อ่านสรุป บทที่ 414 ทางเลือก จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
บทที่ บทที่ 414 ทางเลือก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฝูเชิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
หลังจากได้รับข่าว เพียงไม่นานเฉินจื่อฟู่ก็มาถึงบ้านของเฉินจื่ออาน
“หลิ่วเอ๋อนี่เกินไปแล้วจริง ๆ นะ แม่ดีกับนางตั้งขนาดนั้นแท้ ๆ” ได้ยินคำพูดตำหนิติเตียนของเขา ทุกคนต่างก็เฉยชากันหมด
ยังดีที่เฉินจื่อฟู่เป็นคนประเภทที่ยอมรับอะไรได้ค่อนข้างง่าย เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนที่ทำอะไรเพื่อตัวเองมาตลอดเหมือนกัน
“ตอนนี้เพียงคนเดียวที่สามารถช่วยแม่ได้ ก็มีแค่จื่อคังเท่านั้นแล้วล่ะ ข้ากลับไปจะรีบไปหาเขา” เฉินจื่อฟู่พูดด้วยเสียงแผ่วเบา “แต่ว่านะ พี่ใหญ่ จื่ออาน พวกเจ้าต้องรับปากเงื่อนไขของข้าหนึ่งข้อ”
เฉินจื่อฉายถึงกับอ้าปากค้างด้วยความเหลือเชื่อกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า " เฉินจื่อฟู่ จนเวลานี้แล้ว เจ้ายังจะมีเงื่อนไขอีก? หรือว่านั่นไม่ใช่แม่ของเจ้า?"
เฉินจื่อฟู่หัวเราะฮิ ๆ ก่อนจะพูดว่า “พี่ใหญ่อย่าเพิ่งโกรธสิ แน่นอนว่านั่นย่อมเป็นแม่ของข้าด้วย นอกจากนี้ ข้าก็ไม่ได้จะขอเงื่อนไขอะไรที่มันมากเกินไปเสียหน่อย ข้าก็แค่หวังว่าถ้าในอนาคตจื่ออานสอบขุนนางผ่านแล้ว จะไม่หมางเมินข้าคนนี้ก็พอ”
เฉินจื่ออานไม่พูดอะไร กลับเป็นฝ่ายตาแก่เฉินที่อยู่ในห้องได้ยินคำพูดของเฉินจื่อฟู่ จึงหันหัวรถเข็นพาตัวเองออกมาทันที
ชั่วขณะที่เฉินจื่อฟู่ยังไม่สังเกตเห็นตัวเอง ก็คว้าปล้องยาสูบอันหนึ่งขึ้นมา แล้วหวดเข้าใส่ด้านหลังของเฉินจื่อฟู่ตรง ๆ แบบไม่ยั้ง “ไอ้ลูกสารเลว... ไอ้ชาติชั่ว!”
เฉินจื่อฟู่คิดไม่ถึงเลยว่า กระทั่งตาแก่เฉินก็ยังมาด้วย รีบกลับมาตั้งสติแล้วหันไปมองตาแก่เฉินที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟด้านหลัง ก่อนจะร้องถามว่า “พ่อ นี่พ่อดีขึ้นมากแล้วรึ?”
ตาแก่เฉินไม่สนใจคำถามของเขา ยังคงออกแรงหวดปล้องยาสูบใส่เขาไปอีกหลายที เฉินจื่อฟู่ร้องขอความเมตตาไม่หยุด "พ่อ! ข้ารู้ความผิดแล้ว! อย่าตีอีกเลย พ่อหยุดตีก่อนจะได้ไหม?"
ตาแก่เฉินก็เหมือนจะตีจนเหนื่อยแล้ว จึงยอมปล่อยมือในที่สุด
เฉินจื่อฉายรีบเข้าไปประคองตาแก่เฉิน "พ่อ อย่าโกรธเลยนะ" จากนั้นก็หันไปมองเฉินจื่อฟู่ "เจ้าไม่ได้บอกว่าจะไปหาจื่อคังหรอกรึ? ทำไมยังไม่รีบไปอีกล่ะ?"
