ที่นอกประตู เฉินจื่ออานกับเฉินจื่อฉายต่างก็เบิกตารอคอยลู่ม่านด้วยใจที่คาดหวังเต็มเปี่ยม
ลู่ม่านส่ายหน้า “ข้าพูดไปหมดแล้ว แต่นางจะยอมฟังข้าหรือไม่ อันนั้นก็ไม่แน่ใจแล้วล่ะ”
“นางไม่ยอมช่วยรึ?” เฉินจื่อฉายทำท่าเหมือนได้ยินเรื่องอะไรที่มันน่าตกใจมาก ๆ ก็ไม่ปาน “แม่ดีกับนางตั้งขนาดนั้นแท้ ๆ ทำไมนางถึงไม่ยอมช่วยล่ะ?”
ช่างไร้เดียงสากันเกินไปอย่างที่คิดจริง ๆ ลู่ม่านพูดแบบทีเล่นทีจริงว่า “นั่นก็ต้องไปถามนางดูแล้วไหม? ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะ”
พูดจบ นางก็หันไปมองเฉินจื่ออาน
เฉินจื่ออานดูสงบนิ่งกว่าเฉินจื่อฉายมาก อย่างน้อยเขาก็เป็นคนแรกที่รู้เช่นเห็นชาตินิสัยใจคอของพวกคนบ้านเฉินหลายคน ดังนั้นตั้งแต่เมื่อเช้าเขาก็คิดถึงจุดนี้มาบ้างแล้ว ทำให้ตอนนี้นอกจากท่าทางผิดหวังเล็กน้อยแล้ว เขาก็ไม่มีท่าทีอื่นใดอีก
“ไม่ได้ ข้าต้องไปพูดกับหลิ่วเอ๋ออีกครั้ง....”
เฉินจื่อฉายพูดพลาง ก็ทำท่าจะเดินเข้าไป คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเดินไปถึงประตู ก็เห็นประตูห้องของเฉินหลิ่วเอ๋อถูกเปิดจากด้านใน วินาทีถัดมา ก็เห็นห่อสัมภาระในมือของนาง เขาถึงกับตกตะลึงจนตาค้างไปชั่วขณะ
“หลิ่วเอ๋อ นี่เจ้าจะ.....”
“กลับบ้าน!” เฉินหลิ่วเอ๋อพูดอย่างรังเกียจ พูดจบ ก็ผลักเฉินจื่อฉายออกไปให้พ้นทาง ทำท่าจะออกไปเลยทันที
เฉินจื่อฉายกลับถอนหายใจด้วยความโล่งอก “หลิ่วเอ๋อ นี่เจ้าจะกลับไปขอร้องบ้านสามีของเจ้าอย่างนั้นสินะ? ดีเหลือเกิน ข้ารู้อยู่แล้วล่ะว่าเจ้าต้องไม่ใช่คนใจคอโหดร้ายอะไรแบบนั้นแน่”
เฉินหลิ่วเอ๋อไม่สนใจเขา ทุกคนคิดกันว่านางคงยอมรับฟังแต่โดยดี จึงปล่อยให้นางจากไป
“จากนี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ หลิ่วเอ๋อกลับไปแล้ว แม่ไม่มีปัญหาอะไรแน่”
ลู่ม่านกลับรู้สึกว่าพวกเขาไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ท่าทางที่เฉินหลิ่วเอ๋อแสดงออกมา จะดูอย่างไรก็ไม่เหมือนว่านางจะกลับไปร้องขอความช่วยเหลือเลยสักนิด พวกเขาไม่เคยคิดกันเลยหรือ ว่าเฉินหลิ่วเอ๋อจะไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีกน่ะ?
