิ่งไปกว่านั้น ตอนเกิดเหตุวิวาทสาวใช้คนนั้นก็เป็นฝ่ายพุ่งขึ้นไปเองด้วย”
เพิ่งจะสิ้นเสียงของผู้ใหญ่บ้านเฉิน ก็มีเสียง “ตึง” ดังขึ้นที่นอกประตู เฉินจื่อฉายผุดลุกขึ้นตะโกนถามว่า "นั่นใครน่ะ?"
คนที่อยู่ด้านนอกรีบหันหลังเดินจากไปทันที เฉินจื่อฉายรีบตามออกไปดู ทันได้เห็นชายผ้ามุมหนึ่งไว ๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นเฉินหลิ่วเอ๋อ
เฉินจื่อฉายเดินกลับมาด้วยสีหน้ามืดมน เฉินจื่ออานรีบถามว่า "ใครหรือ?"
“หลิ่วเอ๋อ พอข้าไล่ตามไป นางก็รีบเดินหนีไปเลย”
เมื่อคิดถึงน้องสาวคนนี้ พวกเขาสองพี่น้องก็อดถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มไม่ได้
ลู่ม่านถามว่า “ลุงผู้ใหญ่บ้าน ยึดตามที่ลุงพูดมา ถ้าเป๋าจ่างคนนั้นโยนความรับผิดชอบทั้งหมดมาไว้ที่แม่ของข้า แบบนั้นพวกเราจะจัดการยังไงกันดีล่ะ?”
ผู้ใหญ่บ้านเฉินขมวดคิ้วมุ่น “ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องรอดูว่าครอบครัวของสาวใช้คนนั้นจะว่าอย่างไรแล้วล่ะ ถ้าพวกเขาต้องการให้ชดใช้ด้วยชีวิต แม่ของเจ้าก็คง....”
“หา?” เฉินจื่อฉายก็ตกตะลึงจนตาค้างไปด้วยแล้ว “ต้องการให้ชดใช้ด้วยชีวิตรึ!”
ทุกคนต่างเงียบงันกันไปชั่วขณะ บรรยากาศพลันเงียบเชียบลงจนน่ากลัว ที่ด้านในไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ตาแก่เฉินเดินลากสังขารตัวเองออกมา แล้วมายืนพิงตรงตำแหน่งผ้าม่านที่หน้าประตู
“ผู้...ใหญ่...บ้าน” เขาพยายามเค้นคำพูดสามคำนี้ออกมาอย่างยากลำบาก "ไม่...ได้……"
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ใหญ่บ้านเฉินได้เจอตาแก่เฉินหลังจากเกิดเรื่องเมื่อครั้งนั้น เห็นเขาเปลี่ยนไปจนมีสภาพแบบนี้ ก็ตกใจจนผงะ“พี่เฉิน ทำไมพี่ถึงมีสภาพเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย?”
ตาแก่เฉินส่ายหน้า ปากก็เอาแต่บ่นพึมพำไม่หยุด "ไม่...ได้……"
“พี่เฉิน เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจไป ข้าจะคิดหาทางให้เอง!”
เมื่อเฉินจื่อฉายเห็นว่าตาแก่เฉินร้อนใจจนเป็นขนาดนั้นแล้ว ก็รีบขอร้องผู้ใหญ่บ้านเฉิน “ท่านลุง เรามาลองคิดหาวิธีเร็วเข้าเถอะ! อาการของพ่อข้าตอนนี้ ทนรับแรงกระตุ้นอะไรไม่ไหวแล้วนะ!”
คนที่อยู่ข้างในทั้งไม่เปิดประตู ทั้งไม่มีการตอบสนองใด ๆ ทั้งสิ้น ราวกับว่าไม่มีคนคนนี้อยู่ในห้องอย่างไรอย่างนั้น
ลู่ม่านขมวดคิ้วมุ่น “ถ้าเจ้าไม่ยอมเปิดประตูก็ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวข้าจะพูดอยู่ข้างนอกนี่แหล่ะ แต่ข้าออกจะเป็นคนพูดเสียงดังพอสมควร ถ้าเกิดถูกใครที่อยู่ข้างบ้านได้ยินอะไรเข้า แล้วเอาไปซุบซิบนินทาต่อ แบบนั้นข้าก็ไม่รับผิดชอบหรอกนะ”
เพิ่งจะพูดจบ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านใน
เพียงไม่นาน ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านใน เฉินหลิ่วเอ๋อใช้มือพยุงที่ท้อง จ้องมองลู่ม่านที่อยู่ข้างนอกด้วยแววตาโกรธเคือง “เจ้าคิดจะพูดอะไรกันแน่?”
ลู่ม่านไม่สนใจนาง ผลักประตูจนเปิดกว้างแล้วเดินเข้าไปข้างในเอง
เฉินหลิ่วเอ๋อที่อยู่ด้านหลังงับปิดประตูเรียบร้อย ค่อยพูดขึ้นอีกครั้งว่า “เจ้าคิดจะพูดอะไรกันแน่? รีบ ๆ พูดมา พูดจบแล้วข้ายังต้องไปนอนต่ออีกนะ!”
“เจ้ายังมีแก่ใจนอนหลับลงอยู่อีกรึ?” ลู่ม่านรู้สึกยกย่องแม่เฉินหลิ่วเอ๋อคนนี้จริง ๆ “แม่ที่รักเจ้าห่วงใยเจ้ามาตลอดคนนั้น เวลานี้กำลังทุกข์ทรมานอยู่ในคุกนะ!”
สีหน้าของเฉินหลิ่วเอ๋อเปลี่ยนไปเล็กน้อย "ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น แล้วก็ไม่มีอะไรจะพูดด้วย เจ้าออกไปซะ!"
“เจ้าไม่รู้จริง ๆ น่ะหรือ?” ลู่ม่านแค่นเสียงในลำคอ “ถ้าข้าจำไม่ผิดล่ะก็ เมื่อวานนี้เพื่อเจ้าแล้วแม่ของเจ้าถึงได้ไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับหางซื่อคนนั้นสินะ? เมื่อครู่ผู้ใหญ่บ้านก็มาพูดแล้วว่าทางบ้านหางซื่อไปหาคนมาช่วยหนุนหลังได้แล้ว ตอนนี้ปัญหาทั้งหมดถูกโยนตรงมาที่แม่ของเจ้าเต็ม ๆ เวลานี้คนเดียวที่จะช่วยแม่ของเจ้าได้ ก็มีแค่เจ้าเท่านั้นแล้ว!"
พูดจบ ลู่ม่านก็ไม่รอให้เฉินหลิ่วเอ๋อพูดอะไรทั้งนั้น สาวเท้าเดินออกจากห้องไปทันที
เพิ่งจะเดินออกมาด้านนอก ก็ได้ยินเสียงประตูด้านหลังกระแทกปิดดัง “ปัง”
ลู่ม่านแค่นเสียงหัวเราะเย็นชาขึ้นมาเสียงหนึ่ง ผลเป็นไปตามคาด สิ่งที่นางคิดเมื่อคืนนี้มันถูกต้องทุกอย่างจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าผลกรรมมันจะตามมาเร็วขนาดนี้
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเฉินหลี่ซื่อได้รู้เรื่องราวทั้งหมดนี้แล้ว ในใจนางจะรู้สึกอย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...