เฉินจื่อฟู่ไม่กล้าพูดถึงเงื่อนไขอะไรอีกแล้ว รีบหันหลังแล้ววิ่งออกไปทันที
รอจนเฉินจื่อฟู่ไปไกลแล้ว ในที่สุดตาแก่เฉินก็ค่อยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นมาได้บ้าง ในดวงตาสีขุ่นมัวคู่นั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ที่ด้านนอก ตงจื่อกับพ่อของเขากำลังทำงานอยู่ที่นั่น สองคนพ่อลูก คนหนึ่งเดินอยู่ข้างหน้า อีกคนเดินตามอยู่ข้างนอก สองคนทำงานได้อย่างกลมกลืนเข้าขากันดีมาก ตาแก่เฉินรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่งลอบถอนหายใจอย่างแผ่วเบาเฮือกหนึ่ง
รอจนถึงตอนบ่าย ในที่สุดเฉินจื่อฟู่ก็กลับมา บอกว่าผู้ว่าการอำเภอรับปากแล้ว จะทำการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะก็ พรุ่งนี้ก็คงจะมีผลสรุปของคดีอย่างแน่ชัดแล้ว
เฉินจื่อฉายถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็หันไปมองเฉินจื่อคังด้วยความสงสัย “ทำไมจื่อคังถึงได้ยอมเชื่อฟังเจ้าง่าย ๆ ขนาดนั้นล่ะ?”
เฉินจื่อฟู่แสดงท่าทางลำพองใจ “ก็ข้าเป็นพี่รองของเขาน่ะสิ!”
เฉินจื่อฉายไม่เชื่อเด็ดขาด “เจ้ามันจอมวางแผน”
เฉินจื่อฟู่ไม่สนใจคำเหน็บแนมของเขา หันไปมองเฉินจื่ออานอีกครั้ง “จื่ออาน หลังปีใหม่เจ้าก็จะเข้าสอบคัดเลือกช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้วไม่ใช่รึ? อ่านหนังสือไปถึงไหนแล้วล่ะ?”
“ก็พอสมควรแล้วล่ะ!” เฉินจื่ออานพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี ในอนาคตถ้าทั้งเจ้ากับจื่อคังต่างก็ได้เป็นขุนนาง พี่รองคนนี้ก็รอเวลาโชติช่วงชัชวาลย์ได้เลย”
เฉินจื่ออานไม่สนใจเขา ลู่ม่านถามด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าไม่ได้ติดตามช่วยงานใต้เท้าซวนอยู่หรอกรึ?”
“ใต้เท้าซวนนั่นจะเทียบกับน้องชายแท้ ๆ ของตัวเองได้อย่างไรล่ะ”
ใต้เท้าซวนก็คือเฉินจื่อคัง แต่คนอื่นไม่รู้ความจริงข้อนี้ เห็นได้ชัดว่าเฉินจื่อฟู่ไม่พอใจในการทำงานภายใต้ความสัมพันธ์ที่เป็นความลับแบบนี้อีกต่อไปแล้ว จึงต้องการสายสัมพันธ์ที่สะดวกยิ่งขึ้น
ลู่ม่านคิดคำนวณในใจอย่างเงียบ ๆ ว่าจะต้องไม่ยอมให้เขาติดตามเฉินจื่ออานเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาคงเป็นอะไรที่เลวร้ายเกินจะคาดคิดแน่ ๆ
ดังที่กล่าวมา เฉินจื่อฟู่ยังคงรบเร้าอยู่กินข้าวมื้อเย็นที่นี่ก่อนถึงค่อยยอมกลับไป ผู้หญิงคนนั้นที่เคยมาปรากฏตัวก่อนหน้า ก็ไม่ได้มาปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านางถูกเฉินจื่อฟู่สลัดทิ้งอีกคนแล้วหรือเปล่า
วันรุ่งขึ้น ที่ทำการอำเภอก็ได้เปิดพิจารณาคดีของเฉินหลี่ซื่ออีกครั้งตามคาด
เฉินจื่อฉายเป็นคนไปดู เฉินจื่ออานกับลู่ม่านไม่มีใครไป ต่างอยู่เป็นเพื่อนตาแก่เฉินที่บ้าน จนถึงตอนเที่ยง ที่ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ปรากฏว่าเป็นเฉินจื่อฉายที่ประคองเฉินหลี่ซื่อกลับมาแล้ว
“น้องสะใภ้สาม เจ้าไม่รู้น่ะสิ ในศาลวันนี้หลังจากผู้ว่าการอำเภอตรวจสอบทุกอย่างชัดเจนดีแล้ว พบว่าต้นเหตุเป็นเพราะสาวใช้คนนั้นถูกหลิวเอ๋อผลักเข้าไป จึงถูกหางซื่อเตะตาย ดังนั้น ว่ากันตามจริงคือหางซื่อก็ไม่ได้เจตนา ดังนั้นจึงถูกตัดสินให้จำคุกแค่ครึ่งปี แต่หลิ่วเอ๋อถูกตัดสินให้จำคุกสองปี!”