แต่หลังจากที่ลู่ม่านคิดเรื่องนี้ไป ๆ มา ๆ ก็ตัดสินใจว่าไม่พูดออกมาจะดีกว่า
กับคนอย่างเฉินหลี่ซื่อ ต้องให้นางได้ลิ้มรสชาติของการถูกทรยศหักหลังเสียบ้าง นางถึงจะรู้ซึ้งถึงความโศกเศร้ารันทดว่ามันเป็นยังไง
ในตอนบ่าย หลังจากผู้ใหญ่บ้านเฉินพักผ่อนแล้ว ก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าเฉินหลิ่วเอ๋อกลับไปแล้ว ผู้ใหญ่บ้านเฉินก็โล่งอกมากเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปดูสถานการณ์ที่ตำบลหน่อย หากไม่มีอะไรผิดพลาด หลิ่วเอ๋อก็น่าจะกลับไปถึงตำบลแล้วล่ะ”
ที่ด้านหลัง จู่ ๆ เฉินจื่ออานก็พูดโพล่งขึ้นมาว่า “ท่านลุง ข้าไปกับท่านด้วยดีกว่านะ!”
ลู่ม่านเห็นท่าทางของเขา ก็เหมือนจะเดาได้คร่าว ๆ ว่าเขาเองคงจะคิดได้ผลลัพธ์แบบเดียวกับลู่ม่าน เพราะถึงอย่างไร เฉินจื่ออานก็เป็นคนที่เคยเห็นหัวใจอันโหดร้ายดำมืดของเฉินจื่อคังกับเฉินหลิ่วเอ๋อมาก่อน
พวกเขาเป็นพวกเห็นแก่ตัวจริง ๆ เพื่อตัวเองแล้วไม่ว่าอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น
“ถ้างั้นข้าก็จะไปกับจื่ออานด้วย!” ลู่ม่านพูด
มีพวกเขาสองคนตามไปด้วย เฉินจื่อฉายก็รู้สึกวางใจขึ้นมาก “ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว พวกเจ้าไปเถอะ ข้าอยู่บ้านเป็นเพื่อนพ่อเอง”
ใครจะรู้ว่าตาแก่เฉินกลับมีท่าทางตื่นตระหนกมาก “จื่ออาน....อย่าไป...”
เฉินจื่ออานเดินกลับมา คุกเข่าลงมองตาแก่เฉินพลางพูดว่า “พ่อ ข้าไปดูแค่เดี๋ยวเดียวก็กลับมาแล้ว”
“อย่าไป...” ตาแก่เฉินยังคงยืนกราน
เฉินจื่ออานรู้สึกงงงัน “พ่อ นี่พ่อเป็นอะไรไปน่ะ? เมื่อครู่นี้ไม่ใช่ว่ายังห่วงแม่อยู่เลยหรือ? ทำไมตอนนี้ถึงไม่ให้ข้าไปเสียแล้วล่ะ?”
ตาแก่เฉินพูดไม่ชัด ร้อนใจแทบคลั่ง "แม่เจ้า....หาเรื่องใส่ตัว....เจ้าอย่าไป....ชื่อเสียง...."
ลู่ม่านพลันกระจ่างขึ้นมาทันที "พ่อเป็นห่วงชื่อเสียงของเจ้าน่ะ"
ดังนั้น เมื่อครู่นี้ตาแก่เฉินไม่ได้ร้อนใจเพราะเรื่องที่เฉินหลี่ซื่อถูกจับ แต่เพราะกังวลว่าเฉินจื่ออานจะโดนเฉินหลี่ซื่อลากให้พลอยติดร่างแหไปด้วย จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเขาเวลาต้องเข้าสอบคัดเลือกช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า
มิน่าล่ะ เมื่อครู่นี้ลู่ม่านเองก็ยังนึกสงสัยอยู่ว่า ทั้งที่เฉินหลี่ซื่อคนนี้ไม่เคยมาดูดำดูดีอะไรตาแก่เฉินเลย ทำไมตาแก่เฉินถึงได้ดูห่วงใยนางมากขนาดนั้นได้
ที่แท้มันก็ไม่ใช่แต่แรกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...