“หา?” ลู่ม่านไม่รู้เรื่องนี้เลยจริง ๆ “เฉินหลิ่วเอ๋อติดคุกแล้ว?”
“ไม่หรอก!” เฉินจื่อฉายส่ายหน้า “ ตระกูลสงมาปรากฏตัว บอกว่าไม่ติดใจเอาความแล้ว พวกเขาเลยถูกปล่อยตัวกลับมาหมดเลย”
ดังนั้น สุดท้ายแล้วตระกูลสงเห็นแก่ความเป็นไปได้ที่นางอาจจะคลอดลูกแฝดชายหญิง จึงยอมแพ้ไม่ติดใจเอาความแล้ว ?
เรื่องครั้งนี้ ทำให้สถานการณ์ของเฉินหลิ่วเอ๋อยิ่งดูเลวร้ายลงไปอีก เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว ถ้าเด็กในท้องของเฉินหลิ่วเอ๋อไม่ใช่ฝาแฝดชายหญิง น่ากลัวว่าในอนาคต นางอาจมีชีวิตที่น่าอเนจอนาถยิ่งกว่าเดิมแน่
เฉินจื่ออานน่าจะตระหนักถึงจุดนี้ด้วย พลันขมวดคิ้วมุ่น
แต่ท้ายที่สุด เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกอย่างที่เฉินหลิ่วเอ๋อได้เจอในวันนี้ มันเป็นสิ่งที่นางเลือกเองทั้งหมด ในเมื่อมันเป็นทางที่ตัวเองเลือก ต่อให้ต้องคุกเข่ากระเสือกกระสนคลานไป นางก็ต้องไปต่อจนกว่าจะสุดทาง
สรุปแล้วจะเป็นอย่างไร ก็คงต้องรอให้ผ่านไปอีกหกเดือนข้างหน้า ก็น่าจะเห็นผลแล้วล่ะนะ?
หลังจากกลับมาถึงหมู่บ้านไป่ฮัว ตาแก่เฉินก็พาเฉินหลี่ซื่อกลับไปทันที เฉินจื่อฉายคิดจะตามไปดูแล ก็ถูกตาแก่เฉินปฏิเสธ
“พ่ออาจจะอยากคุยกับแม่ดี ๆ ก็ได้นะ? พวกเราก็ไม่ต้องไปก้าวก่ายแล้วจะดีกว่า!” เฉินจื่ออานพูดจบ ก็พาลู่ม่านกลับบ้านไปอีกคน
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนั้นตาแก่เฉินพูดอะไรกับเฉินหลี่ซื่อ แต่รู้แค่ว่านับจากวันนั้นเป็นต้นมา เฉินหลี่ซื่อก็ดูแลเอาใจใส่ตาแก่เฉินอยู่ที่บ้านทุกวัน ด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมเรียบร้อยมาก ๆ
ตาแก่เฉินก็ค่อย ๆ ดีขึ้นภายใต้การดูแลของเฉินหลี่ซื่อ ระดับความเร็วในการพูดก็ฟื้นฟูจนกลับมาเป็นปกติเท่าเมื่อก่อนแล้ว ทั้งยังมีขาและเท้าที่ค่อย ๆ เริ่มเคลื่อนไหวได้ยืดหยุ่นขึ้นมาบ้างระดับหนึ่ง
ในที่สุดเรื่องของบ้านเฉินก็ถือว่าจบลงเสียที เดือนกุมภาพันธ์ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุด การสอบช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...